ร้อง คสช. ตรวจฟาร์มเถื่อน เลี้ยงงูเหลือม-งูหลาม เกือบพันตัว

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  รายการ เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร

                   ชาวบ้าน จ.อุตรดิตถ์ ผวา ฟาร์มเถื่อนเลี้ยงงูเหลือม-งูหลาม เกือบพันตัว กลิ่นสาปคลุ้งทั่วพื้นที่  ร้อง คสช. ตรวจสอบด่วน เพราะถือหุ้นโดยชาวต่างชาติ หวั่นทำประเทศชาติเสื่อมเสีย

                   เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายดำเนิน อินทะเรืองรุ่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำพี้ อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ให้เข้าไปตรวจสอบบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ทำธุรกิจเป็นโรงงานฟาร์มเลี้ยงงูเหลือม-งูหลาม ในตำบลน้ำพี้ ซึ่งฟาร์มดังกล่าวปลูกสร้างบนเนื้อที่ 163 ไร่ 3 งาน 22 ตารางวา ประกอบด้วย อาคารสำนักงาน อาคารเพาะเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์งูเหลือมและงูหลาม อาคารเพาะเลี้ยงหนูขาวเพื่อใช้เป็นอาหารงู รวมถึงโรงเรือนเพาะเลี้ยงและอนุบาลลูกงู รวมทั้งสิ้นกว่า 20 อาคาร อีกทั้งใช้หนูขาวเป็น ๆ นับหมื่นตัว เป็นเหยื่อให้อาหารงูในแต่ละมื้อ สร้างความหวาดผวาและหวาดกลัวให้กับชาวบ้านในพื้นที่ตำบลน้ำพี้จำนวนมาก หลังได้รับการร้องเรียน 

                   เมื่อเจ้าหน้าที่ อบต. เข้าตรวจสอบภายในฟาร์มงูดังกล่าว พบว่า มีการนำงูมาเลี้ยงไว้แบ่งเป็น งูเหลือม 250 ตัว งูหลาม 500 ตัว รวมเป็น 750 ตัว ทั้งนี้ในส่วนที่เป็นพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์รวมถึงงูเหลือมและงูหลามทั่วไป ถูกขังไว้ในกรงไม้ ทำเป็นคอนโด 4 ชั้น แบ่งเป็นล็อกและขึงด้วยลวดตาข่าย ภายในอาคารที่มีการปรับอุณหภูมิ และมีกลิ่นเหม็นสาบงูคละคลุ้งไปทั่วทั้งฟาร์ม นอกจากนี้ยังพบงูเหลือมป่วย และถูกขังกรงอยู่ด้านนอกตัวอาคารด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ อบต. เป็นกังวลว่าหากมีการเคลื่อนย้ายข้ามเขต โดยไม่มีการตรวจโรคหรือควบคุมโรคอย่างปลอดภัย อาจเกิดการแพร่กระจายของโรคเข้าสู่สัตว์ด้วยกัน หรือแม้กระทั่งข้ามเข้าสู่คนอีกด้วย

                   ส่วนอาคารเพาะเลี้ยงหนูขาว พบว่า ถูกขังอยู่ในกรงเหล็กขึงด้วยลวดตาข่ายเรียงเป็นคอนโดขนาด 5 ชั้น แบ่งเป็นล็อก 7 แถว แถวหนึ่งบรรจุหนูขาวที่เลี้ยงไว้กว่า 1,000 ตัว รวมทั้งสิ้นประมาณ 10,000 ตัว เพื่อเป็นอาหารสำหรับงูเหลือมและงูหลาม โดยไม่มีผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการออกมาให้คำชี้แจงรายละเอียดการจัดตั้งธุรกิจฟาร์มงูแห่งนี้ ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ระดับลูกจ้างที่ทำหน้าที่ให้อาหารหนูดังกล่าวนำตรวจเพียงอย่างเดียว

                   ทั้งนี้ นายดำเนิน กล่าวว่า งูเหลือมและงูหลามเป็นพันธุ์สัตว์ป่าประเภทเลื้อยคลาน การตั้งโรงงานหรือฟาร์มเลี้ยง จะต้องได้รับการประชาคมความคิดเห็นประชาชนผ่านหมู่บ้านและต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ส่วนราชการเสียก่อน โดยเฉพาะจากส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่เท่าที่ได้ตรวจสอบแล้ว ยังไม่ได้รับการอนุญาตให้ตั้งโรงงานเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าแต่อย่างใด ถือว่าเป็นโรงงานเถื่อน อยากให้ พล.อ. ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบชี้แจงให้ชาวบ้านทราบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการตั้งฟาร์มงูเถื่อนของบริษัทเอกชนดังกล่าว พร้อมดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

                   นอกจากนี้ สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุด คือ ธุรกิจของบริษัทเอกชนแห่งนี้ มีผู้ถือหุ้นทั้งหมด 5 คน เป็นชาวต่างชาติ 4 คน และเป็นหญิงไทย 1 คน คาดว่าเป็นภรรยาชาวต่างชาติที่ถือหุ้นอยู่ด้วย จึงมองได้ว่าธุรกิจนี้ขึ้นตรงกับชาวต่างชาติ รวมถึงการกว้านซื้อที่ดิน จึงหวั่นว่าทั้งธุรกิจและที่ดินจะถูกกลืนโดยชาวต่างชาติ อยากให้ท่านนายกฯ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และในฐานะหัวหน้า คสช. ช่วยจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ถึงที่มาที่ไปการตั้งฟาร์มงูแห่งนี้ด้วย เพราะกลัวว่าจะทำประเทศชาติเสื่อมเสีย

                   รายงานระบุด้วยว่า นายไพฑูรย์ อินจ๋อย รองประธานสภา อบต.น้ำพี้ พร้อมชาวบ้าน ได้จับกลุ่มออกมาต่อต้าน ไม่ต้องการฟาร์มงูเหลือมและงูหลาม โดยเฉพาะการตั้งโรงฆ่าสัตว์งู ทั้งเรื่องกลิ่นเหม็นสาป กลิ่นคาวเลือด การฆ่าและการฟอกหนัง ที่อาจทำสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติเสียหาย อาจมีการปล่อยน้ำเสียจากโรงงานลงในแหล่งน้ำธรรมชาติทับแตก ส่งผลทำให้น้ำเน่าเสีย ทำให้ชาวบ้าน ตำบลน้ำพี้และละแวกใกล้เคียง จะได้รับความเดือดร้อนในอนาคต เพราะโรงงานแห่งนี้ไม่ได้รับการขออนุญาต แต่มีการตั้งโรงงานในพื้นที่แล้ว ความเสียหายของคนท้องถิ่นนี้ใครจะรับผิดชอบ







อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก