เอารถเข้าอู่ทำสี ช่างแอบเอาไปซิ่งคว่ำ พังยับทั้งคัน
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณชายประสิทธิ์ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
หนุ่มสุราษฎร์ฯ เอารถไปซ่อมสีที่อู่ประกัน กลับโดนช่างแอบเอาไปซิ่งคว่ำพังยับทั้งคัน ล่าสุดตั้งทนายยื่นฟ้องศาล เหตุเจ้าของอู่ไม่ยอมคืนรถ ยืนยันจะซ่อมเอง ด้านบริษัทประกันยินดีรับผิดชอบเต็มทุนประกัน
จากกรณีที่สมาชิกเว็บไซต์พันทิปได้โพสต์เรื่องราวร้องทุกข์ โดยตั้งกระทู้ชื่อว่า ถอยรถชนเสานิดเดียว เข้าไปซ่อมสีที่อู่แต่ทางอู่พารถไปคว่ำ เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเรื่องราวของคนที่รู้จัก ที่นำรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าซิตี้ ทะเบียน กพ-2546 สุราษฎร์ธานี เข้าซ่อมที่อู่เนื่องจากถอยรถไปชนเสา ทำให้เกิดรอยด้านท้ายนิดหน่อย จึงโทรเคลมกับบริษัทสินมั่นคงประกันภัย ทางพนักงานจึงแจ้งให้นำรถเข้าซ่อมกับ อู่โอ๋เซอร์วิส สุราษฎร์ธานี อู่ในเครือของ บ.สินมั่นคงฯ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าคนงานในอู่กลับนำรถไปขับซิ่ง จนเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำรถพังเสียหายทั้งคัน แต่บริษัทประกันกลับไม่แจ้งลูกค้าและไม่ดำเนินการช่วยเหลือตั้งทนายสู้คดี หรือนำรถออกจากอู่ให้ ซ้ำพอเข้าแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงสระ กลับได้คำตอบว่า ไม่สามารถนำรถออกจากอู่ให้ได้ หากเข้าไปโดยพลการอาจโดนแจ้งความกลับข้อหาบุกรุก ซึ่งล่าสุด (8 มกราคม 2558) ผู้เสียหายได้ตั้งทนายยื่นฟ้องต่อศาลด้วยตัวเองแล้ว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายตนุภัทร รัตนพูลชัย ผู้ช่วยเลขาธิการสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย กระทรวงการคลัง (คปภ.) ชี้แจงถึงมาตรฐานการปฏิบัติงานของบริษัทประกันภัยว่า ต้องดูข้อเท็จจริงว่าผู้เสียหายซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัทประกันภัย นำรถเข้าไปซ่อมกับอู่ด้วยตนเอง หรือผ่านการแนะนำของบริษัทประกันภัย และต้องดูว่าสัญญาการซ่อมที่เกิดขึ้นว่าเป็นการทำสัญญาผูกพันระหว่างลูกค้ากับอู่ หรือผูกพันระหว่างบริษัทประกันกับอู่ หากเป็นความผูกพันระหว่างบริษัทประกันกับอู่ซ่อมรถ ก็เท่ากับว่าอู่ไม่ได้ดำเนินซ่อมตามคำสั่งเรา แต่ดำเนินการซ่อมตามคำสั่งบริษัทประกันภัย ฉะนั้นผู้เสียหายต้องติดต่อโดยตรงผ่านบริษัทประกันภัย แจ้งความจำนงว่าไม่ขอซ่อมกับอู่ดังกล่าว ขอให้บริษัทประกันภัยดำเนินการนำรถไปซ่อมที่อู่ในเครืออื่น ๆ โดยการดำเนินการทั้งหมดจะต้องผ่านบริษัทประกันภัย
และภายหลังการซ่อมแล้วเสร็จบริษัทประกันภัยจะต้องนำรถไปให้ศูนย์รถตรวจเช็กมาตรฐานว่าตรงตามที่ศูนย์กำหนดหรือไม่ ถ้าไม่ บริษัทประกันภัยจะต้องดำเนินการซ่อมจนกว่าจะได้มาตรฐานที่ศูนย์กำหนด นอกจากนี้จากเดิมที่อู่แจ้งว่ารถจะต้องซ่อมเสร็จภายใน 1 อาทิตย์ แต่ปรากฏว่าล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ ทางผู้เสียหายหรือลูกค้าสามารถเรียกค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถได้ตามความเป็นจริง
ด้านนายเรืองเดช ดุษฎีสุรพจน์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด เปิดเผยผ่านผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ ว่า จากการตรวจสอบทราบว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจากความเข้าใจคลาดเคลื่อนของพนักงาน ที่เข้าใจผิดว่าอู่ดังกล่าวเป็นอู่ในเครือ แต่ในความเป็นจริงแล้วอู่โอ๋เซอร์วิส สุราษฎร์ธานี ไม่ใช่อู่ในเครือของบริษัท สินมั่นคงฯ ซึ่งในส่วนนี้บริษัทขอยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
ส่วนเหตุการณ์ที่ทำให้ลูกค้าไม่พอใจมากนั้น เกิดจากในการเจรจาครั้งแรกลูกค้ายินยอมให้อู่ดังกล่าวดำเนินการซ่อมรถให้ แต่ปรากฏว่าอู่ไม่สามารถซ่อมให้เสร็จทันกำหนด ทำให้ลูกค้าไม่พอใจและต้องการนำรถออกจากอู่ แต่เจ้าของอู่ไม่ยินยอม สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น ในฐานะที่บริษัทสินมั่นคงฯ ขอดำเนินการรับผิดชอบ และดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่ โดยการจ่ายเงินเต็มจำนวนทุนประกัน 500,000 บาท เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อรถใหม่มาใช้งานทดแทนได้ทันที เพราะหากรอทางอู่ต่อไปเกรงว่าจะเกิดความล่าช้า และสร้างความลำบากใจให้กับลูกค้า ส่วนรถที่ค้างอยู่ในอู่นั้นทางบริษัทจะดำเนินการเจรจากับทางอู่ด้วยตนเอง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
