ตำรวจรับตัว 4 ผู้ต้องหาปาระเบิดศาลอาญา จากทหารหลังครบกำหนดคุมตัวตามกฎอัยการศึก อีก 6 คน คาดว่าทยอยส่งตัวหลังวันที่ 15 มีนาคม พร้อมระบุทั้งหมดเป็นขบวนการเดียวกับระเบิดหน้าห้างสรรพสินค้าพารากอน
เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2558 เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทหารได้คุมตัว นายมหาหิน ขุนทอง นายยุทธนา เย็นภิญโญ น.ส.ณัฏฐ์พัชร์ อ่อนมิ่ง (ภรรยาของนายมหาหิน) และนางสาวธัชพรรณ ปกครอง (ภรรยาของนายยุทธนา) ซึ่งเป็นผู้ต้องหาชุดแรกที่ถูกควบคุมตัว ส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังคุมตัวครบกำหนด 7 วัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนโดยมี ผบ.ตร. เป็นผู้ควบคุมการสอบสวนด้วยตนเอง
พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับมอบตัวผู้ต้องหาจากทางทหาร หลังจากควบคุมตัวครบ 7 วันตามกฎอัยการศึก เพื่อให้เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาให้ทุกคนได้รับทราบ และสืบสวนต่อไป พร้อมทั้งจะมีการนำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบการรับสารภาพต่อ ทั้งนี้จากการสอบสวนผู้ต้องหามีการรับสารภาพ 3 คน คือนายมหาหิน นายยุทธนา และนางสาวณัฏฐ์พัชร์ ส่วนนางสาวธัชพรรณ ให้การปฏิเสธ ว่าไม่มีส่วนรู้เห็นแต่ทางการสืบสวนทราบว่านางสาวธัชพรรณ ซึ่งเป็นภรรยาของนายยุทธนา และพักอาศัยอยู่ในห้องขณะประชุมวางแผนก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงต้องแจ้งข้อกล่าวหาไว้ก่อน
ส่วนกรณีที่มีการจับกุม นางสุภาพร มิตรอารักษ์ หรือเดียร์ เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมานั้น เป็นการขยายผลจากการจับกุมผู้ต้องหาก่อนหน้านี้ โดยปัจจุบันยังอยู่ในการควบคุมตัวของทหาร และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มทยอยส่งมอบตัวผู้ต้องหาทั้งหมดหลังครบกำหนดควบคุมตัวได้ในวันที่ 15 มีนาคม เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทางการสืบสวนยังทราบอีกว่านางสุภาพร มิตรอารักษ์ หรือเดียร์ นั้นเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุปาระเบิดก่อนหน้านี้อีกหลายแห่ง และยังมีความเชื่อมโยงเครือข่ายเดียวกันกับคนร้ายที่ก่อเหตุวางระเบิดที่หน้าสยามพารากอนอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนครั้งนี้ ผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่าสาเหตุของการเลือกก่อเหตุที่ศาลอาญานั้น เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวเป็นสัญลักษณ์ที่มักจะเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง โดยขณะสอบสวนตนยังบอกกับผู้ต้องหาว่า ตำรวจไม่เคยมีความขัดแย้งกับคุณ แต่เมื่อคุณกระทำผิดกฎหมาย และเราเป็นผู้รักษากฏหมาย ก็ต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายกับคุณ เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ต้องทำตามหน้าที่ เป็นดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนและหลักฐานโดยไม่มีการจัดฉากหรือใส่ร้ายป้ายสีใด ๆ ทั้งสิ้น และหากพบว่าการสอบสวนนั้นพบว่าใครมีส่วนรู้เห็น หรือมีส่วนเกี่ยวข้องตัวการก่อเหตุดังกล่าว ก็จะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยจะยึดหลักความถูกต้องตามพยานหลักฐานโดยไม่มีการกลั่นแกล้งให้ร้ายป้ายสีทั้งสิ้น
ส่วนกรณีที่การก่อเหตุดังกล่าวจะมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่ม นปช. หรือไม่นั้น ตนเองไม่อยากพูดให้ชัดเจนไปอย่างนั้น เนื่องจากเป็นการสร้างความแตกแยก แต่ขอเรียนว่ากลุ่มคนดังกล่าวเป็นผู้ที่เข้าใจผิด จึงต้องการแสดงออกในบางสิ่งบางอย่าง โดยคิดว่าการกระทำเช่นนี้จะทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายในประเทศ มีความไม่มั่นคงเกิดขึ้นเพื่อที่จะให้ต่างชาติ หรือ UN เข้ามาดูแลประเทศไทย และทำให้ประเทศไทยไม่รับความเชื่อถือจากต่างประเทศ
