
จากกรณีในโลกออนไลน์มีการแชร์ "ภาพ" ของรองสารวัตรจราจรสาวสวยสวมกางเกงทะมัดทะแมง กำลังยืนทำหน้าที่ตรวจแถวจราจรของ สภ.เมืองเพชรบุรี ก่อนออกปฏิบัติงาน ซึ่งตำรวจจราจรสาวคนนี้คือ ร.ต.อ.หญิง กัญญาลักษณ์ เฉียบแหลม หรือผู้กองบี รอง สว.จราจร สภ.เมืองเพชรบุรี ซึ่งผู้กองบีนั้นอาสามาทำงานภาคสนามมากกว่าจะทำงานในห้องแอร์
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2558 ผู้สื่อข่าวกระปุกดอทคอม รายงานว่า มีสมาชิกเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Anny Sae L โพสต์ภาพการตรวจแถวจราจรของผู้กองบี พร้อมกับภาพถ่ายบันทึกข้อความส่วนราชการ 0013 8/163 วันที่ 6 พ.ค. 2558 ส่งถึง ผบ.ตร. เรื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่งกายไม่เหมาะสม โดยผู้ลงชื่อในหนังสือบันทึกข้อความคือ พ.ต.อ. พิศาล ภุมรินทร์ รอง ผบก. ปรท ผบก.กต.7 จต
สำหรับเนื้อหาโดยสรุปของบันทึกข้อความ 3 ข้อดังกล่าว อ้างถึงการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่มีภาพของ ร.ต.อ.หญิง กัญญาลักษณ์ เฉียบแหลม หรือผู้กองบี รอง สว.จราจร สภ.เมืองเพชรบุรี เผยแพร่ออกสู่โซเชียลมีเดียอย่างแพร่หลาย กระทั่งมีเสียงวิจารณ์บางส่วนเกิดขึ้นว่าแต่งกายไม่เหมาะสม ทั้งนี้จึงให้ ภาค 7 สอบข้อมูลมารายงานผู้บังคับบัญชาว่า ตกลงแล้ว ผู้กองบีเป็นตำรวจจริงหรือไม่ สังกัดหน่วยงานใด, การแต่งการเหมาะสมและชอบด้วยระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) หรือไม่, หากพบว่าเป็นตำรวจจริง ให้สอบว่าผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นได้ควบคุม กำกับ ดูแล ให้การปฏิบัติตัวผู้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไปตามระเบียบหรือไม่

"ข้อ 3. หากพบว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม หรือเป็นความผิดทางวินัยให้ดำเนินการพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ ทั้งตัวผู้กระทำผิด และผู้บังคับบัญชา แล้วรายงานผลการดำเนินการให้ทราบภายใน 15 วัน" ข้อความในบันทึกข้อความ ระบุ

พ.ต.ท. สุทัศน์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ผู้กองบี เป็นคนขยันและจริงจังกับงาน และสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ดีไม่แพ้ตำรวจจราจรชาย เพราะอำนาจหน้าที่นั้นเป็นไปตามระบบ ในทางปฏิบัติไม่ว่าผู้บังคับบัญชาจะเป็นหญิงหรือชาย ก็สามารถสั่งการได้ทุกคน โดยปกติผู้กองบีจะสวมกระโปรงมาทำงาน แต่เนื่องจากการสวมกระโปรงทำให้เกิดอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่และดูไม่เหมาะ โดยเฉพาะเมื่อต้องขี่รถจักรยานยนต์ไปตามจุดต่าง ๆ จึงทำให้ผู้บังคับบัญชา สั่งให้ผู้กองบีมาใส่กางเกงแทน เพื่อให้ดูกระฉับกระเฉง ทะมัดทะแมงมากขึ้น แต่ในเรื่องรายละเอียดลึกของเครื่องแบบที่อาจมีจุดต่าง ๆ ยังไม่ตรงทั้งหมดเนื่องจากยังไม่ได้ศึกษา ซึ่งต่อไปก็อาจจะมีการศึกษาข้อมูลและหากพบว่าจุดไหนไม่ถูกต้องก็จะต้องปรับเปลี่ยนต่อไป
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Anny Sae L และ เฟซบุ๊กThailand Police Story
ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก Anny Sae L






