เปิดประวัติฆาตกรต่อเนื่อง 25 คน ที่ก่อเหตุฆ่าสุดสยองด้วยวิธีการต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็นมนุษย์ที่เลือดเย็นที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ในโลกนี้อาจจะมีฆาตกรมากมาย แต่จะมีสักกี่คนที่จะลงมือฆ่าคนซ้ำ ๆ โดยไม่รู้สึกอะไร จนได้ชื่อว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องเลือดเย็น ล่าสุดเว็บไซต์ list25 ได้เปิดแฟ้มฆาตกรต่อเนื่อง 25 คน ที่ได้ขึ้นชื่อว่า เลือดเย็นที่สุดในประวัติศาสตร์ จนอาจทำให้คุณสงสัยว่า เขาเหล่านั้นกระทำการอันบ้าคลั่งแบบนี้ลงไปได้อย่างไร
1. เดวิด เบอร์โควิตซ์
ภาพจาก cdn3.list25.com
นายเดวิด เบอร์โควิตซ์ หรือที่รู้จักกันในฉายา Son of Sam หรือฉายา นักฆ่าปืนคาลิเบอร์ .44 เขาเองได้ก่อเหตุโดยใช้ปืนคาลิเบอร์ .44 ในการยิงคนตาย 6 คน และบาดเจ็บ 7 คน ตลอดช่วงฤดูร้อนปี 1976 อีกทั้งเขาเองยังส่งจดหมายไปแจ้งกับตำรวจและสื่อมวลชนว่าเขาจะเดินหน้ายิงคนไปเรื่อย ๆ สร้างความหวาดกลัวทั่วกรุงนิวยอร์กซิตี้เป็นอย่างมาก
ในปี ปี ค.ศ. 1977 นายเดวิด เบอร์โควิตซ์ ก็ถูกจับกุมได้ในเดือนสิงหาคม เขาได้ให้การรับสารภาพ และต้องโทษจำคุก 25 ปี สำหรับแต่ละชีวิตที่เขาฆ่า และดูเหมือนว่า เขาเองจะรับโทษอยู่ในคุกโดยไม่มีทีท่าว่าจะถูกปล่อยออกมา
2. เอ็ดมันด์ เค็มเปอร์
ภาพจาก cdn3.list25.com
นายเอ็ดมันด์ เค็มเปอร์ หรือที่รู้จักกันในนาม "นักเรียนนักฆ่า" เขาเองเป็นฆาตกรต่อเนื่องชาวอเมริกันและชอบมีเพศสัมพันธ์กับศพ เขาก่อคดีฆ่าสุดสยองในแคลิฟอร์เนียตลอดช่วงปี 1970 โดยที่เขาเริ่มฆ่าคุณปู่คุณย่าของตัวเองตั้งแต่อายุแค่ 15 ปี จากนั้นก็ฆ่าและตัดแขนตัดขาหญิง 6 คนในพื้นที่ซานตาครูซ เขาเองได้ลงมือฆ่าคุณแม่แท้ ๆ ของตัวเองกับเพื่อนของเธอ ก่อนที่จะมอบตัวกับตำรวจในอีกไม่กี่วันต่อมา
นายเอ็ดมันด์ เค็มเปอร์ ถูกตั้งข้อหาและพบว่ามีความผิดในเดือนพฤศจิกายน 1973 จากการฆาตกรรม 8 ศพ เขาได้ร้องขอให้มีการประหารชีวิตตัวเขาเอง แต่เขากลับได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิตและดูเหมือนจะไม่ได้รับการปล่อยตัวแม้แต่น้อย
3. ลาร์รี่ บิตเทคเกอร์ และ รอย นอร์ริส
ภาพจาก cdn3.list25.com
ลอว์เรนซ์ บิตเทคเกอร์ และ รอย นอร์ริส หรือเจ้าของฉายา นักฆ่ากล่องเครื่องมือ คือ 2 ฆาตกรต่อเนื่องชาวอเมริกันที่ร่วมกันฆ่าผู้หญิง 5 คนในแคลิฟอร์เนียในช่วงปี 1979 พวกเขาจะหลอกล่อให้ผู้หญิงมาขึ้นรถตู้ด้วยกัน จากนั้นก็ขับรถไปที่เปลี่ยว ๆ และลงมือข่มขืนผู้หญิง พร้อมทั้งทรมานเหยื่อด้วยเครื่องมือช่างต่าง ๆ ก่อนที่จะฆ่าปิดปาก
ในปี 1981 ทั้งสองคนมีความผิดในข้อหาฆาตกรรม ลักพาตัว และ ข่มขืน นายลอว์เรนซ์ บิตเทคเกอร์ ถูกตัดสินประหารชีวิต ในขณะที่นายรอย นอร์ริส ถูกเว้นโทษการประหารชีวิต เนื่องจากเขาได้รับสารภาพเกี่ยวกับการร่วมมือกระทำการกับนายลอว์เรนซ์ บิตเทคเกอร์ และถูกสั่งจำคุก 45 ปี
4. เอียน เบรดี้ และ มิร่า ฮินลีย์
ภาพจาก cdn3.list25.com
เอียน เบรดี้ และ มิร่า ฮินลีย์ ได้ฆาตกรรมเด็ก 5 คนในช่วงระหว่างปี 1963-1965 ในภูมิภาคเกรทเตอร์แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ พวกเขาได้ฆาตกรรมเด็กอายุตั้งแต่ 10-17 ปี และเหยื่อทุกคนต่างถูกล่วงละเมิดทางเพศก่อนที่จะถูกฆาตกรรมอย่างทารุณ ศพของเหยื่อ 3 คนถูกขุดค้นพบที่สุสาน และศพของเหยื่อคนสุดท้ายถูกพบที่บ้านของนายเบรดี้ ส่วนศพของคีธ เบ็นเน็ต เหยื่อคนที่ 4 นั้น ปัจจุบันยังหาไม่พบ
ทั้งเอียน เบรดี้ และ มิร่า ฮินลีย์ ต่างถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งมิร่า ฮินลีย์ เสียชีวิตขณะที่จำคุกในปี 2002 ในขณะที่นายเอียน เบรดี้ ถูกย้ายไปอยู่ที่โรงพยาบาลแอชเวิร์ธ โดยมีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา
5. เคนเนธ บีอานชี และ แองเจโล บูโอโน
ภาพจาก cdn3.list25.com
นายเคนเนธ บีอานชี และนาย แองเจโล บูโอโน ชาย 2 คนที่เป็นญาติกัน ได้ก่อเหตุสุดสยองในพื้นที่แคลิฟอร์เนียตั้งแต่ปี 1977 -ต้นปี 1978 ทั้งการลักพาตัว ข่มขืน และฆ่าเด็กสาว 10 คน อายุระหว่าง 12-28 ปี และรัดคอแต่ละคนพร้อมกับทิ้งศพเอาไว้ที่เนินเขา จนทำให้ทั้งสองคนได้ฉายาว่า "นักฆ่าริมเนินเขา"
นายบีอานชี ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าเขาเองนั้นมีปัญหาทางจิต แต่สุดท้ายก็พบว่าข้อมูลนี้เป็นเท็จ ดังนั้นเขาจึงยอมรับผิดและซักทอดไปถึงนายบูโอโน่ ทั้งสองคนจึงถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต และนายบูโอโน่ก็เสียชีวิตในคุกเมื่อปี 2002
6. นายเดนนิส เรเดอร์
ภาพจาก cdn3.list25.com
นายเดนนิส เรเดอร์ ได้ฆ่าคน 10 คนในเขตเซดวิกเคาท์ตี้ เมืองวิชิตา รัฐแคนซัส สหรัฐอเมริกา ระหว่างปี 1974-1991 โดยที่เขาเองได้ส่งจดหมายไปหาตำรวจพร้อมกับใช้นามแฝงว่า BTK ที่ย่อมากจาก "Bind, Torture, Kill." (มัด, ทรมาน, ฆ่า) โดยนายเรเดอร์จะตามเหยื่อไปถึงบ้าน จากนั้นก็บุกเข้าไปในบ้าน เขาจะผูกเหยื่อเอาไว้และฆ่ารัดคอ
นายเดนนิส เรเดอร์ ได้หายตัวไปในช่วงปี 1988 และปรากฏตัวอีกครั้งเมื่อปี 2005 เมื่อเขาได้ส่งแผ่นฟลอปปี้ดิสก์ไปให้กับสื่อ ทำให้ตำรวจตามสืบที่มาของแผ่นดิสก์ และตามจับตัวเขาได้ในที่สุด ซึ่งนายเรเดอร์ยอมให้การรับสารภาพโดยทันที เขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
7. โดนัลด์ เฮนรี่ แก๊สสกินส์
ภาพจาก cdn3.list25.com
