เปิดคลิปผัวหึงโหด ปาดคอเมียดับคาปั๊ม ทิ้ง จม. กูไม่ได้ มึงก็ไม่ต้องได้

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด

          สามีหึงโหดใช้มีดปาดคอภรรยาดับคาปั๊มน้ำมัน ก่อนพยายามฆ่าตัวตายตามจนได้รับเจ็บสาหัส พบจดหมายลาตายของฝ่ายชาย ระบุจับได้ว่าฝ่ายหญิงมีชู้ ฝากบอกกูไม่ได้ มึงก็ไม่ต้องได้

          เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2557 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง รับแจ้งเหตุหญิงถูกฆ่าปาดคอเสียชีวิตในร้านขายขนมบ้านอัยการ ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.บริเวณทางด่วนบางนา จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบ นางสาววะลาพร พรมทา อายุ 33 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ โดยมีบาดแผลที่คอ 1 แผล และมีแผลถูกแทงเข้าที่ชายโครงซ้าย 1 แผล ใกล้กันพบร่างของ นายสมศักดิ์ เจตกษัตริย์กรณ์ อายุ 33 ปี สามีของนางสาววะลาพร ได้รับบาดเจ็บจากการถูกแทงเข้าที่ร่างกายหลายแผล จึงรีบนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลไทยนครินทร์

          จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นางสาววะลาพรเป็นพนักงานในร้านดังกล่าว อยู่กินฉันสามีภรรยากับนายสมศักดิ์มานานกว่า 6 ปีแล้ว แต่เพิ่งทะเลาะกันต้องแยกกันอยู่เมื่อ 5 วันที่ผ่านมา กระทั่งวานนี้นางสาววะลาพรมาทำงานวันแรก โดยแม่บ้านของปั๊มพบเห็นนายสมศักดิ์มาดักรอเพื่อขอคืนดี แต่ไม่สำเร็จ จึงได้ฉุดกระชากนางสาววะลาพรเข้าไปในร้านแล้วล็อกประตู ต่อมาแม่บ้านเห็นว่าทั้งคู่เข้าไปนานผิดปกติจึงเดินมาดู แล้วเห็นนางสาววะลาพรนอนนิ่งอยู่กับพื้น จึงเรียกเจ้าหน้าที่มาช่วยกันงัดประตูเข้าไป ก่อนพบว่านางสาววะลาพรเสียชีวิตแล้ว

          ขณะที่จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า หลังจากนายสมศักดิ์ดึงตัวผู้ตายเข้ามาในร้านก็เกิดปากเสียงกันขึ้น ก่อนจะชักมีดออกมา แล้วพาผู้ตายเดินหลบไปด้านหลัง เพื่อไม่ให้กล้องวงจรปิดจับภาพได้ ก่อนใช้อาวุธมีดแทงผู้ตาย และใช้มีดแทงตัวเองหวังฆ่าตัวตายตาม โดยในที่เกิดเหตุพบจดหมายลาตายของนายสมศักดิ์ทิ้งไว้ 2 ฉบับ ระบุว่า "สะใจไหมพี่ติ๋ม-โอ๋ ทำให้ครอบครัวเขาเลิกกัน ช่วยติดต่อ...ให้รู้เห็นเป็นใจ บอก...มันด้วย กูไม่ได้ มึงก็ไม่ต้องได้"

          ส่วนอีกฉบับหนึ่งระบุข้อความว่า "ผมขอโทษแม่ด้วยที่ผมต้องทำแบบนี้ เพราะผมรักเมียกับลูกผมมาก ผมจับได้ว่าเมียมี...เลยปล่อยไว้ไม่ได้ หยามกันเกินไป จะไปอยู่คอนโดอยู่โรงแล้วกัน แถมเอาโรคมาติดต่อหรือเปล่าไม่รู้ ผมจึงต้องทำ เพราะพี่นพเขาให้น้องเขาเลิกกับผม ติดต่อเพื่อนเขาให้น้อง ผมจึงต้องทำแบบนี้ ผมขอโทษ จากศักดิ์"

          ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุของคดีดังกล่าวมาจากเรื่องหึงหวง ซึ่งจะได้สอบปากคำ พยานในที่เกิดเหตุ พยานแวดล้อม รวมทั้งผู้ที่รู้จักคุ้นเคยกับผู้ตาย เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ก่อนดำเนินการต่อไป





อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก