เร่งคลี่ปมครูญี่ปุ่นหายตัว คุมตัวผัวเมียต้องสงสัยสอบต่อค่ายทหาร

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด

          เร่งคลี่ปม นายโยชิโนริ ชิมาโตะ ครูญี่ปุ่นหายตัว คุมตัวผัวเมียต้องสงสัย สอบที่ พล.ม.2 หวั่นหลบหนี แม้ทั้งคู่จะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและไม่มีพยานชี้ชัด แต่ทั้งสองคนเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับผู้สูญหายก่อนหายตัวอย่างไร้ร่องรอย

          จากกรณีที่ นายเทสซึโอะ ชิมาโตะ อายุ 47 ปี ชาวญี่ปุ่นเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ว่า นายโยชิโนริ ชิมาโตะ อายุ 79 ปี ผู้เป็นพ่อ ซึ่งเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นในประเทศไทยนั้นหายตัวไป โดยสงสัย นางพรชนก ไชยะปะ เนื่องจากนำบัตรเอทีเอ็มของนายโยชิโนริไปกดเงิน 7 แสนบาท ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

          ล่าสุด วันนี้ (21 ตุลาคม 2557) เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยหลังการประชุมว่า คดีดังกล่าวถือเป็นคดีที่น่าสนใจต่อสังคม เนื่องจากเป็นกรณีที่เกิดขึ้นกับชาวต่างชาติ ซึ่งผลการประชุมได้แบ่งการสั่งการไว้ 3 ประการได้แก่

          1. ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนติดตามตั้งแต่วันที่ทราบข่าวการหายตัวไป คือวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา จนถึงวันสุดท้ายที่พบนายโยชิโนริ
 
          2. ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบเร่งรัด รวบรวมพยานหลักฐานและพยานบุคคลให้ชัดเจน โดยเฉพาะกรณีการกดบัตรเอทีเอ็มเบิกเงิน หรือกรณีที่นางพรชนกพูดคุยกับหมอว่า ไม่ใช่ภรรยาของนายโยชิโนริ  พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวกับทางการแพทย์ที่นายโยชิโนริไปเข้ารับการรักษา และขยายผลเชื่อมโยงกรณีที่นายโยชิโนริอยู่กับนางพรชนกด้วยกันแบบสามีภรรยา ว่ามีอะไรแอบแฝงหรือไม่ เช่นประเด็นสามีเดิมของนางพรชนก
 
           3. เร่งหาศพนิรนาม โดยเป็นศพนิรนามเป็นชาวต่างชาติหรือเป็นชายชาวเอเชียที่เสียชีวิตระหว่างวันที่ 21 กันยายน ถึงวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา หากใครพบศพต้องสงสัยไม่มีญาติมารับ ขอให้แจ้งโดยตรงได้ที่ ผบช.น. หรือ ผบก.น.1 โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ   จะทำบันทึกสั่งการอีกครั้ง

           พร้อมเผยอีกว่า ปมที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งไว้ก็คือเรื่องเงินประกันชีวิต รวมถึงเชื่อว่า นายสมชาย แก้วบางยาง สามีของนางพรชนกนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากทั้งสองคนได้หายตัวไปจากบ้านพักที่ย่านบางนาและเคหะบางพลีอย่างน่าสงสัย จนกระทั่งชุดสืบสวนสามารถจับกุม นางพรชนกและนายสมชาย ไว้ได้เมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 ตุลาคม ขณะทั้งคู่ขับรถแท็กซี่ไปจอดทิ้งไว้ที่ จ.อ่างทอง

            ทั้งนี้หลังจากควบคุมตัวไปสอบสวน ทั้งคู่ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ทำให้ชุดสืบสวนต้องนำตัวมาควบคุมต่อที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) สนามเป้าแทนแล้วตามกฎอัยการศึก เนื่องจากเกรงว่าทั้งคู่จะหลบหนีไปอีก ซึ่งถึงแม้จะยังไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจนก็ตามว่าผู้ต้องสงสัยเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุจริง แต่ทั้งนี้เป็นเพราะนางพรชนกเป็นคนสุดท้ายที่พานายโยชิโนริไปพบแพทย์ที่ รพ.บางนา ก่อนจะพากลับ จากนั้นนายโยชิโยริก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
,