ในปี 1969 นายแก๊สสกินส์ เริ่มพฤติกรรมฆาตกรรมต่อเนื่องกับผู้คนที่โบกรถข้างทาง ในช่วงที่เขาขับรถไปมาบนทางหลวงบริเวณทางใต้ของอเมริกา เขาจะทรมานและตัดแขนขาเหยื่อ เขาอ้างว่าเขาได้ฆ่าคนไปแล้วกว่า 80-90 คน
ในปี 1975 นายแก๊สสกินส์ก็ถูกจับกุมตัว เมื่อมีพยานมาแจ้งกับตำรวจว่า เห็นนายแก๊สสกินส์ฆ่าชายหนุ่ม 2 คน เขาถูกคดีฆ่าคน 8 คน และถูกตัดสินให้ประหารชีวิตก่อนลดโทษมาเป็นจำคุกตลอดชีวิตโดยห้ามปล่อยตัว และแม้ว่าเขาจะอยู่ในคุก นายแก๊สสกินส์ยังก่อเรื่องด้วยการฆ่าเพื่อนร่วมห้องขัง และเขาถือเป็นคนเดียวที่กล้าฆ่าเพื่อนร่วมคุกทั้งที่ตัวเองต้องโทษรอการประหารชีวิต
8. นายปีเตอร์ มานูเอล
ภาพจาก cdn3.list25.com
นายปีเตอร์ มานูเอล เป็นชาวอเมริกันที่ย้ายไปอยู่สกอตแลนด์ เขาก่อเหตุฆ่าคน 9 คนทางตอนใต้ของสกอตแลนด์ระหว่างปี 1956-1958 และเขายังต้องสงสัยว่าฆ่าคนมากถึง 18 คน โดยในตอนนั้น ตำรวจยังไม่สามารถหาหลักฐานมาดำเนินการกับเขาได้ จนกระทั่งเหยื่อคนสุดท้ายของเขา เมื่อธนบัตรที่นายมานูเอลใช้จ่ายสำหรับค่าเครื่องดื่มในผับ เป็นธนบัตรใบเดียวกันกับที่เขาฆ่าชิงทรัพย์มาจากเหยื่อ เขายอมให้การสารภาพ เมื่อคุณแม่ของเขามาเจอกับเขาที่สถานีตำรวจ
ในปี 1958 นายปีเตอร์ มานูเอล ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการแขวนคอ ที่คุกบาร์ลินนี่ ในเมืองกลาสโกลว์ สำหรับความผิดอาชญากรรมที่เขาก่อขึ้น และเขาเป็น 1 ในนักโทษคนสุดท้ายของสกอตแลนด์ที่ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการแขวนคอ ก่อนที่จะเปลี่ยนกฎการลงโทษ
9. นายจอห์น จอร์จ เฮก
ภาพจาก cdn3.list25.com
นายจอห์น จอร์จ เฮก หรือที่รู้จักกันในนาม "นักฆ่าอาบน้ำกรด" เขาเป็นฆาตกรต่อเนื่องชาวอังกฤษที่ก่อเหตุช่วงปี 1940 เขามีความผิดในข้อหาฆาตกรรม 6 ศพ แม้ว่าเขาจะบอกเขาได้ฆ่าคนไปทั้งสิ้น 9 ศพ โดยที่นายจอห์น จอร์จ เฮก จะวางเป้าหมายไว้ที่คนที่มีความร่ำรวย และหลอกให้คนเหล่านั้นเชื่อว่าเขาเองเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เขาจะหลอกเหยื่อไปที่โกดังร้างและใช้ปืนยิงเหยื่อ จากนั้นก็นำศพของเหยื่อไปแช่กรดกำมะถัน ก่อนที่จะปลอมลายเซ็นเพื่อนที่จะขายมรดกของเหยื่อและฉกฉวยเงินในบัญชีธนาคาร
อย่างไรก็ตาม ร่องรอยของมนุษย์ยังคงมีให้เห็นและเป็นหลักฐานสำคัญที่จะมัดตัวนายจอห์น จอร์จ เฮก เขาถูกตัดสินประหารชีวิตและถูกแขวนคอที่คุกแวนด์สเวิร์ธ
10 เฟรด และ โรส เวสต์
ภาพจาก cdn3.list25.com
ในช่วงปี 1967-1987 นายเฟรด เวสต์ พร้อมด้วยภรรยาคือ โรส เวสต์ ได้ทรมาน ข่มขืน และฆ่าเด็กสาวทั้งสิ้นกว่า 11 คน ที่บ้านของทั้งสองคนบนเลขที่ 25 ถนนครอมเวลล์ กลอเชสเตอร์ จนบ้านหลังนั้นได้ขึ้นชื่อว่าเป็นบ้านแห่งความสยอง และทั้งสองคนก็ถูกจับและตั้งข้อหาในปี 1994 หลังจากที่ตำรวจได้บุกค้นและตรวจพบกระดูกมนุษย์มากมายที่ฝังอยู่ที่สวนหลังบ้านและพื้นบ้าน
ในระหว่างที่มีการไต่ส่วนนั้น นายเฟรด เวสต์ ก็ได้แขวนคอตายในคุกก่อนที่จะมีการตัดสินความผิด และในปี 1995 นางโรส เวสต์ ก็ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตสำหรับคดีฆาตกรรมกว่า 10 ศพ ส่วนบ้านของพวกเขาก็ถูกรื้อถอนแล้ว
11. นายอาเธอร์ ชอว์ครอส
ภาพจาก cdn3.list25.com
นายอาเธอร์ ชอว์ครอส ได้รับฉายาว่า นักฆ่าแห่งแม่น้ำจีเนซี เขาเริ่มลงมือฆาตกรรมครั้งแรกเมื่อปี 1972 โดยการล่วงละเมิดทางเพศพร้อมกับฆ่าเด็กชายวัย 10 ขวบหลังจากที่หลอกให้เด็กเข้าป่าในย่านวอเตอร์ทาวน์ กรุงนิวยอร์ก จากนั้น เขาก็ได้ข่มขืนและฆ่าเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ซึ่งเขาเองถูกจับและมีความผิดในข้อหาฆาตกรรม
เขาติดคุกนานกว่า 14 ปีและถูกปล่อยตัวออกมาในปี 1988 และออกมาก่อคดีซ้ำด้วยการฆาตกรรมอย่างทารุณกับโสเภณี 12 คนที่มีอายุตั้งแต่ 22-59 ปี เขาถูกจับได้คาหนังคาเขาในตอนที่กำลังลงมือฆ่าเหยื่อคนสุดท้าย ซึ่งเขาก็ได้สารภาพว่า เขาคือผู้ที่ลงมือฆ่าคนทั้ง 12 คน และถูกตัดสินจำคุก 250 ปี จากนั้นเขาก็เสียชีวิตเนื่องจากเหตุหัวใจวายเมื่อปี 2008
12. นายปีเตอร์ ซัตคลิฟฟ์
ภาพจาก cdn3.list25.com
นายปีเตอร์ วิลเลียม ซัตคลิฟฟ์ คือฆาตกรต่อเนื่องชาวอังกฤษที่รู้จักกันในนาม "นักฆ่าแห่งยอร์กเชียร์" ในปี 1981 นายซัตคลิฟฟ์มีความผิดในข้อหาฆาตกรรมหญิง 13 คนและพยายามฆ่าอีก 7 คน เขาเองจะเลือกเหยื่อที่เป็นโสเภณีในพื้นที่เมืองลีดส์และแบรดฟอร์ด จนทำให้เกิดความหวาดกลัวทั่วภาคเหนือของอังกฤษ
เมื่อเขาถูกจับกุมเมื่อปี 1981 จากข้อหาขับรถโดยติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม ตำรวจก็ได้สอบสวนเกี่ยวกับคดีฆาตกรรม และเขาก็ให้การรับสารภาพ ในระหว่างการไต่สวน นายซัตคลิฟฟ์ ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเนื่องจากอ้างว่าเขามีสติไม่สมประกอบ แต่ทางคณะลูกขุนได้ปฏิเสธคำให้การของเขา
นายซัตคลิฟฟ์ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีการปล่อยตัว และยังคงอยู่ในโรงพยาบาลประสาทบรอดมัวร์ ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาจนถึงปัจจุบัน
13. นายริชาร์ด รามิเรซ
ภาพจาก cdn3.list25.com
นายริชาร์ด เรย์วา มูโนซ นามิเรซ คือฆาตกรต่อเนื่องสุดเหี้ยมโหดที่ก่อเหตุในพื้นที่ลอสแอนเจสิสระหว่างปี 1984 -1985 เขาได้รับฉายาว่า "นักสะกดรอยยามค่ำคืน" ซึ่งนายรามิเรซ จะบุกเข้าไปในบ้านของเหยื่อ ยิงเหยื่อ ใช้มีดแทง ข่มขืน หรือตัดอวัยวะ ซึ่งเหยื่อของเขามีตั้งแต่เด็กอายุ 9 ปี ไปจนถึงคู่สามีภรรยาอายุ 60 ปลาย และเมื่อก่อเหตุเสร็จ เขาก็จะวาดรูปดาว 5 แฉกไว้ที่ผนังบ้านของเหยื่อ
ในปี 1985 นายรามิเรซถูกตัดสินประหารชีวิต และเขาเองก็เป็นนักโทษที่รอการประหารชีวิตเป็นเวลากว่า 23 ปี จนกระทั่งเขาเสียชีวิตเมื่อเดือนมิถุนายน 2013
14. นายเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์
ภาพจาก cdn3.list25.com
นายเจฟเฟอร์ ดาห์เมอร์ หรือที่ได้รับฉายา มนุษย์กินคนแห่งมิลวอคกี้ เขาคือฆาตกรต่อเนื่องชาวอเมริกันที่ลงมือฆ่าข่มขืนและตัดอวัยวะผู้ชายและเด็กกว่า 17 คน ในช่วงระหว่างปี 1978 และ 1991 เขาเองยังมีเพศสัมพันธ์กับศพและรับประทานชิ้นส่วนอวัยวะของเหยื่อ พร้อมกับใช้อวัยวะของเหยื่อในการปรุงอาหารที่บ้าน
นายดาห์เมอร์ถูกจับหลังจากที่เหยื่อของเขาวางแผนจับเขาและแจ้งตำรวจ ในปี 1992 นายดาห์เมอร์ถูกตัดสินให้มีความผิดฐานฆาตกรรม 15 คนและถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
อย่างไรก็ตาม 2 ปีหลังจากที่เขาเข้าไปชดใช้กรรมในคุก เขาก็ถูกเพื่อนร่วมคุกทุบตีจนถึงแก่ความตายในทัณฑสถานโคลอมเบีย
15. นายเดนนิส นิลเซ่น
ภาพจาก cdn3.list25.com
นายเดนนิส นิลเซ่น ถือเป็นฆาตกรต่อเนื่องชาวอังกฤษที่มีพฤติกรรมชื่นชอบเพศเดียวกัน เขาฆาตกรรมหนุ่มเกย์ 15 คนที่บ้านของเขาในกรุงลอนดอนในช่วงระหว่างปี 1978 และ 1983 เขาจะชำแหละอวัยวะของเหยื่อแล้วนำอวัยวะไปเผาหรือทิ้งลงชักโครก ซึ่งเป็นสาเหตุให้เขาถูกจับเนื่องจากมีการพบชิ้นส่วนของมนุษย์ในบ่อเกรอะ นายนิลเซ่นถูกตัดสินให้มีความผิดในปี 1983 จากคดีฆาตกรรม 6 ข้อหา และพยายามฆ่าอีก 2 ข้อหา เขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต และตอนนี้ เขาเองยังอยู่ที่เรือนจำฟูล ซัตตัน ในยอร์กเชียร์ ประเทศอังกฤษ โดยไม่มีโอกาสที่จะได้ออกมารับรู้เกี่ยวกับโลกภายนอก
16. นายเท็ด บันดี้
ภาพจาก cdn3.list25.com
นายเท็ด บันดี้ ถือเป็นหนึ่งในฆาตกรที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในศตวรรษที่ 20 เขาเป็นฆาตกรต่อเนื่องชาวอเมริกันที่ก่อเหตุข่มขืน และลักพาตัวหญิงสาวและเด็กหญิงในช่วงปี 1970 โดยที่เขามักจะเข้าไปหาหญิงสาวตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ และหลอกล่อเหยื่อให้ไปในที่เปลี่ยว ก่อนที่เขาจะล่วงละเมิดทางเพศและฆ่าเหยื่อ เขาจัดการตัดหัวเหยื่ออย่างน้อย 12 คนและเก็บศีรษะเอาไว้ในอพาร์ทเม้นท์ เปรียบเสมือนกับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ
นายเท็ด บันดี้ ถูกจับกุมบ่อยครั้ง แต่เขาสามารถแหกคุกแหกศาลออกมาได้ถึง 2 ครั้ง และก่อเหตุฆาตกรรมอีก 3 ศพ และเนื่องจากนายเท็ด บันดี้ ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีฆาตกรรมหลายศพ เขาจึงถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยเก้าอี้ไฟฟ้าเมื่อปี 1989
17. นายชาร์ลส หงี และ นายลีโอพาร์ด เลค
ภาพจาก cdn3.list25.com
นายชาร์ลส หงี ถือเป็นฆาตกรต่อเนื่องชาวอเมริกันเชื้อสายจีน เชื่อกันว่าเขาก่อคดีข่มขืน ทรมาน และฆ่าเหยื่อกว่า 11 - 25 คน โดยมีผู้สมรู้ร่วมคิดอย่างนายลีโอพาร์ด เลค ร่วมก่อเหตุที่ไร่ของนายเลคในคาเลเวราส เคาท์ตี้ รัฐแคลิฟอร์เนีย พวกเขาได้ถ่ายวิดีโอขณะที่ข่มขืนและทรมานเหยื่อ อาชญากรรมของพวกเขาเป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวางเมื่อนายเลค ได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายเมื่อปี 1985 หลังจากที่ถูกจับกุม และหนายหงีก็ถูกจับจากเหตุขโมยของในร้านขายวัสดุอุปกรณ์
ตำรวจได้ค้นหาทั่วไร่ของนายเลค และพบกับอวัยวะของศพ นายหงีเองถูกตั้งข้อหาว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดและเขาก็พยายามหลบหนีการจับกุมไปที่ประเทศแคนาดา เขาถูกนำขึ้นศาลไต่สวนในปี 1998 พร้อมกับต้องคดีฆาตกรรมกว่า 12 ข้อหา และถูกตัดสินให้มีความผิดในปี 1999 ขณะนี้ นายหงีกำลังรอเข้ารับการประหารชีวิต และถูกจำคุกที่คุกซานเควนติน
18. นายจอห์น เวนย์ เกซี่
ภาพจาก cdn3.list25.com
นายจอห์น เวนย์ เกซี่ ได้ก่อเหตุฆ่าข่มขืนเด็กชายและชายหนุ่มทั้งสิ้นกว่า 33 คน ในเหตุการณ์ฆาตกรรมต่อเนื่องระหว่างปี 1972 - 1978 ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ เขาเองจะหลอกล่อให้เหยื่อมาที่บ้าน พร้อมกับสัญญาว่าจะหางานหรือมอบเงินให้ ก่อนที่จะใช้สายรัดห้ามเลือดรัดคอเหยื่อจนถึงแก่ความตาย นายเกซี่ได้ฝังศพเหยื่อ 26 คนบริเวณใต้ถุนบ้าน และเหยื่อลำดับท้าย ๆ ของเขาก็จะถูกนำร่างไปทิ้งในแม่น้ำเดอเพลน
นายเกซี่ มีความผิดฐานฆาตกรรมเหยื่อ 33 ราย เขาถูกตัดสินประหารชีวิต เขาจำคุก 14 ปีก่อนที่จะถูกประหารด้วยการฉีดยาเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 1994
19. นายอังเดร ชิคาติโล
ภาพจาก cdn3.list25.com
นายชิคาติโล คือฆาตกรต่อเนื่องชาวโซเวียต ผู้ได้รับสมญานามว่า คนฆ่าสัตว์แห่งรอสตอฟ เขาได้ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศ ฆาตกรรม และตัดอวัยวะของเด็กและผู้หญิงกว่า 52 คน ในรัสเซีย ระหว่างปี 1978 และ 1990 และเนื่องจากตำรวจเชื่อว่า นายชิคาติโลเป็นผู้ก่อเหตุ ตำรวจจึงติดตั้งกล้องจรปิดจนมีหลักฐานมากพอที่จะมัดตัวเขา
ในปี 1992 นายชิคาติโลได้สารภาพว่าเขาก่อเหตุฆาตกรรมเหยื่อกว่า 56 รายและพยายามฆ่าอีก 53 ราย จนทำให้ญาติของเหยื่อบางคนบอกว่า อยากให้ตำรวจปล่อยตัวนายชิคาติโล เพื่อที่จะได้ฆ่าเขาด้วยมือของตัวเอง เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดและถูกตัดสินประหารจากคดีฆาตกรรม 52 ราย ในเดือนตุลาคม ปี 1992 จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ 1994 นายชิคาติโล ก็ถูกประหารโดยการยิงเป้า
20. นายทอมมี่ ลินน์ เซลล์
ภาพจาก cdn3.list25.com
นายทอมมี่ ลินน์ เซลล์ ถือเป็นหนึ่งในฆาตกรต่อเนื่องสุดโหดที่สุดในรัฐเท็กซัส จากการก่อเหตุฆาตกรรมกว่า 70 ราย และเขาเองยังมีความผิดในคดีฆาตกรรมสุดสยองระหว่างปี 1985 - 1999 รวมถึงการแทงเหยื่อเด็กสาววัย 13 ปี ถึง 16 ครั้ง
นายเซลล์ถูกจับหลังจากที่เขาบุกเข้าไปในห้องนอนของเด็กหญิงวัย 10 ขวบคนหนึ่ง และใช้มีดแทงเธอ ซึ่งแม้ว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บจนเกือบถึงแก่ชีวิต เธอก็รอดออกมาได้และบอกเรื่องนี้ได้เพื่อนบ้านทราบ เธอเล่าเหตุการณ์และพฤติกรรมของนายเซลล์ จนกระทั่งนำไปสู่การจับกุมของตำรวจ
นายทอมมี่ ลินน์ เซลล์ ถูกตัดสินประหารชีวิต และตอนนี้เขาเองอยู่ระหว่างการรอรับโทษประหารในคุกที่มีการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดในเมืองลิฟวิงสตัน รัฐเท็กซัส
21. นายแกรี่ ริดจ์เวย์
ภาพจาก cdn3.list25.com
นายแกรี่ ริดจ์เวย์ ถือเป็นหนึ่งในฆาตกรต่อเนื่องที่เก่งฉกาจที่สุดในสหรัฐอเมริกา เขาถูกจับกุมเมื่อปี 2001 จากการฆ่าหลายศพ และเขาก็ได้รับสารภาพว่าเขาได้ฆ่าผู้หญิงกว่า 70 คนในรัฐวอชิงตัน ตลอดช่วงปี 1980 - 1990 เขาไม่ต้องโทษประหารชีวิตจากการสารภาพโดยลงรายละเอียด และพาตำรวจไปที่จุดที่เขาทิ้งศพเหยื่อ โดยที่มีศพเหยื่อ 5 คนที่เขาทิ้งลงไปในแม่น้ำกรีน และทำให้นักข่าวตั้งฉายาให้เขาว่า นักฆ่าแห่งแม่น้ำกรีน
นายแกรี่ ริดจ์เวย์ ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีฆาตกรรม 49 ศพและถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่ให้มีการปล่อยตัว
22. นายเปโดร โรดิเกวซ ฟิลโญ่
ภาพจาก cdn3.list25.com
นายเปโดร โรดิเกวซ ฟิลโญ่ เป็นฆาตกรต่อเนื่องชาวบราซิล เขาถูกจับกุมในปี 1973 และถูกตัดสินว่ามีความผิดเมื่อปี 2003 จากคดีฆาตกรรม 71 ศพ และถูกตัดสินจำคุก 128 ปี โดยที่เขาเริ่มลงมือฆ่าคนครั้งแรกตั้งแต่อายุ 14 ปี พร้อมกับมีคดีชิงทรัพย์รวมทั้งฆ่าพ่อค้ายาเสพติด เพื่อเป็นการแก้แค้นให้กับแฟนสาวของเขาที่ถูกฆาตกรใจโหดฆ่าในขณะที่เขายังอยู่ในคุก เมื่ออายุ 18 ปี เขาได้ฆ่าคนกว่า 10 คน และในระหว่างที่อยู่ในคุก เขาก็ได้ฆ่าพ่อของตัวเองที่ต้องโทษในคดีฆาตกรรม นอกจากนี้ เขาเองยังลงมือฆ่าเพื่อนร่วมคุกอีกกว่า 47 คนในระหว่างที่ถูกจำคุก
ในตอนแรก นายเปโดร โรดิเกวซ ฟิลโญ่ ถูกตัดสินจำคุก 30 ปี แต่เนื่องจากการที่เขาลงมือฆ่าคนอย่างต่อเนื่อง เขาจึงถูกเพิ่มโทษให้จำคุกถึง 400 ปี
23. นายดาเนียล คามาร์โก บาร์บอสซ่า
ภาพจาก cdn3.list25.com
นายดาเนียล คามาร์โก บาร์บอสซ่า คือฆาตกรต่อเนื่องชาวโคลัมเบีย ที่เชื่อว่าเขาได้ลงมือฆ่าข่มขืนผู้หญิงกว่า 150 คนในพื้นที่ประเทศโคลัมเบียและเอกวาดอร์ในช่วงปี 1970 -1980 เขาได้สารภาพอย่างใจเย็นว่าเขาฆาตกรรมเด็กสาว 71 คนในเอกวาดอร์ หลังจากที่หนีออกมจากคุกในโคลัมเบีย เขายังได้พาเจ้าหน้าที่ไปยังจุดที่เขาใช้ฝังศพเหยื่อ
โดยหลังจากที่ข่มขืนเสร็จแล้ว เขาจะใช้มีดสปาร์ต้าฟันร้างของเหยื่อ และในปี 1989 เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดและต้องโทษจำคุก 16 ปี ซึ่งในตอนนั้นถือเป็นโทษที่หนักที่สุดในเอกวาดอร์ ในเดือนพฤศจิกายน 1994 เขาก็ถูกฆ่าในคุกโดยญาติของเหยื่อเอง
24. นายแพทย์ ฮาร์โรลด์ ชิปแมน
นายแพทย์ฮาร์โรลด์ ชิปแมน คือแพทย์ชาวอังกฤษและคือ 1 ในฆาตกรต่อเนื่องที่มีความเก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีการพิสูจน์ว่าเขาได้ลงมือฆ่าเหยื่อกว่า 250 คน ภายใต้ฉากของการเป็นนายแพทย์ นายแพทย์ฮาร์โรลด์ ชิปแมน ได้รับความเคารพจากคนในชุมชนที่อยู่ แต่เพื่อนและผู้คนที่อยู่อาศัยในแถบนั้นก็เริ่มแสดงความกังวลต่ออัตราการเสียชีวิตในพื้นที่ที่สูงขึ้น และอัตราการเผาศพของหญิงชราที่เข้ารับการรักษากับเขาก็มีจำนวนมากด้วย โดยมีศพบางศพที่ถูกขุดขึ้นมา และผลจากการชันสูตรหลังการเสียชีวิตก็พบเฮโรอีนในร่างกายของเหยื่อ
ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้รู้ว่า นายแพทย์ชิปแมนได้ตั้งใจที่ฉีดยาอันตรายในปริมาณมากให้กับเหยื่อ จนเป็นเหตุให้เหยื่อเสียชีวิต รวมทั้งเขาเองยังได้ปลอมแปลงพินัยกรรมเหยื่อเพื่อที่จะได้เป็นผู้สืบทอดมรดกเงินจำนวนมาก และในพินัยกรรมยังระบุให้มีการเผาศพแทนที่จะเป็นการฝังอีกด้วย
ผลจากการไต่สวน ได้มีการสั่งลงโทษนายแพทย์ ฮาร์โรลด์ ชิปแมน ให้จำคุกตลอดชีวิตใน 15 คดี และได้รับการแนะนำไม่ให้มีการปล่อยตัว และในปี 2004 นายแพทย์ ฮาร์โรลด์ ชิปแมน ก็แขวนคอตายในคุกที่เรือนจำเวคฟอร์ด
25. นายเปโดร อลอนโซ่ โลเปซ
ภาพจาก cdn3.list25.com
นายเปโดร อลอนโซ่ โลเปซ คือฆาตกรต่อเนื่องชาวโคลัมเบียที่ลงมือฆ่าข่มขืนเด็กสาวกว่า 300 คนทั่วอเมริกาใต้ เขาจะหลอกล่อเด็กสาวในไปยังสถานที่เปลี่ยวหรือสถานที่รกร้างก่อนที่เขาจะลงมือข่มขืนและฆ่าเหยื่อด้วยวิธีการต่าง ๆ อันสุดแสนจะเหี้ยมโหด โดยจะฆ่ารัดคอเหยื่อเป็นลำดับแรก
นายโลเปซถูกจับกุมหลังจากที่เขาพยายามจะลักพาตัว เขายอมรับว่าเขาเองได้ฆ่าคนไปกว่า 300 คน และตำรวจก็เชื่อเขาเมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลัน จนพัดร่างของเหยื่อจำนวนมากขึ้นมากกว่า 53 ราย นายโลเปซถูกสั่งจำคุกในปี 1980 และต้องโทษ 18 ปีก่อนที่จะถูกปล่อยตัวออกมาจากคุกในเอกวาดอร์ และถูกส่งตัวไปที่ประเทศโคลัมเบียซึ่งเขาถูกจับกุมอีกครั้งและถูกคำสั่งประหารชีวิตในปี 2002