คมนาคมลงนามข้อตกลงคุณธรรม ก่อนประมูลรถเมล์เอ็นจีวี ยันรับมอบล็อตแรก มิ.ย. จ่อเปลี่ยนล็อตสองกว่า 2 พันคัน เป็นรถเมล์ดีเซล-ไฟฟ้า ตั้งคณะกรรมการศึกษา หาข้อสรุปใน 45 วัน พร้อมเสนอ ครม. หากเปลี่ยนรูปแบบ เหตุราคาเอ็นจีวีพุ่ง
วันที่ 3 มีนาคม 2558 พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วานนี้ (2 มีนาคม 2558) ได้จัดพิธีลงนามข้อตกลงคุณธรรม 3 ฝ่าย ระหว่างหน่วยงานภาครัฐที่เป็นเจ้าของโครงการจัดซื้อจัดจ้าง ผู้เสนอราคา และผู้แทนจากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นในฐานะผู้สังเกตการณ์ เพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างเกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยให้บังคับใช้ 2 โครงการแรกเป็นโครงการนำร่องได้แก่ โครงการจัดซื้อรถโดยสารเชื้อเพลิงธรรมชาติ (เอ็นจีวี) จำนวน 489 คัน ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ตามข้อเสนอของคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.)
โดย พล.อ.อ. ประจิน กล่าวว่า การจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีล็อตแรก 489 คัน จากทั้งหมด 3,183 คัน หากว่าตามแผนงานแล้ว ต้องรับมอบทั้งหมดภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม หรือต้นเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนที่เหลืออีก 2,694 คัน ต้องเปิดหารือรับฟังความคิดเห็นร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าส่วนนี้ยังจำเป็นหรือไม่ เนื่องจากราคาเอ็นจีวีเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
โดยเริ่มจากแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางปัญหาต่าง ๆ และข้อดีของโครงการ ว่าจะยังเดินหน้ารถเมล์เอ็นจีวีต่อไป หรือจะเปลี่ยนเป็นรถเมล์ดีเซล หรือรถเมล์ไฟฟ้า ทั้งนี้ คงต้องหาข้อสรุปภายใน 45 วัน ประมาณกลางเดือนเมษายนนี้ หากเปลี่ยนรูปแบบโครงการก็ต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้พิจารณาอีกครั้ง
ด้านนางปราณี ศุกระศร กรรมการและรักษาการผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า ผู้ที่เข้ายื่นซองแข่งขันราคา โครงการจัดซื้อรถเมล์ล็อตแรกทุกราย จะต้องลงนามสัญญาคุณธรรมด้วย และตลอดการดำเนินโครงการจะมีผู้สังเกตการณ์จนถึงขั้นตอนสุดท้ายของการตรวจรับรถ คาดว่าจะได้ผู้ชนะการประมูลและร่วมลงนามสัญญากัน ประมาณปลายเดือนมีนาคม-ต้นเมษายนนี้ ซึ่งการทยอยส่งมอบรถ จะใช้เวลา 90 วัน
นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) กล่าวว่า ข้อตกลงด้านคุณธรรมเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ที่เข้าร่วมเป็นผู้เสนอราคาหรือเสนองานกับรัฐ ว่าจะร่วมกันทำให้การจัดซื้อจัดจ้างมีความโปร่งใส ไม่ทุจริต รวมถึงจะมีผู้สังเกตการณ์จากภายนอกเข้าร่วมด้วย โดยผู้สังเกตการณ์จะไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในโครงการนั้น ๆ หากพบมีการทุจริตก็ขอให้สังคมร่วมกันประณามในการกระทำนั้นด้วย
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
