
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ปี 2557 นับเป็นอีกหนึ่งปีที่มีข่าวช็อกโลกเกิดขึ้นมากมาย ไม่เพียงแต่เรื่องของภัยพิบัติเท่านั้น แต่เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในหลากหลายประเทศ ความขัดแย้ง และอุบัติเหตุต่าง ๆ ก็เป็นเรื่องที่ได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวางเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องของโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ๆ ระดับที่เรียกว่า "ช็อกโลก" ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นข่าวสะเทือนใจและได้รับการพูดถึงมากที่สุดและไม่เคยสร่างซาเลยทีเดียว
วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอคัดเลือกและสรุปข่าวเด่นรอบโลก 10 อันดับ ประจำปี 2557 มาให้ได้ชมกัน ซึ่งจะมีข่าวอะไรบ้างนั้น ไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
1. โศกนาฏกรรมเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส

LSIS BRADLEY DARVILL / AUSTRALIAN DEFENCE / AFP
พ.ศ. 2557 ดูเหมือนจะเป็นปีแห่งการเสื่อมถอยอย่างไม่ทันตั้งตัวของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เมื่อเกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ซ้ำกันถึง 2 ครั้ง แต่ละครั้งเป็นข่าวช็อกโลกแห่งปีเลยก็ว่าได้
เริ่มกันที่เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2557 จู่ ๆ สายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ก็กลายเป็นสายการบินที่ได้รับการพูดถึงในทุกหน้าสื่อ มาแรงแซงทุกข่าว เมื่อเที่ยวบิน MH370 ซึ่งเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มุ่งหน้าไปยังกรุงปักกิ่งของจีน พร้อมด้วยลูกเรือและผู้โดยสาร 239 ชีวิต ได้ขาดการติดต่อและหายไปจากจอเรดาร์หลังจากทะยานขึ้นฟ้าได้ไม่กี่ชั่วโมง ไม่มีใครรู้ชะตากรรมของเที่ยวบิน MH370 อีกเลยหลังจากนั้น
ทันทีที่เครื่องบินหายไป ทั่วโลกต่างตื่นตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกจะตั้งทีมสืบสวนโดยเฉพาะ เพื่อตามหาเครื่องบินที่หายไป โดยได้ตั้งข้อสันนิษฐานและประเมินความเป็นไปได้ออกมาว่า MH370 น่าจะตกลงในมหาสมุทรอินเดีย จากนั้นจึงมีการออกค้นหาเครื่องบินในมหาสมุทรอินเดียจนถึงวันนี้ ทีมค้นหาก็ยังไม่อาจพบร่องรอยใด ๆ ของเที่ยวบินนี้เลย
ระหว่างที่ทีมค้นหากำลังออกปฏิบัติการในมหาสมุทรอินเดีย ปรากฏว่ามาเลเซีย แอร์ไลน์ส ก็ต้องกุมขมับเครียดหนักกันอีกครั้ง เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม เที่ยวบิน MH17 ที่เดินทางจากกรุงอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ มายังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ก็ถูกขีปนาวุธยิงตกเหนือน่านฟ้าประเทศยูเครน บริเวณที่มีความขัดแย้งเรื่องการแบ่งแยกดินแดนอยู่ ส่งผลให้ลูกเรือและผู้โดยสารเสียชีวิตยกลำ 298 ศพ ส่วนใหญ่เป็นชาวดัตช์ ปัจจุบันคดีนี้ยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวน ยังจับมือใครดมไม่ได้ ไม่รู้ว่าขีปนาวุธที่ยิง MH17 ตกนั้น เป็นฝีมือของทางฝั่งยูเครนหรือรัสเซียกันแน่
2. โศกนาฏกรรมเรือเซวอลล่ม

ED JONES / AFP

ED JONES / AFP
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 เมษายน เรือเฟอร์รี่เซวอลที่เดินทางออกจากท่าเรืออินชอนไปยังเกาะเชจู ได้เกิดอับปางลงกลางทะเล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 304 ศพ รอดชีวิต 174 ราย และโศกนาฏกรรมครั้งนี้ได้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เพราะเกิดจากความประมาทชะล่าใจของลูกเรือและกัปตันที่ไม่ยอมอพยพผู้โดยสาร รวมถึงเจ้าหน้าที่ทางการเองก็ไม่ยอมช่วยเหลืออย่างเต็มที่ด้วย
จากการสืบสวนพบว่าสิ่งที่นำมาซึ่งโศกนาฏกรรมนี้นั้นเกิดขึ้นจากปัจจัยหลายอย่าง เริ่มแรกคือกัปตันไม่ยอมอพยพผู้โดยสารทั้งที่เรือเอียงแล้ว กลับให้ผู้โดยสารอยู่กับที่ซะอย่างนั้น กว่าที่จะอพยพผู้โดยสารก็ไม่ทันกาล เรือตะแคงจนผู้โดยสารไม่สามารถหนีออกมาจากเรือได้ ก่อนที่ไม่นานนัก เรือจะหงายท้องลอยอยู่ในทะเล
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง เด็กนักเรียนที่ติดอยู่ภายในเรือก็มีการส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปยังผู้ปกครอง บอกว่าพวกเขาติดอยู่ในห้องต่าง ๆ ของเรือและยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ในช่วงนั้นทางการเกาหลีใต้กลับปล่อยข่าวออกมาสวนกระแส โดยบอกว่าข้อความเหล่านั้นไม่ใช่ของเด็ก ๆ ที่อยู่ภายในเรือ แต่เป็นข้อความที่มีผู้เจตนาส่งไปป่วน
อย่างไรก็ดี ผู้ปกครองต่างยืนยันว่าไม่มีการปลอมแปลงหลักฐานใด ๆ เกี่ยวกับข้อความของลูก ๆ พร้อมวอนให้ทางการเร่งหาทางเข้าไปในเรือเพื่อให้ความช่วยเหลือ แต่ทางการก็ไม่เร่งรีบใด ๆ เลย จนในที่สุดทุกคนที่ติดอยู่ภายในเรือก็เสียชีวิต
ทั้งนี้ หลังจากพยายามกู้ศพออกมาให้หมดตลอดกว่าครึ่งปี ในที่สุดทีมปฏิบัติการค้นหาศพในเรือเซวอลก็ยุติการปฏิบัติการ สรุปยอดผู้เสียชีวิตที่ 295 ราย สูญหาย 9 ราย
3. อีโบลา ไวรัสมรณะ

FILIPPO MONTEFORTE / AFP

ZOOM DOSSO / AFP
อีโบลาเป็นเชื้อไวรัสที่สร้างหายนะมากที่สุดในโลกตอนนี้ เพราะมันคร่าชีวิตประชาชนไปแล้วหลายพันราย นับตั้งแต่เริ่มระบาดได้เพียงไม่ถึง 1 ปี เท่านั้น แม้แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเองยังต้องสังเวยชีวิตไปหลายราย จนองค์กรอนามัยโลกต้องยกให้เป็นวิกฤตด้านสาธารณสุขที่เลวร้ายที่สุดเลยทีเดียว
การระบาดของเชื้ออีโบลาครั้งนี้ เกิดขึ้นในพื้นที่ห่างไกลแถบประเทศแอฟริกาตะวันตก เริ่มตั้งแต่ประเทศกินีเมื่อช่วงเดือนมีนาคม ก่อนที่เชื้อจะแพร่กระจายอย่างรวดเร็วจนถึงชายแดนของไลบีเรีย ตามมาด้วยเซียร์ราลีโอน และเข้าสู่ภาวะการระบาดอย่างหนักในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา และล่าสุด จากสถิติผู้ป่วยอีโบลาจากองค์การอนามัยโลก เผยให้เห็นว่า ตัวเลขผู้ป่วยนั้นพุ่งเกิน 18,000 รายแล้ว และเสียชีวิตไปแล้วไม่ต่ำกว่า 6,500 ราย
อย่างไรก็ดีแม้ว่าจะมีความพยายามอย่างจริงจังที่จะควบคุมและยับยั้งการระบาดของอีโบลามานานหลายเดือน แต่จนบัดนี้การระบาดของอีโบลาก็ยังคงควบคุมไม่อยู่ คาดว่าปัญหานี้อาจลากยาวไปถึงปีหน้า และยอดผู้เสียชีวิตอาจจะแตะ 10,000 ได้อย่างไม่ยากเลย
4. สงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์ สังเวย 2,000 กว่าศพ

MAHMUD HAMS / AFP

ASHRAF AMRA / AFP
เป็นอีกหนึ่งข่าวใหญ่ที่สร้างความสะเทือนใจไปทั่วโลก เมื่ออิสราเอลและปาเลสไตน์เปิดฉากโจมตีกันอีกระลอก บริเวณฉนวนกาซา ดินแดนในปาเลสไตน์ จากปัญหาความขัดแย้งที่ดำเนินมายาวนาน และการโจมตีที่กินเวลายาวนานนับเดือนนี้ ก็รุนแรงจนทำให้บ้านเรือนชาวปาเลสไตน์บริเวณฉนวนกาซากลายเป็นซากปรักหักพัง มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 2,000 คน
การปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส บริเวณฉนวนกาซา เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และต่อเนื่องมาจนถึงปลายเดือนสิงหาคม โดยกองทัพอิสราเอลได้ระดมยิงระเบิดไปยังฉนวนกาซา เช่นเดียวกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสที่ยิงมายังฝั่งอิสราเอลเช่นกัน และตลอดเกือบ 2 เดือนแห่งการสู้รบนั้น ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมผ่อนปรนใด ๆ ไม่มีใครยอมใครก่อน แม้ว่าองค์การสหประชาชาติจะเข้าไปไกล่เกลี่ย แต่ก็หยุดยิงได้เป็นพัก ๆ เท่านั้น
กระทั่งปลายเดือนสิงหาคม ในที่สุดทั้งอิสราเอลและฮามาสก็ตกลงหยุดยิงอย่างไม่มีกำหนด ประชาชนในฉนวนกาซาก็เริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่พวกเขาก็ต้องอยู่กับสภาพบ้านเรือนที่เต็มไปด้วยกลิ่นเลือด เมื่อผลของการปะทะกันดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 2,000 คน และเกือบทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นประชาชนชาวปาเลสไตน์ทั้งสิ้น
5. ฮ่องกงลุกฮือประท้วงครั้งใหญ่ เรียกร้องการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย

PHILIPPE LOPEZ / AFP

ED JONES / AFP
การประท้วงครั้งใหญ่นี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ยืดเยื้อมาจนถึงวันนี้ โดยสิ่งที่นำมาซึ่งการประท้วงที่ฮ่องกงครั้งใหญ่และต่อเนื่องดังกล่าว เนื่องจากฮ่องกงจะมีการจัดการเลือกตั้งผู้นำสูงสุดขึ้นในปี 2560 แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า รัฐบาลจีนจะยังคงยืนยันที่จะเป็นผู้เลือกสรรผู้สมัครรับเลือกตั้งให้ ขณะที่ประชาชนเองอยากมีสิทธิในการเลือกผู้สมัครเอง จึงนำมาซึ่งการเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพของชาวฮ่องกงดังกล่าว
การประท้วงครั้งนี้เริ่มต้นจากนักเรียน-นักศึกษากว่า 5,000 ชีวิต พวกเขาได้หยุดเรียน 1 สัปดาห์ในเดือนกันยายน เพื่อแสดงอารยะขัดขืนหน้าสำนักงานบริหารเขตปกครองฮ่องกง แต่แล้วตำรวจก็ได้ใช้ความรุนแรงตอบโต้ด้วยการฉีดสเปรย์พริกไทยใส่นักเรียน-นักศึกษา หลังจากพวกเขาบุกเข้าไปรวมกลุ่มประท้วงกันในพื้นที่สาธารณะที่ทางการกันพื้นที่ไว้ และหลังจากวันนั้น นักเรียน-นักศึกษา และประชาชนก็ลุกฮือประท้วงต่อเนื่อง โดยปักหลักอยู่ในย่านธุรกิจกลางใจเมือง มีการปะทะกับตำรวจเป็นระยะ ๆ ได้รับบาดเจ็บกันไปหลายราย
อย่างไรก็ดีจีนเองก็แสดงท่าทีว่าจะไม่ยอมให้สิทธิชาวฮ่องกงได้เลือกผู้สมัครด้วยตัวเอง เพราะไม่อยากให้ฮ่องกงแตกแถว ซึ่งก็คาดว่าการประท้วงดังกล่าวจะยืดเยื้ออีกนานเลยทีเดียว
6. ISIS ก่อการร้ายเหี้ยม-สหรัฐฯ เปิดฉากต่อกร
นับว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่โหดเหี้ยมและเป็นที่กล่าวขวัญถึงมากที่สุดในปีนี้ สำหรับกองกำลังรัฐอิสลามแห่งอิรักและอัชชาม (ISIS) ที่ก่อการร้ายทั่วโลก และมีการเผยคลิปฆ่าตัดคอนักข่าวชาวอเมริกันและอังกฤษมาหลายระลอก เพื่อข่มขู่ไม่ให้อเมริกาหรือชาติพันธมิตรมายุ่งย่ามปฏิบัติการใด ๆ ของตน จนสร้างความสลดใจให้กับผู้คนทั่วโลก
การแพร่คลิปดังกล่าวยิ่งสร้างความเดือดดาลให้กับอเมริกา จนในที่สุด ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ประกาศอย่างมุ่งมั่นว่าสหรัฐฯ จะตามถล่มฐานที่มั่นของมะเร็งร้ายคุกคามโลกอย่างกองกำลัง ISIS ทุกหนแห่งอย่างไร้ความปรานี ทั้งในอิรักที่กลุ่ม ISIS ยึดพื้นที่หลายเมืองอยู่ตอนนี้ และในซีเรียซึ่งเป็นฐานที่มั่นของ ISIS ด้วย ซึ่งไม่นานหลังจากเปิดเผย ก็มีข่าวว่าอเมริกาไล่บึ้มกองกำลัง ISIS จนเสียชีวิตไปหลายราย แต่ถึงอย่างนั้นก็ดูเหมือนว่ามะเร็งร้ายของอเมริกาก้อนนี้จะกำจัดได้ยาก เพราะแม้ว่าจะถูกไล่กวาดล้าง แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีเกรงกลัวใด ๆ ซ้ำยังออกมาแพร่คลิปฆ่าตัดคอสุดโหดให้ได้เห็นกันอยู่เรื่อย ๆ
7. เหตุขัดแย้งไครเมีย ยูเครน-รัสเซีย พร้อมปะทะ

DIMITAR DILKOFF / AFP

FILIPPO MONTEFORTE / AFP
ไครเมียแมัจะเป็นดินแดนในประเทศยูเครน แต่มีประชาชนที่พูดภาษารัสเซียมากถึง 58.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ชาวพื้นถิ่นยูเครนมีเพียง 24.4 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ดังนั้น ความปรารถนาสูงสุดของชาวไครเมียส่วนใหญ่ จึงเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกเหนือไปจากการได้ผนึกรวมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว รัฐสภาไครเมียจึงเดินหน้าจัดลงประชามติแยกตัวจากยูเครน ไปเป็นหนึ่งเดียวกับรัสเซีย ซึ่งถึงแม้ว่าทางการยูเครนจะไม่เห็นด้วย และทางสมัชชาใหญ่สหประชาชาติก็คัดค้าน แต่ก็ไม่อาจต้านทานพวกเขาได้ ไครเมียจัดลงประชามติและแยกตัวเป็นหนึ่งเดียวกับรัสเซีย โดยมีประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ลงนามรับรองเป็นเอกราชของยูเครน
อย่างไรก็ดี แม้ชาวไครเมียจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นหนึ่งเดียวกับรัสเซียแล้ว แต่สมัชชาใหญ่สหประชาชาติก็ไม่รับรองการผนวกดินแดนไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ไครเมียจึงคล้ายกับเป็นของรัสเซียแค่ในความรู้สึกของประชาชนเท่านั้น ปัจจุบันรัสเซียพยายามเข้าแทรกแซงดินแดนไครเมียอย่างมาก แต่ยูเครนเองก็ไม่ได้นิ่งเฉย ออกมาประกาศชัดว่าถ้าหากแทรกแซงดินแดนไครเมียมาก ๆ ก็พร้อมทำสงครามกับรัสเซีย ไม่ได้เกรงกลัวใด ๆ
8. สกอตแลนด์จัดลงประชามติ แยกตัวจากสหราชอาณาจักร
LESLEY MARTIN / AFP
หลังจากทำท่าจะแยกประเทศเป็นเอกราชจากสหราชอาณาจักรมานานแล้ว ในที่สุดสกอตแลนด์ก็ถึงคราวเอาจริงเอาจัง จัดลงประชามติขึ้นเมื่อวันที่ 19 กันยายน ท่ามกลางการจับตาติดตามอย่างใกล้ชิดจากทุกประเทศทั่วโลกว่าสกอตแลนด์จะแยกตัวจากสหราชอาณาจักรได้สำเร็จหรือไม่ เพราะจากการสำรวจความเห็นประชาชนก่อนลงประชามติ พบว่าสัดส่วนของผู้สนับสนุนการแยกตัวและผู้คัดค้านนั้น สูสีกันเป็นอย่างมาก
แต่ท้ายที่สุดแล้ว สหราชอาณาจักรก็โล่งอก (เช่นเดียวกับหลาย ๆ ประเทศที่รอลุ้น) เมื่อผลการลงประชามติปรากฏออกมาว่า มีผู้คัดค้านการแยกตัวเป็นเอกราช 55 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้สนับสนุนมีเพียง 45 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งความพ่ายแพ้ดังกล่าว ก็ทำให้นายอเล็กซ์ แซลมอนด์ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้ารัฐบาลสกอตแลนด์ ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ยอมจำนนกับเสียงข้างมากดังกล่าว
9. ระเบิดแมนฮัตตัน สหรัฐอเมริกา

Andrew Burton / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / AFP

Andrew Burton / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / AFP
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2557 บริเวณอิสต์ฮาร์เล็ม ย่านแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อจู่ ๆ ก็เกิดระเบิดบึ้มขึ้นและทำให้อาคาร 2 แห่งถล่มลงมา จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้จำนวน 22 ราย เสียชีวิต 2 ราย สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวอเมริกันเป็นอย่างมาก กลัวว่าการระเบิดครั้งนี้จะเกิดจากการก่อวินาศกรรมอีกครั้ง
แต่หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่นาน ทางการก็ได้ออกมาชี้แจงว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากท่อแก๊สรั่ว ไม่ใช่การก่อวินาศกรรม เนื่องจากผู้อาศัยในพื้นที่ใกล้เคียงให้ข้อมูลตรงกันว่าได้กลิ่นแก๊สรั่วฟุ้งกระจายมาหลายวันแล้ว แต่ไม่มีใครแจ้งเจ้าหน้าที่ กลับเพิ่งมีการแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ก่อนจะเกิดเหตุไม่นาน แต่ก็ไม่ทันกาล
นับว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุสลดที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาในปีนี้ อย่างไรก็ดี หลังจากที่มีการออกมาเฉลยว่าเกิดจากแก๊สรั่ว ข่าวนี้ก็ซาไปอย่างรวดเร็ว
10. คนร้ายบุกยึดคาเฟ่-จับคนเป็นตัวประกัน กลางเมืองซิดนีย์

SAEED KHAN / AFP

SAEED KHAN / AFP
เหตุการณ์นี้เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2557 เมื่อมือปืน 2 ราย ได้เดินเข้าไปภายในร้านลินด์ท์ ช็อกโกแลต คาเฟ่ ก่อนที่จะจี้ทุกคนในร้านเป็นตัวประกัน ทั้งพนักงานและลูกค้า พร้อมบังคับให้ตัวประกันถือธงสีดำเขียนด้วยตัวอักษรอาหรับ จนทำให้ชาวโลกหวั่นกลัวว่าจะเป็นฝีมือก่อการร้ายของเครือข่าย ISIS
หลังจากเกิดเหตุตำรวจได้ปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าว พร้อมขอให้ประชาชนห้ามสัญจรบริเวณนั้นด้วย จากนั้นก็ดำเนินการจับตาคนร้ายที่จี้ตัวประกันภายในร้าน การจับตัวประกันดังกล่าวยืดเยื้อนานถึง 16 ชั่วโมง จนในที่สุด ตำรวจซิดนีย์ก็ได้ตัดสินใจเข้าโจมตีและยึดคาเฟ่ดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือตัวประกัน แต่โชคร้ายที่มีตัวประกันเสียชีวิต 2 ราย และคนร้ายเสียชีวิต 1 ราย ก่อนจะจับตัวนายมาน ฮารอน โมนิส ชายชาวอิหร่านที่ลี้ภัยมายังออสเตรเลีย และตำรวจคาดว่า การก่อการร้ายครั้งนี้เป็นการกระทำโดยไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายใด ๆ เลย แม้จะมีการนำธงดำเขียนด้วยตัวหนังสืออาหรับมาให้ตัวประกันถือกางไว้ก็ตามที








