เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Instagram Krystal Cantu
สาวชาวเทกซัสวัย 25 ปี ไม่ย่อท้อกับอุปสรรคทางกาย หลังเสียแขนขวาไปจากอุบัติเหตุรถคว่ำ ยังสานต่อกีฬาโปรด ยกน้ำหนัก แถมยังยกได้มากกว่าตอนมีแขนครบสองข้างเสียอีก
ชีวิตของคนที่เคยสมบูรณ์แข็งแรงดีเหมือนจะถึงทางตัน เมื่อจู่ ๆ ก็มีเหตุให้ต้องเสียแขนข้างขวาไป จากสาวผู้กระฉับกระเฉงก็ต้องกลายเป็นผู้พิการแขนไปอย่างคาดไม่ถึง นี่คือเรื่องราวส่วนหนึ่งของ คริสตัล แคนทู (Krystal Cantu) หญิงวัย 25 ปี จากเทกซัส สหรัฐฯ ที่ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ จนทำให้หมอตัดสินใจตัดแขนข้างขวาตั้งแต่เหนือข้อศอกของเธอออกไป หลังพิจารณาแล้วว่ามันไม่อยู่ในสภาพสาหัสเกินเยียวยา
"คนอื่น ๆ พยายามช่วยฉันไม่ให้คิดถึงมัน ฉันเองก็พยายามไม่มองดูแขนของตัวเอง แต่มันช่วยไม่ได้จริง ๆ เมื่อฉันได้เห็นสภาพตัวเองสะท้อนอยู่ในแว่นตากันแดดของคนที่มาเยี่ยม" แคนทูย้อนลำรึกถึงช่วงเวลาขมขื่นในโรงพยาบาล
แต่เรื่องราวอีกส่วนที่กำลังจะกล่าวต่อไปนี้ ไม่ใช่เรื่องน่าหดหู่จากความสูญเสียของเธอแต่อย่างใด เว็บไซต์เมโทร ผู้นำเรื่องราวของเธอมาเผยเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2557 รายงานว่า แคนทูไม่ได้จมอยู่กับความเสียใจนานนัก เธอปรับตัวและยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ในเวลาเพียง 3 สัปดาห์หลังออกจากโรงพยาบาล แคนทูก็กลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ รวมถึงการเข้ายิมออกกำลังกายสไตล์ครอสฟิต (CrossFit) ซึ่งเป็นงานอดิเรกที่เธอโปรดปรานด้วย
ครอสฟิต เป็นการออกกำลังกายเน้นสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย โดยผสมผสานทั้งคาร์ดิโอ ยิมนาสติก และการยกน้ำหนักเข้าด้วยกัน แคนทูสานต่อทุกอย่างราวกับไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายตัวเอง รวมถึงการยกน้ำหนัก ซึ่งเธอใช้แขนเพียงข้างเดียวที่เหลือยกมันขึ้นมาได้อย่างน่าทึ่ง ราวกับในเวลานั้นเธอได้ทุ่มพลังในการใช้ชีวิตทั้งหมด เพื่อยกบาร์เบลที่เปรียบเหมือนอุปสรรคก้อนโตออกไปจากชีวิตได้สำเร็จ
ข้อจำกัดทางกายไม่ได้กลายเป็นอุปสรรคที่ทำให้แรงใจของสาวรายนี้ลดน้อยลงเลยสักนิด แถมมันยังทำให้เธอทุ่มเทและทำได้ดีกว่าเดิมเสียด้วย เมื่อแคนทูสามารถยกบาร์เบลได้หนักขึ้นกว่าตอนที่มีแขนอยู่ครบทั้งสองข้างเสียอีก ทำให้เธอกลายเป็นแรงบันดาลใจที่เจ๋งสุด ๆ ต่อบรรดาผู้ไปออกกำลังกายคนอื่น ๆ ความหวังสูงสุดของเธอคือสักวันเธอจะเป็นตัวแทนเพื่อลงแข่งขันในกีฬาประเภทนี้ และเธอก็กำลังไล่ตามความฝันของตัวเองอยู่อย่างไม่ลดละ
"อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตของฉันเลยล่ะ มีเรื่องดี ๆ ตามมาหลังจากนั้นเยอะแยะเลย" สิ่งที่แคนทูกล่าวไว้ ช่างบ่งบอกถึงทัศนคติในการดำรงชีวิตได้ดีเหลือเกิน เธอไม่ได้มองถึงส่วนที่ขาดหายไป แต่ให้ความสำคัญกับสิ่งดี ๆ ที่ตัวเองยังมีอยู่ต่างหาก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เธอกลายเป็นคนที่สมบูรณ์ด้วยความสุขมากกว่าตอนก่อนหน้าเสียอีก
จากเรื่องราวของคริสตัล แคนทู ทำให้เราเชื่อมั่นว่า ใครก็ตามที่กำลังประสบปัญหา หากได้ลองมองโลกและมองตัวเองในแง่มุมเดียวกับสาวคนนี้แล้ว ก็คงจะค้นพบทางออกและวิธีทำให้ชีวิตมีความสุขได้แน่นอนเลยล่ะ ขอให้รักษาจิตใจเราให้เข้มแข้งเอาไว้ ไม่ว่าจะอุปสรรคใด ๆ ก็ต้องเอาชนะและผ่านพ้นมันได้แน่ ๆ ค่ะ :D