สืบเนื่องจากที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ไต่สวนสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กว่า 50 คน กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายและขัดแย้งต่อจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างร้ายแรง
กรณีเสนอชื่อเครือญาติต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ในฐานะสำนักเลขาธิการ สนช. เข้ารับการแต่งตั้งเป็นผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ และผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัวสมาชิกสนช. ถือเป็นการดำเนินการหรือมีพฤติกรรมเข้าข่ายมีผลประโยชน์ทับซ้อน ต้องห้ามตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ. 2551 ประมวลจริยธรรมของสมาชิกวุฒิสภาและกรรมาธิการ พ.ศ. 2553 และเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ฉบับแก้ไขเพิ่มเพิ่ม
โดยขอให้ไต่สวน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. ในฐานะใช้อำนาจออกประกาศคุณสมบัติผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ และผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัวสมาชิกสนช. และ นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการสนช. ในฐานะผู้ลงนามแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ และผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัวสมาชิกสนช. นั้น
ล่าสุดวันนี้ (5 มีนาคม 2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยว่า ทางสำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีดังกล่าวบรรจุเข้าสู่วาระการพิจารณาเร่งด่วนแล้ว โดย นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เตรียมรายงานกรณีดังกล่าวให้ที่ประชุมทราบและพิจารณาว่า ข้อร้องเรียนทั้งหมดเข้าองค์ประกอบการพิจารณาของป.ป.ช. ตามกฎหมายหรือไม่ และป.ป.ช. มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาในประเด็นใดบ้าง
ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณ ได้ย้ำถึงมาตรา 19 พ.ร.บ. ป.ป.ช. เรื่องการปฏิบัติผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ แสวงหาประโยชน์ให้ตัวเองปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน หรือผิดร้ายแรงในเรื่องคุณธรรมจริยธรรมหรือไม่
อย่างไรก็ตามหากที่ประชุมพิจารณาแล้วสามารถรับไว้ไต่สวนได้ก็จะได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาแสวงหาข้อเท็จจริงต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
