น.ศ.พริตตี้ ถูก ร.ต.ท. หึงโหด จับแก้ผ้า-เหยียบหน้า-ข่มขู่
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด
น.ศ.สาวพริตตี้ เดินทางร้องเรียนมูลนิธิปวีณา หลังถูก ร.ต.ท. แฟนหนุ่ม หึงโหด จับแก้ผ้า ดูดคอ ดูดหน้าอก เป็นรอยจ้ำเต็มตัว แถมยังเหยียบหน้า พร้อมกับถ่ายรูปเตรียมแบล็กเมล์ อีกทั้งยังไล่กลับบ้านในสภาพเปลือย เหตุฉุนคุยไลน์กับรุ่นน้อง
ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันนี้ (3 พฤศจิกายน 2557) นางสาวแอน (นามสมมติ) อายุ 22 ปี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มีอาชีพเป็นพริตตี้ถ่ายแบบในงานต่าง ๆ ได้เดินทางเข้าร้องเรียนต่อ นางปวีณา หงสกุล กรณีที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ "ร.ต.ท." ชื่อ บอย (นามสมมติ) ซึ่งเป็นแฟนหนุ่ม ทำร้ายร่างกาย พยายามข่มขืน หนำซ้ำยังทำให้อับอายอีกด้วย
ทั้งนี้ นางสาวแอน เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.00 น. ของวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายบอย ประจำอยู่ที่ สน.แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ได้ขับรถมารับตนที่ที่ทำงานย่านเกษตร-นวมินทร์ จากนั้นได้พาตนไปที่บ้านของนายบอย ซึ่งอยู่ในเคหะร่มเกล้า และเมื่อไปถึงตนก็นอนพักผ่อนและก็เผลอหลับไป โดยวางโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้ จากนั้นตนก็รู้สึกตัวอีกที เมื่อนายบอยกระชากผม อีกทั้งยังฉีกเสื้อผ้าตนและเอากรรไกรตัดจนตนโป๊ล่อนจ้อน ส่วนนายบอยตอนนั้นก็อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า และใช้ปากดูดซอกคอและเนินอก จนตัวตนนั้นเป็นรอยจ้ำ ๆ เต็มไปหมด พร้อมบอกกับตนว่า ต้องการให้ตนอับอาย โทษฐานที่ไปคุยไลน์กับเพื่อนรุ่นน้องปี 1 มหาวิทยาลัยเดียวกัน และหลังจากนั้นก็พยายามข่มขืนตน
นางสาวแอน กล่าวต่อว่า ตอนนั้นตนขัดขืนอย่างแรง สักพักนายบอยก็ใช้เท้าเหยียบบริเวณหน้าซ้ายของตน พร้อมกับใช้มือถือถ่ายรูปเก็บไว้ และข่มขู่ตนว่า หากตนไปบอกใครจะเผยแพร่ภาพให้อับอาย เอาให้ทำงานไม่ได้
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ นางสาวแอน ยังกล่าวอีกว่า นายบอยยังพยายามจิกผมตนลากออกจากบ้านในสภาพเปลือย พร้อมกับไล่ให้ตนกลับบ้านเอง ซึ่งห่างจากบ้านของนายบอยประมาณ 3-4 กิโลเมตร แต่โชคดีที่ตนคว้าเอาเสื้อเชิ้ตมาได้หนึ่งตัว ซึ่งพอจะปกปิดร่างกายได้บ้าง แต่ก็ปิดได้แค่เพียงส่วนบนเท่านั้น ส่วนล่างไม่มีอะไรปิดเลย รองเท้าก็ไม่ได้ใส่ หลังจากที่ตนออกจากบ้านดังกล่าว ตนก็วิ่งแบบไม่คิดชีวิต พอดีมีพี่แท็กซี่พลเมืองดีมาจอดรับ พร้อมกับบอกตนว่าไม่ต้องกลัว และถามตนว่าจะไปไหน ตนก็บอกว่าให้ไปส่งที่ห้องพักในมหาวิทยาลัย ซึ่งแท็กซี่ดังกล่าวก็มาส่งตนถึงมหาวิทยาลัยโดยไม่เก็บค่าโดยสารตนสักบาทเดียว
เมื่อเพื่อน ๆ เห็นสภาพของตน จึงรีบพาส่งที่โรงพยาบาล พออาการทุเล่า ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ แต่ก็กลัวเพราะว่านายบอยเป็นตำรวจในท้องที่ดังกล่าว เลยเปลี่ยนใจเข้ามาร้องทุกข์กับนางปวีณาแทน ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างตนกับนายบอยนั้น ตนคบหาดูใจกับนายบอยหลังจากที่ตนเข้าแจ้งความเรื่องถูกชิงทรัพย์ และตกลงเป็นแฟนกันเมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว
ขณะที่ นางปวีณา เผยว่า หลังจากที่ตนพบนางสาวแอนตนรู้สึกสงสารมาก เพราะตามตัวมีรอยจ้ำ ๆ เต็มไปหมด ซึ่งคดีนี้ถือว่าตำรวจซึ่งเป็นผู้พิทักษ์กฎหมายกลับลงมือเสียเอง จึงสมควรได้รับผิดสองเท่า เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ฉะนั้นผู้บังคับบัญชาต้องดำเนินการเอาผิดทางวินัยและดำเนินคดีทางกระบวนการยุติธรรม ส่วนในวันนี้ ตนจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ มูลนิธิปวีณาฯ พานางสาวแอนเข้าแจ้งความที่กองปราบปราม เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
