เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก leggo.it
เด็กอังกฤษวัย 13 สุดซวย แพทย์หยอดกาวในสมองจนสมองเสียหายหนัก เหตุเพราะเข็มที่ใส่กาวกับสีย้อมซึ่งไม่เป็นอันตรายเหมือนกันจนแยกไม่ออก
วันที่ 27 มกราคม 2557 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ มีรายงานว่า ศาลสูงของอังกฤษ ได้มีคำสั่งให้โรงพยาบาลเกรท ออร์มอนด์ สตรีท ต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 2.8 ล้านปอนด์ (ราว 153 ล้านบาท) ให้แก่เด็กหญิงไมซา นาจีบ วัย 13 ปี จากเมืองเอสเซ็กส์ ที่สมองของเธอถูกทำลายอย่างถาวรหลังจากที่แพทย์ได้ฉีดกาวเข้าไปในสมองของเธอ
ก่อนหน้านี้ ไมซา ได้เข้ามารับการรักษาจากโรงพยาบาลเกรท ออร์มอนด์ สตรีท ด้วยอาการหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำพันกัน ซึ่งเป็นอาการที่หาได้ยาก และส่งผลให้เธอเกิดอาการเลือดออกภายใน แพทย์จึงทำการรักษาด้วยการฉีดกาวเข้าไปบล็อกเส้นเลือกที่มีเลือดไหลออกมา และทำการฉีดสีย้อมที่ไม่เป็นอันตรายเพื่อตรวจสอบการไหลเวียนของเลือดรอบ ๆ สมองและศีรษะของเธอ ซึ่งการรักษาก็ดำเนินมาด้วยดีโดยตลอด จนกระทั่งวันที่แพทย์หยิบเข็มที่มีกาวอยู่ภายในมาฉีดเข้าไปในสมองของเธอแทนที่จะเป็นสีย้อม
โดย เอ็ดวินา รอว์สัน ทนายความจากบริษัทกฎหมายเผยว่า ทางโรงพยาบาลไม่มีระบบการจัดการที่ทำให้สังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างเข็มฉีดยาที่บรรจุกาว กับเข็มฉีดยาที่บรรจุสีย้อม และนั่นทำให้พวกเขานำเข็มทั้ง 2 ชนิดมาอยู่ปนกัน จนเป็นสาเหตุให้กาวถูกฉีดผิดเข้าไปในหลอดเลือดแดงและไหลไปสู่สมองของไมซา เกิดเป็นหายนะครั้งใหญ่เมื่อกาวได้ทำให้สมองของไมซาถูกทำลายอย่างถาวร
สำหรับคำสั่งของศาลสูงของอังกฤษนั้น นอกจากโรงพยาบาลเกรท ออร์มอนด์ สตรีท จะต้องจ่ายค่าเสียหายให้แก่ไมซาเป็นจำนวนเงิน 2.8 ล้านปอนด์ (ราว 153 ล้านบาท) แล้ว พวกเขายังต้องให้เงินชดเชยแก่ไมซาปีละ 383,000 ปอนด์ (ราว 20.9 ล้านบาท) จนกว่าเธอจะมีอายุครบ 19 ปี และจากนั้นก็เพิ่มเป็นปีละ 423,000 ปอนด์ (ราว 23.1 ล้านบาท) ตลอดชีวิตของเธอ
ด้านแผนกที่รับผิดชอบในการรักษาของเธอ ได้ออกมาขออภัยสำหรับความบกพร่องทางการรักษาที่เกิดขึ้น ซึ่งนำไปสู่ผลกระทบที่ร้ายแรงดังกล่าว และเปิดเผยว่าครอบครัวของไมซานั้นยังอนุญาตให้ทีมแพทย์เรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกสาว เพื่อให้ทางโรงพยาบาลนำมาปรับปรุงการรักษาต่อไปด้วย
ขณะที่พ่อของไมซา เผยว่า เราเศร้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกสาวของเรา ชีวิตและความฝันของเธอถูกทำลายลงแล้ว และผมก็หวังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะกลายมาเป็นบทเรียนที่จะไม่ทำให้เหตุการณ์เช่นนี้ต้องเกิดขึ้นกับครอบครัวอื่น ๆ อีก
ทั้งนี้ ทนายความเอ็ดวินา ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันเป็นสิ่งที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ หากโรงพยาบาลจะทำสัญลักษณ์บนเข็มฉีดยา เพื่อให้สามารถแยกได้ว่าอันใดที่บรรจุกาว และอันใดที่บรรจุสีย้อม ไมซาก็คงจะไม่ต้องทรมานจากอาการสมองเสียหาย ความผิดพลาดเช่นนี้ก็ไม่สมควรจะเกิดขึ้นเลยจริง ๆ
