จัดการ profile
kapook market
Sign Out
ผู้เชี่ยวชาญด้านพืชและสมุนไพร ชี้เหตุสัตว์ป่าที่ชาวบ้านนำมาปรุงอาหารมีรสขม เพราะกินพืชที่มีรสขมเอาชีวิตรอดในฤดูแล้ง
จากกรณีมีการพบสัตว์ป่านานาชนิดจำนวนมากมีรสชาติขมเมื่อนำมาปรุงเป็นอาหารจนไม่สามารถทานได้ ในช่วงฤดูแล้งตั้งแต่เดือนเมษายนถึงมิถุนายนของทุกปี ที่หมู่บ้านโป่งสา อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในขณะที่สัตว์ที่เลี้ยงเอาไว้ในบ้านมีรสชาติปกตินั้น
ล่าสุดวันนี้ (17 มีนาคม 2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมบูรณ์ บุญโรจน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพืชและสมุนไพร กล่าวว่า ในฤดูแล้งสัตว์ป่าหลากหลายชนิดจะมีกลิ่นเฉพาะตัวที่แรงมาก หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ขิ่ว ซึ่งอยู่ที่ว่าสัตว์ป่าแต่ละชนิดไปกินอะไรมาบ้าง กรณีฤดูแล้งสัตว์ป่าจะกินพวกพืชที่มีกลิ่นทุกชนิดเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด หากพื้นที่สูงอากาศหนาวอย่างยอดดอยบ้านโป่งสา ที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เป็นไปได้ว่าลูกของสนสามใบและสนสี่ใบที่ขมอยู่แล้วจะเป็นอาหารหลักของสัตว์ เมื่อกินเข้าไปเป็นจำนวนมากก็อาจจะเพิ่มกลิ่นตัวได้
ขณะที่ นายสมาน ละวันนา อายุ 43 ปี อดีตเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตรพืชที่สูงจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนทำงานในป่ามานานตั้งแต่ พ.ศ. 2529 จึงพอทราบเรื่องที่สัตว์ป่ามีรสชาติขมอยู่บ้าง และนอกจากสัตว์ป่าจะกินสนสามใบ สนสี่ใบแล้ว ยังกินข้าวไร่ เมล็ดเพกาแห้ง ขุยไผ่แห้ง ที่มีรสชาติขม โดยเข้าไปสะสมในร่างกายเป็นเวลานานทำให้มีกลิ่นเหม็นไปทั้งตัว ประกอบกับกลิ่นตัวสัตว์ป่าส่วนใหญ่มีกลิ่นเหม็นรุนแรงอยู่แล้ว ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า การกินอาหารของสัตว์ป่าในช่วงฤดูแล้งทำให้สัตว์ป่ามีรสชาติขม ส่วนกรณีสัตว์ที่เลี้ยงตามบ้านไม่มีกลิ่น เพราะกินอาหารที่คนให้ เช่น ข้าวสุกและอาหารสัตว์ต่าง ๆ จึงไม่มีกลิ่น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
