
เปิดมุมมองชาวบ้าน... อาถรรพ์ตึกร้างสาทร ยูนิค ทาวเวอร์
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก js100.com
มาดูอีกมุมมองหนึ่งของชาวบ้าน ตึกร้างสาทร ยูนิค ทาวเวอร์ ตึกผีสิงร้างกลางกรุง เชื่อมีอาถรรพ์เหตุทำเลที่ตั้งไม่ดี เงาตึกบัดบังวัดเก่าแก่
จากกรณีพบศพชาวต่างชาติผูกคอตายอยู่บนชั้น 43 อาคารสาทร ยูนิค ทาวเวอร์ ตึกผีสิงร้างกลางกรุง ซึ่งกำลังเป็นประเด็นฮือฮาในขณะนี้ หากมองในแง่ของคดีความก็ถือเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งสืบหาความจริง อย่างไรก็ดียังมีอีกมุมมองหนึ่งจากชาวบ้านในพื้นที่ ที่มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นรวมถึงปัญหานานัปการที่เกิดขึ้นกับอาคารแห่งนี้ ล้วนแต่เป็นอาถรรพ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากที่ตั้งของอาคาร
โดยเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2557 ผู้สื่อข่าว จส.100 ได้นำเสนอเรื่องราวของ อาคารสาทร ยูนิค ทาวเวอร์ จากอีกหนึ่งมุมมองของชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ โดยมีความเชื่อกันว่าจุดเริ่มต้นของปัญหาทั้งหมดเกิดขึ้นจากการที่อาคารร้างแห่งนี้ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามวัดยานนาวา ทำให้เงาตึกบดบังจนแดดส่องไม่ถึงวัดเก่าแก่แห่งนี้ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ภายในมีพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าประดิษฐานอยู่ และมีเรือสำเภาหรือพระสำเภาพระเจดีย์ ที่รัชกาลที่ 3 ทรงรับสั่งให้สร้างขึ้น ถือว่าเป็นสิ่งศักสิทธิ์ที่คนในพื้นที่ให้ความเคารพนับถืออย่างมาก

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น มีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะทำเลที่ตั้งของอาคารสาทร ยูนิค ทาวเวอร์ เพราะก่อนที่จะมีการก่อสร้างอาคารชุด พื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นโรงหนังศรีสาทรมาก่อน แต่สุดท้ายก็ต้องปิดกิจการไป ก่อนมาก่อสร้างเป็นอาคารดังกล่าว บางคนยังเปรียบเทียบอาคารแห่งนี้กับอาคารชุดและคอนโดในพื้นที่ใกล้เคียง ว่ามีหลายอาคารที่สร้างขึ้นหลังอาคารสาทร ยูนิค ทาวเวอร์ แต่ขณะนี้ได้สร้างเสร็จเรียบร้อยและมีคนเข้ามาอยู่อาศัยแล้ว
สำหรับข่าวใหญ่ที่พัวพันกับอาคารสาทร ยูนิค ทาวเวอร์ นอกจากกรณีพบศพชายชาวต่างชาติแล้ว ยังมีคดีความที่ นายรังสรรค์ ต่อสุวรรณ เจ้าของอาคารสาทร ยูนิค ทาวเวอร์ ถูกจับดำเนินคดีในคดีจ้างวานฆ่า นายประมาณ ชันซื่อ ประธานศาลฎีกา ซึ่งว่ากันว่าคดีนี้มีความแปลกประหลาดมาก เพราะคนที่อ้างว่าเป็นมือปืนยอมรับสารภาพทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ลงมือฆ่าตามใบสั่ง ทำให้แม้แต่ตัวประธานศาลฎีกาเองก็ดูจะไม่เชื่อว่านายรังสรรค์จะเป็นคนจ้างวานฆ่า และแม้จะมีเอกสารอ้างอิงต่าง ๆ แต่ในที่สุดศาลชั้นต้นก็ได้พิพากษาจำคุก นายรังสรรค์ เป็นเวลา 25 ปี เป็นเหตุให้การก่อสร้างอาคารสาทร ยูนิค ทาวเวอร์ มีอันต้องยุติไปโดยไม่สามารถสร้างต่อจนเสร็จได้ ก่อนที่ต่อมาศาลอุทธรณ์จะพิพากษาให้ยกฟ้องในปี 2551
ทั้งนี้ นายรังสรรค์ ต่อสุวรรณ ได้เปิดเผยผ่าน นายเชาวฤทธิ์ ทรงนวรัตน์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการเขตสาทร ว่า มีผู้สนใจซื้ออาคารสาทร ยูนิค ทาวเวอร์ ต่อจากตน และได้ทำสัญญาการซื้อ-ขายไว้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ แต่ก็มาเกิดเหตุมีคนเสียชีวิตในอาคารเสียก่อน

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงอีกมุมมองหนึ่งของชาวบ้าน ต่อเหตุการณ์ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับสิ่งปลูกสร้างในจุดดังกล่าวเท่านั้น โดยยังไม่สามารถหาหลักฐานพิสูจน์ถึงข้อเท็จจริงได้ จึงนับเป็นสิ่งที่ผู้อ่านควรใช้วิจารณญานส่วนตัวในการรับข้อมูลด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
