เพื่อไทย แถลงค้านอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยเลือกตั้ง 2 ก.พ.

 เพื่อไทย แถลงค้านอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยเลือกตั้ง 2 ก.พ.
 
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด
 
          เพื่อไทย แถลง 8 ข้อ ค้านอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ กรณีวินิจฉัยเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ ชี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่มีอำนาจส่งเรื่อง และองค์กรอิสระพยายามบีบให้สถานการณ์เข้าทาง กปปส.
 
          เมื่อวานนี้ (18 มีนาคม 2557) แกนนำพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 30 คน เช่น นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค, นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค, นายโภคิน พลกุล ทีมกฎหมายพรรค ฯ ได้ร่วมกันแถลงข่าวเรื่อง ขอคัดค้านการใช้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยการเลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ว่าเป็นโมฆะหรือไม่ หลังจากที่ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องดังกล่าว ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็ได้รับเรื่องเอาไว้พิจารณาแล้ว คาดว่าน่าจะมีคำวินิจฉัยออกมาภายในไม่กี่วันข้างหน้านี้ โดยคำแถลงการณ์ของพรรคเพื่อไทย มีดังนี้
 
          1. พรรคเห็นว่าผู้ตรวจการแผ่นดินไม่มีอำนาจที่จะส่งเรื่องดังกล่าวไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากอำนาจของผู้ตรวจการแผ่นดินที่จะส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญได้นั้น จะต้องเป็นเรื่องที่เห็นว่าบทบัญญัติใดของกฎหมายขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ แต่คำร้องดังกล่าว แม้จะอ้างว่า พ.ร.ฎ.ยุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2556 มีปัญหาในเรื่องความชอบต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 แต่ภายในตัวคำร้องเป็นเรื่องขอให้วินิจฉัยการกระทำของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการจัดการเลือกตั้งที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่มีประเด็นอะไรที่แสดงให้เห็นว่า พ.ร.ฎ.ยุบสภาฯ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ดังนั้น เรื่องนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงไม่มีอำนาจในการส่งเรื่องดังกล่าว
 
          2. มีพฤติกรรมหลาย ๆ องค์กรตามรัฐธรรมนูญที่น่าสงสัย อาจจะมีการใช้ทฤษฎีสมคบคิดเพื่อล้มการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ตั้งแต่แรก เริ่มจากการที่ กปปส. ไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งและมีกระบวนการขัดขวาง รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ก็ตัดสินใจไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ขณะเดียวกัน กกต. ก็เสนอให้มีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป หรือจัดการเลือกตั้งแบบไม่เต็มใจทำ จนการเลือกตั้งครั้งนี้มีปัญหาหลายประการ แล้วมีคำร้องดังกล่าวในที่สุด สุดท้าย ศาลรัฐธรรมนูญก็รับคำร้องทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ เป็นต้น
 
          3. พรรคมองว่า หากมีการล้มการเลือกตั้งด้วยกระบวนการที่มิชอบ อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคมมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการล้มล้างสิทธิของผู้ใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ
 

          4. ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องโดยไม่มีอำนาจ นอกจากจะไม่เคารพรัฐธรรมนูญและหลักนิติธรรมแล้ว ก็ยังเป็นการขยายขอบเขตอำนาจไม่มีที่สิ้นสุด อาจจะทำให้เกิดวิกฤตศรัทธาต่อระบบยุติธรรมของประเทศอย่างร้ายแรง
 
          5. พรรคจะยอมรับต่อการกระทำขององค์กรตามรัฐธรรมนูญที่อยู่ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมายเท่านั้น แล้วพรรคจะไม่ยอมรับการกระทำนอกเหนือรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ใช้กฎหมายมาเป็นเครื่องมือทำลายล้างทางการเมือง
 
          6. พรรคจะยืนเคียงข้างประชาชน และต่อสู้ให้ได้มาซึ่งอำนาจอธิปไตยที่เป็นของประชาชน ไม่ใช่อำนาจอธิปไตยของศาลรัฐธรรมนูญ และจะไม่ยอมให้อำนาจการตัดสินใจไปอยู่ในมือศาลรัฐธรรมนูญหรือองค์กรอิสระ
 
         7. หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะ จะถือว่าเป็นบรรทัดฐานที่เลวร้ายสำหรับประเทศไทย เนื่องจากเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นจากการขัดขวางของ กปปส. รวมถึงการละเลยหน้าที่ของ กกต. ดังนั้น หากในอนาคตข้างหน้าพรรคการเมืองใดรู้ว่าจะแพ้เลือกตั้ง ก็จะส่งคนออกมาขัดขวาง แล้วให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเป็นโมฆะในที่สุด
 
         8. เหตุผลของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง 28 เขตไม่สามารถสมัครรับเลือกตั้งได้ หรือการเปลี่ยนสถานที่รับสมัคร ส.ส. แบบไม่แจ้งล่วงหน้า หรือการอ้างว่ามีการนับคะแนนเลือกตั้งไปแล้ว การเลือกตั้งภายหลังอาจจะมีความได้เปรียบเสียเปรียบ เรื่องเหล่านี้พรรคมองว่ามีกฎหมายรองรับในการแก้ปัญหา เช่น กกต. ก็สามารถประกาศให้มีการรับสมัครและลงคะแนนเลือกตั้งในเขตนั้นได้ โดยไม่ต้องอ้างว่าไม่มีการเลือกตั้งวันเดียว ส่วนการเปลี่ยนสถานที่รับสมัครเลือกตั้ง ทุกคนก็ทราบปัญหาดีคือ มีการขัดขวางการรับสมัคร ซึ่ง ผอ.เขตเลือกตั้งก็มีอำนาจในการเปลี่ยนสถานที่รับสมัคร รวมถึงพรรคการเมืองทุกพรรคก็รับทราบและไม่ขัดขวาง
 
          จากที่แถลงมาทั้งหมด จึงไม่มีเหตุผลที่จะอ้างว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะ และขอให้ กกต. จัดการเลือกตั้งให้เสร็จสมบูรณ์ต่อไป นอกจากนี้ การกระทำของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ออกแนวผิดปกติ เช่น ให้รัฐบาลทำคำชี้แจงมาให้ศาลภายในวันที่ 17 มีนาคม เวลา 16.30 น. ทั้ง ๆ ที่ส่งเอกสารให้รัฐบาลไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคมนี้เอง ซึ่งถือว่ามีเวลาน้อยมากที่จะทำคำชี้แจง

 
          ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยก็มองว่า การเคลื่อนไหวของ 6 องค์กรอิสระ เป็นเพียงฉากหนึ่งในการโค่นระบอบประชาธิปไตย คล้ายกับเหตุการณ์ต่อเนื่องมาจากรัฐประหาร 2549 แต่เปลี่ยนตัวละครเล่นให้ดูสมจริงขึ้น อีกทั้ง 6 องค์กรไม่ทำหน้าที่ตามที่ตัวเองมีอยู่ แต่กลับมีท่าทีผลักดันให้การเมืองเกิดสุญญากาศ ตรงกับความต้องการของกลุ่ม กปปส. โดยเฉพาะพฤติกรรมของ กกต. เป็นสิ่งที่น่าสงสัยเป็นที่สุด เช่นเรื่องการที่ กปปส. และพรรคประชาธิปัตย์ พยายามขัดขวางการเลือกตั้ง กกต. ก็ไม่ดำเนินการอะไร แต่พรรคเพื่อไทยดำเนินถูกต้องตามกติกา กลับถูกจ้องเล่นงาน แล้วก็มีการปล่อยให้เวลาล่วงเลย ไม่สามารถเปิดประชุมรัฐสภาได้ตามกฎหมาย เพื่อบีบให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ หาทางลงให้ กปปส. และเปิดทางให้พรรคประชาธิปัตย์ส่งคนลงเลือกตั้งใหม่ หรือทำให้เกิดการนำไปสู่การใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 7 หรือการรัฐประหาร
 



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เพื่อไทย แถลงค้านอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยเลือกตั้ง 2 ก.พ. อัปเดตล่าสุด 22 มีนาคม 2557 เวลา 09:53:24 10,594 อ่าน
TOP
x close