x close

สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ถูกศาลฎีกาฯ จำคุก 2 ปี 6 เดือน ตัดสิทธิ์ 10 ปี

สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช
สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช นายก อบจ.เชียงราย
 
          สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ถูกศาลฎีกาฯ สั่งจำคุก 2 ปี 6 เดือน ตัดสิทธิ์ 10 ปี และหลุดเก้าอี้นายก อบจ.เชียงราย
 
          วันนี้ (12 มีนาคม 2557) ศาลฎีกามีการอ่านคำพิพากษาในคดีที่ นางรัตนา จงสุทธนามณี อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ยื่นฟ้อง นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช นายก อบจ.เชียงราย คนปัจจุบัน และเป็นภรรยาของนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชน หลังจากที่ นางสลักจฤฎดิ์ ไม่ได้มารับฟังการอ่านคำพิจารณาในคดีดังกล่าวเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ศาลได้ออกหมายจับนางสลักจฤฎดิ์ เพื่อนำตัวมาฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาในวันนี้
 
          โดยศาลฎีกาได้ตัดสินจำคุกนางสลักจฤฎดิ์ เป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน พร้อมตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นระยะเวลา 10 ปี ปรับเงินอีก 50,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี ส่งผลให้นางสลักจฤฎดิ์ หลุดจากเก้าอี้นายก อบจ.เชียงรายแล้ว
 
          ส่วนที่มาของคดีดังกล่าว เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2547 ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย ซึ่งพรรคไทยรักไทย ได้ส่งนางสลักจฤฎดิ์ลงสมัคร โดยมีนางรัตนาเป็นคู่แข่งคนสำคัญ ผลปรากฏว่า นางรัตนาสามารถเอาชนะการเลือกตั้งไปได้ ทำให้นางสลักจฤฎดิ์ เข้าร้องเรียนและฟ้องร้องนางรัตนาหลายคดี ซึ่งเน้นในเรื่องของการแจกของเพื่อหวังผลในช่วงเลือกตั้ง ซึ่งทางนางรัตนาก็ได้ฟ้องนางสลักจฤฎดิ์ในข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จ และกระทำการอันเป็นเท็จ ต่อมาศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาในปี 2549 ให้จำคุกนางสลักจฤฎดิ์ 3 ปี 9 เดือน ไม่รอลงอาญา ปรับ 75,000 บาท และเว้นวรรคทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี
 
          อย่างไรก็ตาม ได้มีการอุทธรณ์คดีจนยกฟ้อง และมีการเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2551 ซึ่งนางรัตนาชนะเลือกตั้ง ต่อมาในปี 2555 นางสลักจฤฎดิ์ จากพรรคเพื่อไทย ก็สามารถเอาชนะการเลือกตั้งได้ แต่คดีเก่าก็ยังคงอยู่จนมาถึงการนัดอ่านคำพิพากษาวันนี้


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ถูกศาลฎีกาฯ จำคุก 2 ปี 6 เดือน ตัดสิทธิ์ 10 ปี อัปเดตล่าสุด 12 มีนาคม 2557 เวลา 14:27:46 55,914 อ่าน
TOP