ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณLAKORNHD Thaitv (Official) สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
เจ้าสาวขูดหินปูนเลือดไหลไม่หยุดเสียชีวิตในวันแต่งงาน ญาติเศร้าต้องจัดงานศพให้แทน ด้านแพทย์ ระบุ ผู้ตายเสียชีวิตเพราะเกล็ดเลือดต่ำมาก ทำให้เลือดไม่หยุดไหล ไม่เกี่ยวกับไปทำฟันแล้วติดเชื้อในกระแสเลือด
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2557 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า เกิดเรื่องเศร้าขึ้นในงานแต่งงาน เมื่อเจ้าสาวที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานได้เสียชีวิตกะทันหัน ทำให้ญาติพี่น้องต้องเปลี่ยนไปจัดงานศพให้แทน จึงเดินทางไปตรวจสอบที่วัดกล้วย หมู่ 11 ต.กะมัง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พบญาติพี่น้องกำลังจัดงานศพให้ นางสาวกิ่งหยก คงเสมา หรือน้องมุก อายุ 20 ปี
ทั้งนี้ จากการสอบถาม นางกรองแก้ว สังวาลเนตร อายุ 35 ปี มารดาของผู้เสียชีวิต ทราบว่า เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2557 เป็นวันที่น้องมุกมีกำหนดจัดงานแต่งงานกับ นายศุภกิน สายพิมพ์ อายุ 18 ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นคนงานในโรงหล่อพระ แต่ก่อนจะแต่งงานได้ประมาณสองสัปดาห์ น้องมุกได้ไปขูดหินปูนที่คลินิกแห่งหนึ่งในย่านวัดพระญาติการาม แล้วเกิดอาการเลือดไหลไม่หยุด กระทั่งเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ขณะที่น้องมุกกำลังเตรียมจัดงานแต่งงานของตัวเองก็เกิดอาการเลือดไหลออกมามากผิดปกติ ญาติจึงนำส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา โดยมีนายศุภกิจอยู่เฝ้าทั้งคืน แต่แล้วน้องมุกก็เสียชีวิตลงในเวลา 06.00 น. ของวันที่ 31 มีนาคม ซึ่งตรงกับวันแต่งงานพอดี
นางกรองแก้ว เล่าด้วยความโศกเศร้าและร้องไห้ตลอดเวลา ว่า ทางแพทย์ได้วินิจฉัยว่าน้องมุกเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ญาติจึงนำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศล และตนได้นำชุดไทยที่น้องมุกเตรียมไว้ใช้ในงานแต่งงานมาสวมให้ลูกสาวตามความตั้งใจด้วย ส่วนญาติ ๆ และผู้ที่ได้รับเชิญมาร่วมงานแต่งก็ต้องมารดน้ำศพแทน ซึ่งจะมีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 3 เมษายนนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเสียใจให้ตนมาก เพราะน้องมุกเป็นลูกสาวคนโตและเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว
ด้าน นายศุภกิจ ว่าที่เจ้าบ่าว กล่าวด้วยความเสียใจว่า คบหากับน้องมุกมา 1 ปี คืนก่อนที่น้องมุกจะเสียชีวิตยังพูดกับตนอยู่เลยว่า ให้อยู่ด้วยกัน อย่าทิ้งกันไปไหน กระทั่งรุ่งเช้าวันแต่งงานก็มาเสียชีวิต ทั้งนี้ ทุกคนเชื่อว่าน้องมุกเสียชีวิตเพราะไปขูดหินปูน ทำให้เกิดอาการติดเชื้อในกระแสเลือด
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ นพ.สุรชัย โชคครรชิตไชย รอง ผอ.รพ.พระนครศรีอยุธยา ได้ชี้แจงว่า สาเหตุที่นางสาวกิ่งหยกเสียชีวิต เพราะเกล็ดเลือดต่ำ ทำให้เลือดออกไม่หยุดทั้งในช่องท้องและสมอง ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการไปทำฟันแล้วติดเชื้อในกระแสเลือด
โดย นพ.สุรชัย ระบุว่า ทางโรงพยาบาลรับตัวนางสาวกิ่งหยกเข้ามารักษาเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 มีนาคม ซึ่งนางสาวกิ่งหยกมีอาการอาเจียนเป็นเลือด และมีเลือดออกตลอดเวลา เมื่อแพทย์ตรวจก็พบว่าเกล็ดเลือดต่ำมีอยู่เพียง 2 หมื่นมิลลิเมตรปรอทเท่านั้น เมื่อเทียบกับคนปกติที่มีเกล็ดเลือด 2-4 แสนมิลลิเมตรปรอท ถือว่าเกล็ดเลือดต่ำและผิดปกติรุนแรงมาก แพทย์จึงเร่งช่วยเหลือ กระทั่งเวลา 06.00 น. วันที่ 31 มีนาคม ผู้ป่วยเกิดอาเจียนจนหมดสติ แพทย์จึงช่วยปั๊มหัวใจแต่ไม่เป็นผล นางสาวกิ่งหยกจึงเสียชีวิตในเวลา 07.15 น.
ในส่วนของญาติพี่น้องที่เข้าใจว่า นางสาวกิ่งหยกเสียชีวิตเพราะไปทำฟันแล้วติดเชื้อนั้น นพ.สุรชัย มองว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะการติดเชื้อต้องใช้เวลา และต้องเป็นไข้ มีอาการซึม คาดว่าที่นางสาวกิ่งหยกไปทำฟันแล้วเลือดออกไม่หยุด ทางคลินิกอาจไม่ได้วินิจฉัยว่าเป็นโรคเกล็ดเลือดต่ำ และทางแพทย์ก็ยังไม่ได้ทำความเข้าใจกับญาติ ทำให้ญาติเข้าใจไปได้ว่า นางสาวกิ่งหยกไปทำฟันแล้วเสียเลือดมากจนเสียชีวิต ซึ่งก็ต้องทำความชี้แจงต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
