นักวิจัยอึ้งไปตาม ๆ กัน เมื่อนำพระพุทธรูปเข้าเครื่องซีทีสแกน กลับพบว่ามีโครงกระดูกคนอยู่ข้างใน ไร้อวัยวะ แต่มีกระดาษเขียนอักษรจีนโบราณบรรจุอยู่
ตามข้อมูลที่เว็บไซต์ซีเน็ต เผยในรายงานวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2558 ระบุว่า พระพุทธรูปศิลปะแบบจีนองค์นี้ซึ่งคาดว่ามีอายุราว 1,000 ปี ถูกจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์เดรนท์ของเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่ปีที่แล้ว ก่อนจะถูกนำไปทำการสำรวจเข้าเครื่องซีทีสแกนที่โรงพยาบาลมีแอนเดอร์ ในเมืองอาร์เมอร์โฟร์ต ซึ่งทำให้ผู้วิจัยตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็น เมื่อภาพสแกนเผยให้เห็นโครงกระดูกมนุษย์ครบทั้งร่างอยู่ข้างใน โดยอยู่ในท่านั่งขัดสมาธิเช่นเดียวกับปางของพระพุทธรูป แต่เมื่อสอดกล้องเข้าไปเพื่อเก็บตัวอย่างในช่องอกและท้อง กลับไม่พบซากชิ้นส่วนอวัยวะภายใน แต่พบเศษกระดาษเก่า ๆ เขียนด้วยอักษรจีนโบราณ
ทีมศึกษานำโดยนายอีริค บรูจิน ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะพระรูปสันนิษฐานว่า ร่างมัมมี่ที่อยู่ภายในพระรูปองค์นี้น่าจะเป็น "หลิวฉวน" (Luiquan) พระนักบำเพ็ญเพียรชื่อดังของจีน ซึ่งเสียชีวิตลงเมื่อราวพันปีที่แล้ว และทางทีมเชื่อมัมมี่พระพุทธรูปนี้ คือตัวอย่างของนักบวชที่ตั้งใจบำเพ็ญเพียรเพื่อบรรลุธรรมขั้นสูงสุดหรือเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า (living Buddha) ซึ่งยังมีความเชื่อที่ว่าร่างมัมมี่เหล่านี้ที่จริงยังไม่เสียชีวิต เพียงแค่อยู่ในภวังค์ขั้นลึกเท่านั้นด้วย
ทั้งนี้ ยังมีเรื่องการบำเพ็ญเพียรจนตัวตายของพระในญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน โดยการอดอาหารกินแต่น้ำ ถั่ว และเมล็ดพืชเป็นเวลา 1,000 วัน จากนั้นอีก 1,000 วัน จะกินรากไม้ เปลือกไม้ และชาพิเศษจากต้นไม้ ซึ่งคนโบราณใช้เคลือบจานชามเพื่อป้องกันมอดและแบคทีเรีย แล้วจึงลงไปนั่งในหลุมเพื่อบำเพ็ญเพียรอีก 1,000 วัน หลังจากนั้นลูกศิษย์ก็จะเปิดหลุมเพื่อนำร่างที่แห้งเป็นมัมมี่ของพระรูปนั้นขึ้นมาสักการบูชา ถือว่าได้บำเพ็ญเพียรจนบรรลุแล้ว แต่หากพบว่าพระรูปใดยังไม่เสียชีวิต ก็จะปิดปากหลุมไว้เช่นเดิมเพื่อให้พระรูปนั้นได้บำเพ็ญเพียรต่อไปตามความปรารถนา
ในตอนนี้พระพุทธรูปร่างมัมมี่ดังกล่าวถูกนำไปจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติธรรมชาติแห่งชาติของฮังการีในเมืองบูดาเปสต์ โดยจะแสดงไว้จนถึงเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนข้อสงสัยว่าอวัยวะภายในของมัมมี่ร่างนี้หายไปไหนและกระดาษเขียนอักษรจีนโบราณเข้าไปอยู่ภายในได้อย่างไร ยังคงเป็นปริศนาอยู่
