ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส
แกนนำเสื้อแดง ประกาศจุดยืน 4 ข้อ ต้านรัฐประหารทุกรูปแบบ พร้อมนัดชุมนุมที่สนามราชมังคลากีฬาสถานต่อเนื่อง 5 วัน เหตุไม่มั่นใจสถานการณ์บ้านเมือง
เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันนี้ (24 พฤศจิกายน 2556) นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. พร้อมแกนนำ อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายวรชัย เหมะ ขึ้นเวทีปราศรัยอ่านแถลงการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในชื่อ "รัฐถูกประหารโดยศาลรัฐธรรมนูญ" โดยระบุว่า การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ครั้งนี้มีจุดยืน 4 ข้อ คือ
1. ยืนยันว่า การเมืองการปกครองของประเทศต้องเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างเดียวเท่านั้น
2. ยืนยันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจแท้จริงของรัฐสภา
3. นปช. ยืนยันการต่อสู้สันติวิธีในฐานะพลังประชาธิปไตย เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตย ไม่มีการใช้ความรุนแรง ไม่เผชิญหน้า
4. เราปฏิญาณว่าจะต่อต้านรัฐประหารทุกรูปแบบ ไม่ว่ารัฐประหารโดยใช้กฎหมายที่ไม่ใช่หลักนิติธรรม หรือรัฐประหารโดยกองทัพ หรือโดยวิธีใดในแผ่นดินนี้
นอกจากนี้ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำ นปช. ได้ออกมาเปิดเผยว่า การชุมนุมของกลุ่ม นปช. ครั้งนี้ จะชุมนุมต่อเนื่องเป็นเวลา 5 วัน ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เนื่องจากสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจต่อเสถียรภาพของรัฐบาล โดยนับจากวันนี้ ทางแกนนำ นปช. จะประเมินสถานการณ์แบบวันต่อวัน เพื่อกำหนดแนวทางการชุมนุม
ส.ส.อุดรฯ ขนเสื้อแดงขึ้นรถบัสมุ่งหน้าราชมังคลาฯ
รถมวลชนคนเสื้อแดงทั้งรถปิกอัพ รถทัวร์ ได้มุ่งหน้าออกจาก จ.อุดรธานี เข้าสู่สนามราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพมหานคร เพื่อชุมนุมภายใต้ข้ออ้างรัฐถูกประหาร โดยศาลรัฐธรรมนูญ โดยมี ส.ส.อุดรธานี นำโดย พล.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์ พร้อมด้วย คณะ ส.ส. ได้ร่วมประชุมกัน และจัดหารถให้โดยไม่จำกัด นำมวลชนคนเสื้อแดง ทั้งรถยนต์ส่วนตัว และรถบัสขนาดใหญ่ นำคนเสื้อแดงเข้ากรุงเทพมหานคร
ในขณะที่ นางรัตนวัลย์ สุขสาลา ประธาน นปช.ภาคประชาชน จ.อุดรธานี ก็ได้ประกาศรวมพลคนเสื้อแดงผ่านคลื่น FM 106.75 นำคนเสื้อแดงเข้าสู่กรุงเทพมหานคร
เสื้อแดงเริ่มทยอยเดินทางเข้าพื้นที่ชุมนุมแล้ว
บรรยากาศที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งเป็นสถานที่นัดชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ล่าสุด เริ่มมีประชาชนทยอยดินทางเข้ามาในพื้นที่การชุมนุมแล้ว โดยยังคงนั่งพักผ่อนอยู่บริเวณใต้อาคาร ส่วนบริเวณโดยรอบพื้นที่การชุมนุม มีการตั้งเต็นท์ขนาดใหญ่ เพื่อตั้งร้านอาหารและน้ำไว้บริการให้ผู้ร่วมชุมนุมที่จะเดินทางเข้ามาชุมนุม และยังมีพ่อค้าแม่ค้า นำอุปกรณ์การชุมนุมเชิงสัญลักษณ์ อาทิ เท้าตบ เสื้อสีแดง และแตร มาวางขายตามบริเวณพื้นที่การชุมนุมด้วย ขณะที่ภายในสนาม มีการจัดตั้งเวทีขนาดใหญ่ พร้อมเครื่องขยายเสียง และติดป้ายผ้าขนาดใหญ่ด้านหลังเวที มีข้อความว่า รัฐถูกประหาร โดยศาลรัฐธรรมนูญ
ธิดา จวกม็อบสุเทพ เป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมล้าหลัง
ด้าน นางธิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำ นปช. ระบุว่า สถานการณ์ในตอนนี้ร้อนแรงขึ้นทุกขณะ จึงได้นัดชุมนุมโดยมีคำขวัญในการชุมนุมว่า "รัฐถูกประหารโดยศาลรัฐธรรมนูญ" เพื่อปกป้องประเทศ เราสู้มาหลายปีแล้ว หากเที่ยวนี้เราไม่สู้ ผลพวงแห่งชัยชนะที่ต่อสู้มาทั้งหมดจะถูกทำให้ปลาสนาการไป จึงขอเชิญผู้คนโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มาร่วมชุมนุมกัน และการชุมนุมครั้งนี้จะเป็นประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นว่าพลังอนุรักษ์นิยมล้าหลัง กับพลังประชาธิปไตยก้าวหน้า สังคมไทยจะเลือกสนับสนุนพลังไหน พลังประชาธิปไตยจะต้องสามัคคี ท่านไม่จำเป็นต้องเป็นคนเสื้อแดง ขณะนี้ทางวิชาการทั้งหลายล้วนแต่ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น เป็นการไม่ชอบตั้งแต่การรับว่ามีอำนาจ
โดยมีจุดประสงค์ในการชุมนุม ดังนี้
1. เพื่อต้องการสื่อสารกับสังคมไทยทั้งหมด ไม่ให้มีการสื่อสารจากทางฝ่ายอนุรักษ์นิยมล้าหลังเพียงอย่างเดียว
2. เพื่อแสดงตัวตนของผู้พิทักษ์ระบอบประชาธิปไตย และยืนยันว่ารัฐบาลและรัฐสภายังดำรงอยู่ไม่ได้ถูกประหารโดยศาลรัฐธรรมนูญและ ป.ป.ช.
3. ต้องการต่อต้านรัฐประหารทุกรูปแบบ ซึ่งครั้งนี้ทำโดยศาลรัฐธรรมนูญ จึงไม่สามารถทนให้ศาลรัฐธรรมนูญย่ำยีประชาธิปไตยครั้งแล้วครั้งเล่า
ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า การนัดชุมนุมครั้งนี้เป็นไปอย่างเร่งด่วน เพราะในวันที่ 24 พฤศจิกายน ประชาธิปัตย์จะมีปฏิบัติการหลายอย่าง สอดคล้องกับการแถลงของ ป.ป.ช. ภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยเรื่องการแก้ไขที่มาของ ส.ว. วันแรก ป.ป.ช. ที่ระบุชัดเจนว่า กระบวนการถอดถอน ส.ส. และ ส.ว. 312 คน ต้องใช้เวลาในการไต่สวน และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่เกี่ยวข้องกับการไต่สวนคดีถอดถอน ส.ส. และ ส.ว. 312 คน แต่เมื่อวานนี้ ป.ป.ช. ได้เปลี่ยนท่าทีบอกว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ผูกพันทุกองค์กร นัดประธานวุฒิสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎรเข้าไต่สวนในวันที่ 26 พฤศจิกายน ทั้งที่รู้ว่าเป็นวันที่สภาผู้แทนราษฎรบรรจุวาระอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเป็นการเร่งเพื่อให้ทันตามที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ระบุว่าจะปิดฉากทุกอย่างภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน
ทั้งนี้ นายจตุพร กล่าวถึงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่า
1. คำวินิจฉัยนั้นเป็นการปักลิ่มเอาไว้ก่อน
2. เรื่องการแปรญัตติ ต้องแปรโดยเจตนาสุจริต ไม่ใช่แปรซ้ำซากเพื่อถ่วงรั้งการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ
3. กรณีกดบัตรแทนกัน ไม่ใช่เรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ
4. กฎหมายที่มีสภาพเป็นโมฆะ ปรากฏว่าพล.อ.สุรยุทธ์ เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ เป็นผู้รับผิดชอบ ไม่มีหน่วยงานใดที่จะดำเนินคดี แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รัฐธรรมนูญบังคับว่าต้องยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทูลเกล้าฯภายใน 20 วันหลังผ่านสภา ถ้าไม่ทูลเกล้าฯก็จะผิดรัฐธรรมนูญ วันนี้มีการพยายามดำเนินคดี นี่เป็นขบวนการที่ชี้ให้เห็นถึงขบวนการยุติธรรม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
