รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยันออกหนังสือเรื่องการเปิดทีวีของโรงพยาบาลรัฐจริง แต่ไม่ได้ระบุว่าห้ามเปิดรายการทีวีช่อง 3
วันนี้ (17 กุมภาพันธ์ 2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานที่ผ่านมา (16 กุมภาพันธ์) มีการเผยแพร่หนังสือสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปิดโทรทัศน์ของโรงพยาบาลรัฐ ถึงนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง ออกโดย นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ 30 มกราคม 2558 ในฐานะปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีใจความบางส่วนระบุว่า...
ด้วยสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้รับเรื่องผ่านศูนย์บริหารจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 กรณีมีผู้เสนอความเห็นเกี่ยวกับการเปิดรายการโทรทัศน์ของโรงพยาบาลรัฐ ในการเปิดรายการข่าวเฉพาะสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ให้ผู้มารับบริการในโรงพยาบาลรับชม ซึ่งเป็นรายการข่าวที่ไม่เหมาะสม เพราะพิธีกรผู้ดำเนินรายการท่านหนึ่งเป็นผู้ที่มีความประพฤติไม่เหมาะสม ถูกคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ ชี้มูลว่าทำความผิดเรื่องการทุจริต และเสนอข่าวไม่ครบถ้วน บิดเบือน จึงเห็นว่าไม่เหมาะสมที่ทางโรงพยาบาลของรัฐจะเปิดรายการของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ให้ แพทย์ พยาบาล และประชาชน ที่เข้ามารับบริการชม
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตนได้ออกหนังสือดังกล่าวจริง เนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนไปที่ศูนย์บริหารจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 กรณีโรงพยาบาลของรัฐในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขเปิดรายการข่าวเฉพาะสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ทางศูนย์บริหารการจัดการจึงได้ทำหนังสือแจ้งมายังสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตนจึงทำหนังสือไปยังนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง เพื่อให้ดำเนินการตามที่มีผู้ร้องเรียน
นอกจากนี้ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยังกล่าวต่ออีกว่า หากพิจารณาดี ๆ ในหนังสือไม่ได้ระบุว่าห้ามเปิดรายการทีวีช่องดังกล่าว แต่เป็นการเสนอความเห็นเรื่องการเปิดรายการโทรทัศน์ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้อำนวยการโรงพยาบาลนั้น ๆ เพื่อให้ลดความขัดแย้งและข้อร้องเรียนของประชาชน จึงขอให้มีการเปิดรายการโทรทัศน์ที่หมุนเวียนกันไปแต่ละช่อง
อย่างไรก็ตามเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดจะมีการทำหนังสือเวียนสั่งการอีกครั้งเพื่อชี้แจงว่า กระทรวงไม่ได้ปิดกั้นการรับข่าวสาร และขอให้ทางโรงพยาบาลพิจารณาการเผยแพร่ข่าวสารสุขภาพให้ครอบคลุมทุกช่องทาง ซึ่งทางกระทรวงก็มีการผลิตสื่อความรู้สุขภาพให้ประชาชนอยู่แล้ว สามารถนำไปเผยแพร่ได้ทันที
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
