ลำดับปมปริศนา คดีฆ่า เอกยุทธ-ศาลสั่งประหาร ไอ้บอล คนขับรถ
เรียบเรียงโดยกระปุกดอทคอม
กระบวนการยุติธรรมในคดีสะเทือนขวัญ อุ้มฆ่าโหดนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดัง-เจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ ถึงจุดไคลแม็กซ์สำคัญ
เมื่อล่าสุดในวันนี้ (วันที่ 30 ธันวาคม 2557) ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาคดีพนักงานอัยการสั่งฟ้อง นายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือ บอล และพวก ในคดีการเสียชีวิตของ นายเอกยุทธ
โดยศาลชั้นต้น ตัดสินประหารชีวิตนายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือ บอล และพวก แต่ปรานีลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากให้การเป็นประโยชน์ในชั้นสอบสวน ขณะที่นายบอลยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้มและประกาศว่าจะขออุทธรณ์สู้คดีต่อไป
พลิกแฟ้มคดีอุ้มฆ่านายเอกยุทธ เกิดจากการที่พี่สาวพร้อมญาตินายเอกยุทธ เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.วังทองหลางในค่ำคืนของวันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2556 และเข้าแจ้งความกองปราบปรามอีกในวันอาทิตยที่ 9 มิถุนายน 2556 หลังไม่สามารถติดต่อนายเอกยุทธได้เป็นเวลา 2 วัน
จากการสอบสวนพบว่า ก่อนหน้านี้นายเอกยุทธได้โทรศัพท์มาขอกุญแจเข้าบ้านย่านทาวน์อินทาวน์ จากนั้นให้เลขาส่วนตัวนำเช็คเบิกเงินสดมาให้ที่ลานจอดรถสนามบินสุวรรณภูมิช่วงกลางดึกของวันที่ 6 มิถุนายน และช่วงสายวันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน โดยมีนายสันติภาพ หรือ บอล เพ็งด้วง คนขับรถ เป็นผู้รับเช็คไปให้เซ็น จากนั้นก็ไม่มีใครได้พบกับนายเอกยุทธอีกเลย
การหายตัวไปอย่างลึกลับของนายเอกยุทธ อดีตผู้ต้องหาคดีโกงแชร์ชาเตอร์สะท้านเมือง จึงทำให้เรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ครึกโครม นื่องจากภายหลังคดีหมดอายุความและเดินทางกลับมาอยู่เมืองไทย นายเอกยุทธวางบทบาทตัวเองเป็นจอมแฉทางการเมืองตัวพ่อ รวมถึงมีจุดยืนต้านระบอบทักษิณ ทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นการอุ้มฆ่าจากผู้ที่ไม่พอใจก็เป็นได้
ต่อมา วันที่ 10 มิถุนายน 2556 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. และ พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. สั่งเดินเครื่องแกะรอยสืบสวนหาเบาะแส ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบเบาะแสสำคัญคือภาพจากกล้องวงจรปิดของ จ.สุราษฎร์ธานี ที่ปรากฏภาพรถตู้โฟล์คสวาเก้นสีดำ ทะเบียน ฮพ 9304 กรุงเทพมหานคร ในช่วงเวลา 09.00 น.
ด้วยเหตุนี้ ตำรวจจึงมุ่งเป้าของการค้นหาตัวนายเอกยุทธไปที่ภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดพัทลุง หลังจากตรวจสอบพบว่านายบอล ซึ่งเป็นคนขับรถนั้นมีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดพัทลุง และเชื่อว่านายบอลน่าจะเป็นหนึ่งในผู้รู้เห็นในการหายตัวไปในครั้งนี้
หลังจากตำรวจล่าตัวจนแทบพลิกแผ่นดิน ในวันที่ 11 มิถุนายน 2556 เวลา 08.00 น. ก็สามารถควบคุมตัวนายบอล ได้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม
เบื้องต้น นายสันติภาพ หรือที่สื่อพร้อมใจกับพาดหัวว่า "ไอ้บอล" ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา กระทั่งเวลา 14.00 น. ของวันเดียวกัน ก็ได้ข่าวว่าพบศพชายนิรนามในพื้นที่ จ.พัทลุง คาดว่าอาจเป็นศพของนายเอกยุทธ แต่สุดท้ายได้รับการยืนยันว่าไม่ใช่
จากนั้นเวลา 16.00 น. ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ก็ได้สร้างเซอร์ไพรส์กับสื่อมวลชนโดยออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องการหายตัวไปของ นายเอกยุทธ ว่า ขณะนี้นายเอกยุทธ ถูกฆ่าเสียชีวิตแล้ว ด้วยการกระทำของคนขับรถที่ประสงค์ต่อทรัพย์ พร้อมกับบอกว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการออกมากล่าวหานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นด้วยประเด็น ว.5 โฟร์ซีซั่น
อย่างไรก็ตาม นายสันติภาพ ยอมเปิดปากรับสารภาพเป็นครั้งแรก หลังถูกตำรวจนำตัวไปสอบเค้นอย่างหนัก ว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ โดยได้มีการนำศพไปฝังไว้ที่ จ.พัทลุง พร้อมกับซัดทอดไปยังเพื่อนอีก 2 ว่าเป็นผู้ร่วมกันก่อเหตุ
ต่อมาในวันที่ 12 มิถุนายน 2556 ตำรวจภูธรภาค 9 ได้นำตัวนายสันติภาพ พร้อมเพื่อนร่วมก่อเหตุอีก 2 คน ลงพื้นที่บริเวณป่าภูเขาจิงโจ้ ต.พนมวัง อ.เมือง จ.พัทลุง เพื่อชี้จุดที่นำศพของ นายเอกยุทธ มาอำพราง
เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 นั้นให้การสับสน จึงไม่สามารถระบุตำแหน่งได้ จากนั้นเวลา 13.00 น. จึงมีรายงานว่าพบศพชายนิรนาม สภาพเปลือยกาย บริเวณป่าภูเขาจิงโจ้ ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าใช่นายเอกยุทธ หรือไม่ แต่ด้านน้องสาวของนายเอกยุทธยืนยันว่าศพที่ค้นพบใช่พี่ชายของตนอย่างแน่นอน
สาเหตุที่แท้จริงแห่งเงื่อนปมการเสียชีวิตของ นายเอกยุทธ นั้นยังเป็นที่เคลือบแคลงใจของสังคมกับการปิดคดีแบบกำปั้นทุบดินของตำรวจที่สรุปว่าเป็นการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ ซึ่งขัดแย้งกับรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์บางฉบับที่ระบุว่า ผลการชันสูตรศพที่ออกมาแสดงให้เห็นว่า การเสียชีวิตของนายเอกยุทธ มิใช่เป็นการฆ่าชิงทรัพย์ธรรมดาทั่วไป แต่หากการเสียชีวิตครั้งนี้ เป็นการฆาตกรรม ที่ดำเนินการโดยทีมฆ่ามืออาชีพ ซึ่งได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี และชำนาญในการฆาตกรรมอำพรางอย่างยิ่ง
ประกอบกับรายงานของสำนักข่าวอิศราที่เคยรายงานข้อมูลสำคัญจากนายตำรวจยศ "พ.ต.อ." รายหนึ่ง ซึ่งมีข้อสังเกตเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมอำพรางครั้งนี้ว่า ทีมฆ่าทีมนี้น่าจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 ทีม โดยคนในแต่ละทีมอาจไม่รู้ว่าทีมอื่น ๆ มีใครบ้าง ทีมที่ว่านี้จะแยกออกเป็นทีมสังหาร ทีมอำพรางหรือเก็บกวาดหลักฐาน ทีมทำลายศพ ทีมแกะรอยนายเอกยุทธเพื่อบงการวางแผนฆ่า ในแผนเดิมนั้น นายบอล (คนขับรถ) น่าจะต้องตายตั้งแต่แรก ไม่ได้มีชีวิตอยู่จนถึงวันนี้ แต่เกิดเหตุผิดพลาดขึ้น เพราะเขาไม่รู้กัน นายบอลถูกเปิดเผยต่อสื่อมวลชนในฐานะผู้ต้องสงสัยไปก่อน ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่ามีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่รายหนึ่ง หัวเสียมากกับการให้ข่าวเช่นนี้ สิ่งที่ยืนยันได้ก็คือ คำให้การที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล ขัดแย้งกันไปมาระหว่างนายเบิ้มและนายบอล และนายบอลก็ไม่คิดเช่นกัน ว่าตัวเองจะต้องกลายมาเป็นผู้ต้องหาและไม่รู้ด้วยว่าตัวเองต้องถูกฆ่าตั้งแต่แรก และตอนนี้ก็ถูกหลอกขอให้จำยอมไปก่อน
นอกจากนี้ มีความสอดคล้องกับคำพูดของนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความเอกยุทธ ที่เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เชื่อว่าคดีนี้มีการจ้างวานฆ่านายเอกยุทธอย่างแน่นอน เนื่องจากพ่อของนายสันติภาพ ยอมรับว่าได้รับการว่าจ้างเป็นเงินสด 2 ล้านบาท ซึ่งได้ติดต่อขอคืนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ตนไม่เชื่อว่าคนอย่างนายสันติภาพจะสามารถไตร่ตรองแผนการฆ่าเอกยุทธได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนเช่นนี้ ตนยืนยันว่านี่คือการจัดฉากฆ่า
นอกจากนี้นายเอกยุทธยังพกปืนตลอดเวลา และเป็นคนที่ป้องกันตัวเองเป็นอย่างดี ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าถึงตัวได้ง่าย ๆ หากไม่ใช่ทีมงานมืออาชีพเล่นงาน แต่ขณะนี้ตำรวจกลับกำลังพยายามเบี่ยงเบนประเด็นและเร่งรีบปิดคดีเป็นการฆ่าชิงทรัพย์
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาถึงข้อมูลที่นายเอกยุทธเตรียมที่จะโพสต์ โดยมีการโพสต์พาดหัวและโปรยข่าวผ่านเว็บไทยอินไซเดอร์ ชวนให้คนเข้ามาติดตามอ่านรายละเอียด โดยระบุว่า มีข้อมูลเด็ดเตรียมแฉนักการเมือง และข้าราชการของไทย ที่นำเงินโกงชาติเข้าไปตั้ง "ออฟชอร์" หวังหลบเลี่ยงภาษีและฟอกเงิน ทำให้หลายคนเชื่อว่าอาจเป็นหนึ่งประเด็นที่นายเอกยุทธอาจจะถูกใบสั่งอุ้มฆ่าก็เป็นได้
ขณะเดียวกัน สื่อบางสำนักก็ตีแผ่ข้อมูลอีกมุมว่า ปมที่ทำให้นายบอลตัดสินใจฆ่านายเอกยุทธ เพราะเห็นเจ้านายมีทรัพย์สินเยอะ บวกกับแค้นที่ไล่ "แฟนสาว" ของตัวเองออกจากงาน จึงวางแผนอุ้มฆ่าให้สาแก่ใจ ไม่ได้มีเบื้องหลังการเมืองอะไรเกี่ยวข้องเลย
ต่อมา เดือนตุลาคม 2556 นายสันติภาพ ได้กลับคำให้การอีกครั้งโดยบอกว่าเขาไม่ได้ลงมือฆ่า นายเอกยุทธ อัญชันบุตร แต่อย่างใด แต่มีทีมสังหารเป็น กลุ่มคนมีสีจำนวน 4 คน เป็นผู้ลงมือฆ่า ตนเป็นเพียงผู้ชี้เป้า โดยทีมสังหารได้ลงมือฆ่านายเอกยุทธตั้งแต่อยู่ภายในบ้านพักย่านทาวน์อินทาวน์ หลังจากที่อุ้มนายเอกยุทธมาจากร้านอาหาร โดยชนวนการอุ้มมาจากเรื่องกลุ่มสังหารต้องการบังคับเอา "ฮาร์ดดิสก์" ซึ่งเป็นความลับที่สำคัญที่เอกยุทธมีอยู่ ซึ่งทีมสังหารไม่ได้ตั้งใจจะฆ่านายเอกยุทธที่บ้าน แค่ต้องการสั่งสอน แต่ลงมือแรงไป ทำให้แผนที่จะอุ้มไปฆ่าที่อื่นต้องล้มเหลว จึงต้องเปลี่ยนแผนใหม่ เอาศพไปทิ้งที่พัทลุง
ทั้งนี้ ไม่ว่าปมเงื่อนการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ จะถูกแต่ละฝ่ายปั้นแต่งให้เป็นประโยชน์กับฝ่ายตัวเองอย่างไร แต่ในที่สุด วันที่ 30 ธันวาคม 2557 ศาลก็ได้อ่านคำพิพากษาประหารชีวิตนายบอล แต่เห็นว่าให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต เป็นเครื่องยืนยันให้เห็นว่า พยานหลักฐานชี้ว่านายบอลเป็นคนลงมือฆ่านายเอกยุทธจริง ส่วนพ่อกับแม่นายบอล ผิดข้อหารับของโจร จำคุก 1 ปี 4 เดือน
ทั้งหมดยื่นอุทธรณ์ รอสู้คดีกันอีกยกต่อไป