ตามข้อมูลที่เว็บไซต์ซีเน็ต เผยในรายงานวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2558 ระบุว่า พระพุทธรูปศิลปะแบบจีนองค์นี้ซึ่งคาดว่ามีอายุราว 1,000 ปี ถูกจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์เดรนท์ของเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่ปีที่แล้ว ก่อนจะถูกนำไปทำการสำรวจเข้าเครื่องซีทีสแกนที่โรงพยาบาลมีแอนเดอร์ ในเมืองอาร์เมอร์โฟร์ต ซึ่งทำให้ผู้วิจัยตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็น เมื่อภาพสแกนเผยให้เห็นโครงกระดูกมนุษย์ครบทั้งร่างอยู่ข้างใน โดยอยู่ในท่านั่งขัดสมาธิเช่นเดียวกับปางของพระพุทธรูป แต่เมื่อสอดกล้องเข้าไปเพื่อเก็บตัวอย่างในช่องอกและท้อง กลับไม่พบซากชิ้นส่วนอวัยวะภายใน แต่พบเศษกระดาษเก่า ๆ เขียนด้วยอักษรจีนโบราณ
ทีมศึกษานำโดยนายอีริค บรูจิน ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะพระรูปสันนิษฐานว่า ร่างมัมมี่ที่อยู่ภายในพระรูปองค์นี้น่าจะเป็น "หลิวฉวน" (Luiquan) พระนักบำเพ็ญเพียรชื่อดังของจีน ซึ่งเสียชีวิตลงเมื่อราวพันปีที่แล้ว และทางทีมเชื่อมัมมี่พระพุทธรูปนี้ คือตัวอย่างของนักบวชที่ตั้งใจบำเพ็ญเพียรเพื่อบรรลุธรรมขั้นสูงสุดหรือเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า (living Buddha) ซึ่งยังมีความเชื่อที่ว่าร่างมัมมี่เหล่านี้ที่จริงยังไม่เสียชีวิต เพียงแค่อยู่ในภวังค์ขั้นลึกเท่านั้นด้วย
ทั้งนี้ ยังมีเรื่องการบำเพ็ญเพียรจนตัวตายของพระในญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน โดยการอดอาหารกินแต่น้ำ ถั่ว และเมล็ดพืชเป็นเวลา 1,000 วัน จากนั้นอีก 1,000 วัน จะกินรากไม้ เปลือกไม้ และชาพิเศษจากต้นไม้ ซึ่งคนโบราณใช้เคลือบจานชามเพื่อป้องกันมอดและแบคทีเรีย แล้วจึงลงไปนั่งในหลุมเพื่อบำเพ็ญเพียรอีก 1,000 วัน หลังจากนั้นลูกศิษย์ก็จะเปิดหลุมเพื่อนำร่างที่แห้งเป็นมัมมี่ของพระรูปนั้นขึ้นมาสักการบูชา ถือว่าได้บำเพ็ญเพียรจนบรรลุแล้ว แต่หากพบว่าพระรูปใดยังไม่เสียชีวิต ก็จะปิดปากหลุมไว้เช่นเดิมเพื่อให้พระรูปนั้นได้บำเพ็ญเพียรต่อไปตามความปรารถนา
ในตอนนี้พระพุทธรูปร่างมัมมี่ดังกล่าวถูกนำไปจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติธรรมชาติแห่งชาติของฮังการีในเมืองบูดาเปสต์ โดยจะแสดงไว้จนถึงเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนข้อสงสัยว่าอวัยวะภายในของมัมมี่ร่างนี้หายไปไหนและกระดาษเขียนอักษรจีนโบราณเข้าไปอยู่ภายในได้อย่างไร ยังคงเป็นปริศนาอยู่
ภาพจาก Jan van Esch
