พ่อขาพิการโร่แจ้งความ ถูกดาราตลกตุ๋นเงินบริจาค 8 หมื่น

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด

           พ่อขาพิการที่ประกาศหาผู้ใจบุญรับดูแลลูกเพราะอาจจะต้องติดคุก โร่แจ้งความอ้าง นาย ป. ดาราตลก ทำทีมาให้ความช่วยเหลือ ก่อนตุ๋นเงินบริจาคไป 8 หมื่นบาท

           จากกรณีที่ นายเฉลียว ซ่อนกลิ่น อายุ 58 ปี ชาวบ้านจังหวัดอ่างทอง ซึ่งพิการขาขาดสองข้าง ออกมาประกาศหาผู้ใจบุญรับดูแล ด.ญ.จุฑามณี ซ่อนกลิ่น หรือ น้องพลอย อายุ 12 ปี ลูกสาว เนื่องจากตัวเองอาจจะต้องติดคุกในข้อหารับซื้อของโจร และได้มีหลายหน่วยงานเข้ามายื่นมือช่วยเหลือ รวมทั้งมีผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือผ่านเข้าบัญชีธนาคาร ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

           ล่าสุด (2 ตุลาคม 2557) นายเฉลียวได้เดินทางเข้าแจ้งความยัง สภ.ป่าโมก จ.อ่างทอง โดยระบุว่า นาย ป. ดาราตลกคนหนึ่ง ได้เข้ามาหลอกลวงนำเงินสดจำนวน 8 หมื่นบาท ที่มีผู้ใจบุญบริจาคช่วยน้องพลอยลูกสาวตน โดยอ้างว่าจะนำเงินไปให้นักข่าวส่วนกลาง เพื่อนำเลขที่บัญชีธนาคารของตนออกอากาศ แต่สุดท้ายกลับมาแจ้งความว่าตนหมิ่นประมาท กล่าวหาว่านาย ป. นำเงินของตนไป

           โดยนายเฉลียว เล่าว่า เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตนอยู่โรงพยาบาลได้มี นาย ป. ดาราตลกคนหนึ่ง เข้ามาหาตน พร้อมทั้งบอกให้ตนรีบไปดูเงินที่มีผู้ใจบุญโอนเข้ามา มียอดโอนกว่า 2 แสนบาท ซึ่งตนได้เบิกเงินออกจากบัญชีมาไว้ในรถของ นาย ป. โดยระหว่างนั้น นาย ป. ก็พยายามบอกตนว่า ตนมีคดีเยอะ ตำรวจกำลังจะตามจับ และนักข่าวกำลังจะเอาเรื่องออกทีวี ถ้าเรื่องนี้ดัง นาย ป. ก็จะเสียหายด้วย จึงอ้างว่าจะต้องนำเงินไปให้นักข่าวเพื่อไม่ให้นำเสนอข่าว จากนั้น นาย ป. ก็แบ่งเงินให้ตนเก็บไว้ 5 หมื่นบาท อีก 5 หมื่นบาทให้เปิดบัญชีใหม่ อีก 135,000 บาท ให้เปิดบัญชีชื่อของน้องพลอย ส่วนอีก 8 หมื่นบาท นาย ป. เอาไป

           จนกระทั่งตกเย็น ตนก็รอดูข่าวตามที่ นาย ป. อ้างว่าจะนำเรื่องของตนนำเสนอข่าวทางช่อง 9 แต่ก็ไม่พบข่าวใด ๆ จึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปหา นาย ป. แต่ นาย ป. กลับบอกว่าไม่มีการออกอากาศ ตนก็คิดว่าคงโดนหลอกแล้ว จึงโทรกลับไปหา นาย ป. เพื่อขอเงินคืน ซึ่ง นาย ป. ก็รับปากจะนำเงินมาคืน และขู่อีกว่าจะมีนักข่าวเสนอข่าวที่ไม่ดีของตน 

           นายเฉลียว เล่าต่อไปว่า ตนมาคิดดูแล้วว่าจะเสนออะไรก็เสนอไป เพราะตนไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องมาเอาเงินของลูกสาวตนที่มีคนใจบุญบริจาคมา และกลับมาแจ้งความว่าไม่ได้เอาเงินไป หาว่าตนหมิ่นประมาทอีกด้วย ตนจึงต้องมาแจ้งความเอาเงินของตนคืน โดยก่อนที่จะมาแจ้งความตนได้ไปที่ธนาคาร ทางธนาคารก็ได้แนะนำให้ทางตำรวจมาขอดูกล้องวงจรปิด เพราะจะมี นาย ป. อยู่ในภาพกล้องวงจรปิดของธนาคาร ทั้งนี้หากมีโอกาสตนอยากจะร้องเรียนไปยังสมาคมตลกด้วย

           ด้าน นายกรรมมาธิการ จิตตะมาก ผอ.โรงเรียนวรดิษวิทยาประสูทน์ กล่าวว่า เมื่อเช้านี้ (2 ตุลาคม) นายเฉลียวมาหาตนและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ตนก็งงมากเพราะเมื่อวานนี้ นาย ป. ได้โทรศัพท์มาหา บอกจะเปิดบัญชีเงินฝากให้น้องพลอยกว่า 1 แสนบาท ตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี จึงชวนครูไปด้วยอีกคนและได้นำเงินจำนวน 135,000 บาท เข้าบัญชีในชื่อของน้องพลอยเท่านั้น ซึ่งจากที่นายเฉลียวเล่าว่า นาย ป. เอาไปอีก 8 หมื่นบาทนั้น ตนได้โทรไป หานาย ป. ซึ่ง นาย ป. บอกว่าจะเอาไว้เป็นค่าประกันอะไรสักอย่าง อย่างไรก็ตามตนอยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาคุยกันมากกว่า

           ขณะที่ ร.ต.ท. อำนาจ มีทองคำ ร้อยเวร สภ.ป่าโมก เผยว่า คืนวันก่อน (1 ตุลาคม) นาย ป. เพิ่งจะเข้ามาแจ้งความกล่าวหานายเฉลียวและนักข่าวว่าหมิ่นประมาท หาว่า นาย ป. นำเงินจากนายเฉลียวไป ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องว่ากันต่อไป แต่การที่นายเฉลียวแจ้งความก็เป็นการดี เพื่อเป็นการยืนยันตามหลักฐานว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร ส่วนเรื่องเงินที่ให้กัน ถึงไม่มีหลักฐาน แต่พยานหลักฐานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิด การเดินทางมารับนายเฉลียว ก็น่าจะบ่งบอกว่ามีเจตนาอะไร ซึ่งทุกอย่างก็ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก