x close

รวบแล้ว เจ้าหน้าที่สุวรรณภูมิฉกเงินนักท่องเที่ยว สารภาพทำผิดจริง




เริ่มฤกษ์

เริ่มฤกษ์


           แฉภาพเจ้าหน้าที่ตรวจสัมภาระสุวรรณภูมิ แอบหยิบเงินผู้โดยสารขณะเดินผ่านช่องสแกน อ้างกำลังนำเงินที่ผู้โดยสารทำตกเก็บคืนใส่กระเป๋า ล่าสุด ถูกตำรวจจับแล้ว เจ้าตัวสารภาพผิด ยอมรับทำจริง

           เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เฟซบุ๊ก หนูแหม่ม แจ่มสุดา ทอมป์สัน ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความเล่าถึงเรื่องราวขณะกำลังเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา ว่า ระหว่างการเอกซเรย์กระเป๋าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลสัมภาระตรงบริเวณเครื่องเอกซเรย์ แอบหยิบเงินจากกระเป๋าสตางค์ของลูกชายไปต่อหน้าต่อตา ขณะที่ลูกชายของตนเองเดินผ่านช่องสแกน และเมื่อโดนจับได้เจ้าหน้าที่คนนี้กลับอ้างว่า กำลังนำเงินที่ผู้โดยสารทำตกเก็บคืนใส่กระเป๋า

           ทั้งนี้ตนได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.สุวรรณภูมิ และได้ทราบว่าเรื่องราวที่ตนเจอนั้นเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่ไม่มีใครเอาผิดกับมิจฉาชีพพวกนี้ได้ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการขโมยเงินเล็กน้อย ไม่คุ้มที่ผู้โดยสารจะต้องยกเลิกเที่ยวบินเพื่อมาชี้ตัวผู้ต้องหา หรือบางรายรู้ตัวอีกทีเมื่อถึงที่หมายแล้ว

           สำหรับข้อความทั้งหมดระบุไว้ดังนี้

           Be careful with this guy, He was an X-ray machine officer of Suvarnabhumi airport in Thailand. He stole money from my son wallets, Before passing into the X-ray machine. If you go to Thailand watch out for this guy !!!


เริ่มฤกษ์

           ประสบการณ์ การกลับบ้าน ... เมืองไทยของเรา...ประทับใจมากกกก...
มีเรื่องอยากเล่าตั้งแต่ กลับไทย เมื่อคราวปีใหม่ที่ผ่านมา แต่ไม่มีเวลามานั่งหน้าจอเพื่อเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อน ๆ พี่น้อง ฟังซักที เรื่องมันก็มีอยู่ว่า...

           มีเหตุให้สองแม่ลูก ต้องเดินทางออกจากเมืองไทย ไปทำธุระที่สิงคโปร์ สามสี่วัน ด้วย ไฟร์ท TG 413 กรุงเทพฯ-สิงค์โปร์ เวลา 11:30 ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในวันเดินทางออกนอกประเทศ ที่ชั้นบนของอาคารผู้โดยสารขาออก ที่มีเจ้าหน้าที่คอยเอกซเรย์ สัมภาระที่ผู้โดยสารจะต้องนำติดตัวเพื่อขึ้นเครื่องนั้น ได้เกิดเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับเราสองแม่ลูก คือ เจ้าหน้าที่คนหนึ่ง หน้าตา แบบที่ใส่รูปให้ดูนี่ เขาได้แอบหยิบเงินออกจากกระเป๋าเงินของลูกชาย ขณะที่ลูกเดินผ่านช่องที่สแกน แล้วเดินไปรอรับของที่ปลายทาง เมื่อสัมภาระของเขาจะต้องผ่านเครื่องเอกซเรย์

           ด้วยเป็นคนช่างสังเกตและตาไว ฉันเดินตามลูกมาติด ๆ เพื่อที่จะเอาสัมภาระของตัวเองเข้าเครื่องเหมือนกัน ตาก็ดันไปเห็น นายคนนั้น หยิบเงินดอลลาร์สิงคโปร์ ที่เพิ่งแลกมาเพื่อเอาไปใช้ มีอยู่แค่ สองใบให้ลูกติดตัวไว้ เขาหยิบเงินออกจากกระเป๋าสตางค์ไปอย่างรวดเร็วมาก แบบมืออาชีพเลยทีเดียว แต่ไม่พ้นสายตาของฉัน ฉันจึงตะโกนขึ้นถามดัง ๆ ว่า “นั่นคุณกำลังทำอะไร ” เขาขยำและกำเงินในมือแน่น ฉันจึงพูดว่า “แบมือออกมาเดี๋ยวนี้ ” เขาหน้าถอดสี แล้ว พยายามหาทางหลีกเลี่ยง แต่ ฉันก็คาดคั้นให้เขา แบมือออกมาให้ดูจนได้ ในที่สุดดิ้นไม่หลุด จำนน ต่อหลักฐานในมือ เขาก็พูดขึ้นว่า “ผู้โดยสารคนนั้นทำเงินตก ผมกำลังจะหยิบคืนใส่กระเป๋าให้เค้า ” ฉันก็สวนขึ้นไปทันทีว่า “แต่ฉันเห็นคุณหยิบออกไปจากกระเป๋าสตางค์ของลูกชายฉันนะ แก้ตัวไม่ขึ้นหรอก เสียงของฉันดังพอที่ ทุกคนในบริเวณนั้นจะได้ยิน คนตรงนั้นพร้อมเจ้าหน้าที่ต่างก็หยุดดูเหตุการณ์ แต่ไม่เห็นมีใครพูดอะไร ปกติฉันก็เป็นคนพูดเสียงดังฟังชัดอยู่แล้ว นายคนนั้นรีบเดินหนี และเราก็ต้องเดินผ่านออกไปแล้ว เรื่องจึงจบที่ฉันได้เงินคืนแต่มันคาใจ...

           ฉันได้เงินคืนก็จริง แต่มันไม่หายเจ็บใจ ทำไมขี้ขโมยอย่างนี้ เอากันซึ่ง ๆ หน้าอย่างหน้าด้าน ๆ ปล่อยไว้ คงไม่ใช่ สุรัสวดีแน่ ๆ เมื่อออกพ้นประตูไป ฉันจึง ออกไปจากห้องผู้โดยสารขาออก ไปแจ้งความที่ สน.สุวรรณภูมิ แล้วก็ต้องกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง โดยมีเจ้าหน้าที่ของการบินไทย ให้ความสะดวกเพราะกลัวจะกลับไปขึ้นเครื่องบินไม่ทัน ดีที่มาก่อนเวลาเครื่องออกถึงสองชั่วโมง

          ร้อยเวร สารวัตรสอบสวนที่ สน.สุวรรณภูมิ ที่เข้าเวรในวันนั้น คือ ร.ต.ท. ไพศาล วีรกิจพานิช รับแจ้งเหตุ และ ลงบันทึกประจำวันเสร็จ ก็อนุญาตให้ฉันรีบกลับไปขึ้นเครื่องให้ทันเที่ยวบินที่จองไว้ และสัญญาว่าจะรวบรวมหลักฐานและข้อมูล เพื่อจัดการกับแก๊งมิจฉาชีพในคราบเจ้าหน้าที่ของการท่าต่อไป

           เมื่อกลับเข้าไปใหม่ ฉันจงใจที่จะเดินไปเข้าแถว ที่ผู้ชายคนนี้ยืนทำงานอยู่ น่าแปลกใจตรงที่พวกเจ้าหน้าที่ด้วยกัน ตรงนั้น หรือ เจ้านายของพวกเขา ไม่มีใครแสดงอาการอะไรเลย ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีการสอบถามว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือ มีอะไรให้ช่วยไม๊... ไม่มีเลย เหมือนว่า พอเห็นเราสองแม่ลูก กลับเข้ามาอีกครั้ง และ ตั้งใจเดินตรงไปที่ผู้ชายคนนี้อีก เขาก็สะกิดกันให้คนนี้หลบไปทำงานที่ช่องทางอื่น ฉันก็เลยบอกให้ลูกถ่ายรูปเขาไว้ ฉันไม่ปล่อยคนแบบนี้ให้ลอยนวล แน่ ๆ คนพวกนี้ ทำงานกันเป็นกระบวนการ เป็นทีม คือ ขโมยแล้วเอามาแบ่งกันในกลุ่มของคนทำงานตรงนั้นหรือเปล่า ความรู้สึก มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ นะ เค้าเล่นกันเป็นทีมแน่ ๆ ไม่อย่างนั้น จะเดินลอยหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างไร...

           ตอนที่ไปแจ้งความและเล่าเหตุการณ์ให้ตำรวจฟัง ตำรวจก็บอกว่า ทำอะไรไม่ได้หรอกครับส่วนมากผู้โดยสารไม่รู้ตัว แล้วก็ ผ่านไป เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว อย่างกรณีแบบนี้ ถ้าคุณจะเอาเรื่อง เขาถูกจับ คุณก็ต้องกลับมาเพื่อชี้ตัวผู้ต้องหา เงินไม่ได้มากมายอะไร ส่วนมากก็ปล่อยผ่าน เสียเงินค่าตั๋วเครื่องบิน กลับมาขึ้นศาลเพื่อชี้ตัวมันก็ไม่คุ้ม ใครจะทำ คนพวกนี้ก็เลยลอยนวล หากินกันสบายใจ เพราะ ไม่มีเจ้าทุกข์มาเอาเรื่อง..มันเสี่ยง แต่ก็คุ้มใช่ไหมล่ะ

           นี่เราจะทำอย่างไรกับ ปอบ เปรต กระสือ ที่เบียดเบียนคนอื่น ขโมยของคนอื่นอย่างหน้าด้าน ๆ แบบนี้ ไม่ได้เลยเหรอเนี่ย เราทำได้แค่ เอารูปเขามาโพสต์ลงบอกเล่าเรื่องราว เพื่อให้คนอื่นรับรู้ แค่นั้นเองหรือ อย่างว่าแหละ ตีหมา ยังต้องดูเจ้าของ แล้วนี่ มาเฟียสนามบินพวกนี้ ใครจะไปทำอะไรมันได้ นอกจาก ระวังตัว ระวังกระเป๋าเงิน หรือ ทรัพย์สินสิ่งของที่มีค่า ของเราเองให้ดี ไม่อย่างนั้น ทั้ง เปรตขอส่วนบุญ ปอบ กระสือ กระหังแถว สนามบินสุวรรณภูมิ ในประเทศไทยของเรา มันก็ คงสนุกสนาน ลั้ลลา ร่าเริ่ง ทำการ ขโมย ๆๆๆๆ เอาของ ของคนอื่นมาเป็นของตัวเองอย่างหน้าด้าน ๆ ..พอโดนจับได้ ก็แก้ตัว แถไปอย่างน้ำขุ่น ๆ ว่า ผู้โดยสารทำเงินตก เค้าช่วยเก็บเป็นบุญคุณซะอีกนะ....

           กระเป๋าเงิน แบบพับ ของผู้ชาย หนีบเงินเอาไว้ วางไว้เฉย ๆ ในกระบะ เพื่อส่งเข้าเอกซเรย์ มันจะหล่นออกมาเองได้อย่างไร ขนาดเอาออกมาเขย่า ๆ สลัด ๆ ยังไงก็ไม่หล่น ..เมื่อคิดวิธีที่ฉันจะตอบโต้ได้ ก็คือ บอกต่อให้สังคมได้รับรู้ดีกว่า แล้วทุกคนก็จะได้ระวังตัวกันด้วย


           ฉะนั้น ใครที่เดินทางกลับเมืองไทยหรือ ใครที่ต้องออกไปต่างประเทศ โปรดระวัง ปอบตัวนี้ให้ดีนะคะ....มันจะล้วงเงินในกระเป๋าของคุณ ถ้าเก็บไม่ดี หวานมันแหละ

            อย่างไรก็ตาม ล่าสุด (31 มีนาคม 2558) ตำรวจได้จับกุมตัวเจ้าหน้าที่สนามบินสุวรรณภูมิ ที่ก่อความเสียหาย ขโมยเงินผู้โดยสาร คือ นายเริ่มฤกษ์ ทองจัตุ อายุ 26 ปี ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณอาคารผู้โดยสารขาออก โซน 2 ท่า เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 เวลาประมาณ 09.52 น. โดยที่นายเริ่มฤกษ์ รับสารภาพว่า ตนเองได้ลงมือหยิบเงินจากกระเป๋าสตางค์ของผู้โดยสาร 50 เหรียญดอลลาร์ ขณะที่ตรวจสอบสัมภาระผ่านทางเครื่องเอกซเรย์จริง ซึ่งจากนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะไล่นายเริ่มฤกษ์ออกจากงาน พร้อมกับขึ้นบัญชีดำไม่รับกลับเข้ามาทำงาน และห้ามผ่านเข้าออกภายในสนามบินสุวรรณภูมิอีก

เริ่มฤกษ์

            อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ตำรวจจะนำตัวนายเริ่มฤกษ์ ส่งตัวไปดำเนินคดีต่อไป



ภาพจาก เฟซบุ๊ก หนูแหม่ม แจ่มสุดา ทอมป์สัน, ทวิตเตอร์ @Nalinee_PLE




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รวบแล้ว เจ้าหน้าที่สุวรรณภูมิฉกเงินนักท่องเที่ยว สารภาพทำผิดจริง อัปเดตล่าสุด 31 มีนาคม 2558 เวลา 16:43:11 340,476 อ่าน
TOP