โค้งร้อยศพรัชดา เรื่องอาถรรพ์ อุบาย หรือแค่ประมาท

 
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

            เปิดเรื่องเล่าอาถรรพ์ โค้งร้อยศพรัชดา หนึ่งในสถานที่เกิดอุบัติเหตุคร่าชีวิตบ่อยครั้ง หนึ่งในนั้นมี นิสา วงศ์วัฒน์ อดีตดารารวมอยู่ด้วย

            จากกรณีที่เพจดัง FuckGhost ฟักโกสต์ : สมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย  โพสต์ภาพเอาเท้าเหยียบรูปปั้นตุ๊กตาม้าลายที่คนบูชาประดุจสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนสะพานลอยบริเวณโค้ง 100 ศพใกล้ศาลอาญา รัชดา ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่เฮี้ยนสุด ๆ แห่งหนึ่งในประเทศไทย เมื่อคืนวันที่ 4 มกราคม 2558 จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่ ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว

            แต่ที่แน่ ๆ "โค้ง 100 ศพรัชดา" ก็กลับมาเป็นที่สนใจของประชาชนอีกครั้ง จนถึงขั้นมีการขุดคุ้ยเรื่องราวอาถรรพ์โค้ง 100 ศพ ไปจนถึงการเกิดอุบัติเหตุของคนดังตรงบริเวณดังกล่าวอย่าง นิสา วงศ์วัฒน์ ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบริเวณโค้งนี้ด้วยเช่นกัน

            สำหรับโค้ง 100 ศพ รัชดา ขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ในสถานที่อันตรายซึ่งเกิดอุบัติเหตุคร่าชีวิตผู้คนบ่อยครั้ง โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะเสียชีวิตบนเกาะกลางถนน และอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทุกครั้ง คือ การที่รถยนต์พุ่งเข้าชนต้นโพธิ์ที่อยู่ตรงทางโค้ง แม้กระทั่งอดีตดาราชื่อดังอย่าง นิสา วงศ์วัฒน์ หรือ โจ้ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิตตรงบริเวณโค้ง 100 ศพ เมื่อปี 2538
 
            และด้วยความที่เกิดอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิตอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เกิดความเชื่อว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพราะวิญญาณของผู้เสียชีวิตตรงโค้ง 100 ศพต้องการตัวตายตัวแทน เพื่อที่ตนจะได้ไปเกิด เนื่องจากผู้คนที่รอดชีวิตหลายต่อหลายคนกลับมาเล่าเหตุการณ์ที่คล้าย ๆ กันว่า เห็นคนเดินตัดหน้า ทำให้รถเสียหลัก หรือเห็นเงาดำทอดยาวบนถนนจนตกใจ ทำให้โค้งดังกล่าวกลายเป็นสถานที่เฮี้ยนติดอันดับของประเทศ  โดยเฉพาะสะพานลอยคนข้ามถนนรัชดาภิเษก ปากซอยเสือใหญ่อุทิศ ซึ่งอยู่ตรงโค้ง 100 ศพ ก็ได้กลายเป็นสถานที่ที่มีผู้คนมาบนบานเรื่องราวต่าง ๆ  พร้อมกันนี้ยังมีการนำม้าลายและน้ำแดงมาแก้บนเป็นจำนวนมากอีกด้วย

            แต่อย่างไรก็ดี ก็ยังมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบริเวณดังกล่าวเป็นอาถรรพ์ของโค้ง 100 ศพ หรือเป็นแค่ความประมาทของผู้ขับขี่กันแน่ ๆ เนื่องจากถนนรัชดาภิเษกบริเวณศาลอาญาถูกกำหนดให้เป็นถนนในเขตเมือง จึงมีการออกแบบถนนให้มี 4 เลน และรองรับความเร็วเพียงแค่ 50-70 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น อีกทั้งไม่มีการยกโค้ง หรือทำถนนให้ลาดเอียง เพื่อไม่ให้หลุดโค้ง ทำให้ผู้ขับขี่หลายคนใช้ความเร็วเกินกำหนด จึงทำให้อาจหลุดโค้งไปชนต้นไม้ หรือชนเกาะกลางถนนจนบาดเจ็บและเสียชีวิต

          นอกจากนี้ยังมีอีกตำนานเล่าขานต่อ ๆ กันว่า จริง ๆ แล้วโค้งดังกล่าวไม่ได้มีอาถรรพ์อะไร แต่เป็นอุบายที่เอามาหลอกคนงานที่ก่อสร้างศาลอาญามักง่ายชอบยืนปัสสาวะบริเวณต้นโพธิ์เท่านั้น จนเกิดปัญหากลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปหมด เลยออกอุบายเอาผ้าสามสีมาผูก จัดฉากเอาธูปมาปัก แล้วคนงานก็ไม่กล้าเข้าไปปัสสาวะอีกเลย และหลังจากนั้นพอเกิดอุบัติเหตุ คนก็เริ่มมากราบไหว้ จนกลายเป็นตำนานในที่สุด 

           ส่วนเรื่องเล่ามีดังต่อไปนี้..

           ไอ้ศาลตรงต้นโพธิ์ โค้งร้อยศพ อะไรเนี่ย.. ฝีมือเพื่อนผมมันเป็นคนโปรโมทเอง

           เคยนั่งคุยกับมันในวงเหล้า เรื่องนี้แบบขำ ๆ มาเป็นสิบ ๆ ปี แล้วสมัยเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว ตอนถนนรัชดาตัดใหม่ ๆ ศาลอาญาตรงนั้นกำลังสร้าง ไอ้เพื่อนผม มันเป็นนายช่าง วิศวกร คุมโครงการก่อสร้างอยู่ที่นั่น

           คราวนี้ตอนดึก ๆ พวกคนงานก่อสร้างกะดึก ที่ก่อสร้างโครงการศาลอาญาเลิกงาน แล้วก็ชอบเดินข้ามถนน กลับมาแคมป์คนงานที่ฝั่งตรงข้ามมันก็เดินข้ามตรงนั้น ที่มีต้นโพธิ์อยู่ พวกแก๊งคนงานพวกนี้ มันชอบไปแวะยืนเยี่ยวเป็นกลุ่ม ที่โคนต้นโพธิ์นั่นประจำ ..เยี่ยวทุกวัน จนกลิ่นมันเหม็นหึ่ง ขนาดกลิ่นเยี่ยวโชยข้ามจากเกาะกลางถนนมาถึงฝั่งถนนข้าง ๆ

           ไอ้เพื่อนผมมัน ที่เป็นโปรเจคท์เมเนเจอร์อยู่ที่นั่น ก็เลยออกอุบายไปสำเพ็ง ซื้อผ้าแพรเจ็ดสีมาพันรอบต้นโพธิ์ซะ มีจัดฉากเอาธูปมาปัก ๆ ด้วย เป็นพร็อพ พองาม.. หลังจากนั้น ไม่มีคนงานไปแวะเยี่ยวที่ต้นโพธิ์นั่นอีกเลย..

           แล้วพอไป ๆ มันดันมีคนเอาของมาไหว้เพิ่ม มีคนเอาม้าลายมาแก้บน อะไรอีกก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด จนตรงต้นโพธิ์นั่น กลายเป็นสถานที่เฮี้ยน ฮิตติดชาร์ต ไปในที่สุด

           ไอ้เพื่อนผมคนนั้น มันบอกว่า ขับรถผ่านทีไร เห็นแล้ว ก็อดหัวเราะไม่ได้ แทบทุกครั้งก็ปล่อยให้มันเป็น Urban Legend กันต่อไป.."




 
 
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก