
ราเมศ สวน พิชัย พรรคชั่ว ตั้งกี่ครั้งก็โดนยุบอยู่ร่ำไป
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์
ราเมศ สวน พิชัย พรรคชั่ว ตั้งกี่ครั้งก็โดนยุบอยู่ร่ำไป อีกไม่นานคงสูญพันธุ์ บอกถ้าหาก ปชป. ไม่ดีจริง คงไม่อยู่จนถึงทุกวันนี้
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2557 นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกและคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงประเด็นที่ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พูดถึงพรรคประชาธิปัตย์หลายเรื่อง เช่น พรรคหวังใช้อำนาจพิเศษเป็นรัฐบาล พรรคควรปฏิรูปพรรค เพื่อให้ชนะการเลือกตั้ง หรือพรรคใช้เงินเลือกตั้งมากควรเลิกหลอกตัวเองได้แล้ว โดยระบุว่า เป็นคำกล่าวหาที่หวังโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคที่อยู่ได้มา 69 ปี เป็นเพราะยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ถ้าไม่ดีจริงคงไม่อยู่ถึงทุกวันนี้ ไม่เหมือนกับพรรคของนายพิชัย ตั้งกี่ครั้งก็ถูกยุบ เนื่องจากทำผิดกฎหมายทั้งสิ้น อีกทั้งการใช้เงินของพรรคประชาธิปัตย์ เราทำตามกฎหมายกำหนด ไม่ต้องใช้เงินซื้อเสียง
นายราเมศ กล่าวต่อไปว่า พรรคเรามีความเป็นสถาบันทางการเมือง พร้อมที่เป็นรัฐบาลและฝ่ายค้าน ไม่เหมือนบางพรรคที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ที่สำคัญพรรคไม่เคยคิดออกกฎหมายล้างผิดให้แก่คนโกง ไม่เคยมีนโยบายจังหวัดใดเลือกเรา เราไปพัฒนาก่อน รวมถึงไม่เคยสร้างความเสียหายให้กับประเทศมากมาย เช่น โครงการจำนำข้าว เป็นต้น ทั้งนี้พรรคไม่ได้หวังอำนาจพิเศษเป็นรัฐบาล การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ถูกเลือกมาจากสภา ซึ่งถูกต้องตามกฎหมาย
พร้อมกันนี้ นายราเมศ กล่าวอีกว่า เรื่องการปฏิรูปพรรค พรรคไม่เคยหยุดนิ่ง มีการพัฒนาไปตามกาลเวลา ซึ่งการที่พรรคเดินหน้าต่อไปได้ เป็นเพราะพรรคมีหัวหน้าที่ดี มีคุณธรรม ลูกพรรคจึงไม่คิดทำในสิ่งไม่ดี แต่ถ้าหัวหน้าพรรคชั่ว พรรคก็จะสูญพันธุ์แน่นอน เห็นได้จากการตั้งพรรคชั่วแล้วถูกยุบ ตั้งใหม่ก็ถูกยุบอีก และอีกไม่นานก็คงสูญพันธุ์ ส่วนในประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์ ทำประเทศล่มจม ตนอยากให้นายพิชัยส่องกระจก แล้วจะรู้ว่า พรรคเพื่อไทยต่างหาก ที่ทำให้ประเทศล่มจม ทำโครงการเสียหายแก่ประเทศไปมากเท่าใด ถ้าเป็นรัฐบาลนานกว่านี้ประเทศจะล่มจม ดังนั้น อย่าพูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น แล้วถ้าหากอยากรู้ว่าพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย ต่างกันอย่างไร ให้ไปถามนายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







