เปิดที่มา ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ภารกิจเพื่อรอยยิ้มประชาชน

เรียบเรียงโดยกระปุกดอทคอม

          เชื่อว่าหลายคน ๆ ต้องเคยได้เห็นข้อความที่ถูกแชร์เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตจำนวนมาก เกี่ยวกับ “ตำรวจจราจรในโครงการพระราชดำริ" ซึ่งทำหน้าที่ช่วยเหลืออำนวยความสะดวกการจราจรบนท้องถนน พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือประชาชนในกรณีพิเศษ เช่น ทำคลอดบนท้องถนน และซ่อมรถเสียฟรี

          เพื่อเจาะลึกถึงที่มาของ “สุภาพบุรุษจราจร” ดังกล่าว ทางผู้สื่อข่าวกระปุกดอทคอม จึงขออาสาพาท่านผู้อ่านไปรู้จักกับหน่วยงานแห่งความภาคภูมิใจแห่งนี้ให้มากขึ้น

          ตำรวจจราจรในโครงการพระราชดำริ เป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องจากทรงเป็นห่วงพสกนิกรในเรื่องปัญหาการจราจร จึงพระราชทานแนวทางปฏิบัติให้แก่ตำรวจเพื่อเป็นแนวคิดไปใช้ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

          สำหรับเงินทุนดำเนินการ ได้รับพระราชทานทุนจากทรัพย์สินส่วนพระองค์ในการจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้ รถจักรยานยนต์พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และพัฒนาบุคลาการเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาจราจรอันจะบรรเทาความเดือดร้อนของพสกนิกรได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์และมีประสิทธิภาพ ได้ผลดียิ่งขึ้น

          เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2536 เรื่อยมา โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 5 ประการได้แก่

          1. การแสวงหาแนวทางให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเคารพกฎจราจรและมีมารยาท

          2. ใช้รถจักยานยนต์เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วไปแก้ปัญหายังจุดที่ทำให้รถติด เปรียบเสมือนรถนำขบวนโดยเมื่อเกิดมีปัญหาต่างๆ ที่กีดขวางการจราจร รถจักรยานยนต์ก็จะเข้าไปแก้ไขปัญหาทำให้รถในขบวนเคลื่อนที่ไปได้

          3. ใช้รถจักรยานยนต์ดูแลการจราจรในถนนให้รถเคลื่อนทีไปได้เรื่อยๆ ตามความเหมาะสม

          4. ถนนที่เป็นลักษณะคอขวดให้รถจักรยานยนต์เข้าไปแก้ปัญหาให้รถเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆเปรียบเสมือนเทน้ำออกจากขวด

          5. ให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาจราจร

           พ.ต.ท. ไพโรจน์ จันทร์กระจ่าง สว. งานฯ 3 กก. 6 บก. จร. เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวกระปุก ว่า ในช่วงแรก การทำงานของตำรวจจราจรในโครงการพระราชดำรินั้นทำหน้าที่เพียงการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในพื้นที่กรุงเทพชั้นในให้สามารถสัญจรได้สะดวกขึ้น

          จากนั้นเมื่อเริ่มปฏิบัติจริงพบว่ายังมีปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนท้องถนนอีกมากมาย

          ปัจจุบันตำรวจโครงการพระราชดำริจึงมีหน้าที่ในการบรรเทาปัญหาการจราจรที่ติดขัด และช่วยเหลือประชาชนในกรณีพิเศษด้วย เช่น การช่วยเหลือหญิงที่ท้องแก่ใกล้คลอด หากได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบหากเห็นว่าควรจะทำคลอดก็จะดำเนินการทำคลอดให้ทันที

          แต่ถ้าหากสามารถไป รพ.ได้ก็จะอำนวยความสะดวกเรื่องการจราจรให้ รวมไปถึงการอำนวยความสะดวกในกรณีที่มีผู้ป่วยที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล

          นอกจากนี้ ยังได้จัดทีม "ตำรวจช่าง" ลงพื้นที่กระจายตามจุดต่าง ๆ เพื่อเพื่อช่วยซ่อมรถให้กับรถของประชาชนที่รถจอดเสียบนท้องถนนในเขตกรุงเทพมหานครชั้นใน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าแก้ไขปัญหารถขนาดใหญ่ในกรณีเบรกล็อกไม่สามารถใช้รถยกได้ส่งผลให้การจราจรติดขัด

          พ.ต.ท. ไพโรจน์  กล่าวต่อว่า ตำรวจช่างทุกนายผ่านการอบรมให้มีความรู้ในด้านการซ่อมรถเป็นอย่างดี และซ่อมฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น เพื่อเข้าแก้ไขเหตุการณ์พิเศษที่ตำรวจจราจรทั่วไปไม่สามารถดำเนินการได้

           แนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจราจรในพระราชดำริจะไม่เน้นการจับกุมหรือออกใบสั่ง หากพบว่ามีการกระทำผิดก็กฎจราจรจะเรียกตักเตือน นอกเสียจากการเข้าระงับเหตุร้ายที่เกิดขึ้นซึ่งหน้า

           ปัจจุบันโครงการได้รับการสนับสนุนกำลังพลเพิ่มเติมจาก พล.ต.ท. ดร. สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย.ผบ.ตร. อีกประมาณ 50 นาย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จบใหม่ ทำให้ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เป็นสายตรวจเคลื่อนที่เร็วทั้งสิ้น 92 นาย

          ทั้งนี้ โดยแบ่งการทำงานของตำรวจจราจรในโครงการพระราชดำริจะเป็น 3 โซน ได้แก่ 

          1. โซนเหนือ ได้แก่พื้นที่ ดินแดง มะกะสัน พญาไท เพชรบุรี แยกพระรามเก้า และรามคำแหง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจช่างประจำอยู่ 7 นาย

          2. โซนใต้ ได้แก่พื้นที่ ถนนพระราม 1 และถนนพระราม4 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจช่างประจำอยู่ 4 นาย

          3. โซนฝั่งธนบุรี ได้แก่พื้นที่ แยกบางพลัด ถนนสิรินธร ถนนบรมราชชนนี มีเจ้าหน้าที่ตำรวจช่างประจำอยู่ 4 นาย 

          ด้าน ดาบตำรวจ ศักดิ์ชาย กระแสร์ญาน ผบ.หมู่ งานปฏิบัติการจราจรตามโครงการพระราชดำริ 1 กก.6 บก.จร. หนึ่งในตำรวจช่างในโครงการตำรวจจราจรในโครงการพระราชดำริ เปิดเผยกับกระปุกดอทคอม เพิ่มเติมว่า การเข้ามาทำหน้าที่ในหน่วยงานนี้ นับเป็นความภูมิใจอย่างมาก เนื่องจากได้ช่วยเหลือประชาชนในช่วงเวลาวิกฤติที่ไม่สามารถพึ่งพาใครได้

          “เราสามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกดีและความประทับใจของพี่น้องประชาชนที่ได้รับการช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังภูมิใจที่สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือประชาชนตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ดาบตำรวจ ศักดิ์ชาย กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ

          ทั้งนี้หากประชาชนมีปัญหาเร่งด่วนมีผู้ป่วยหรือคนท้องแก่ต้องการไปโรงพยาบาลในเวลาเร่งด่วน หรือรถจอดเสียต้องการความช่วยเหลือ แจ้งไปได้ที่สายด่วนบก. 02 หมายเลข 1197 หรือเบอร์โทรของโครงการ หมายเลข 02-354-6324








          และติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ กองบังคับการตำรวจจราจร