
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำทีม ทหาร-ตำรวจ พร้อมกองกำลังกว่า 1,000 คน ลุยรื้อถอนร้านอาหาร บริเวณริมเขื่อนลำตะคอง หากมีผู้ไม่ยินยอมให้รื้อถอน จำเป็นต้องงัดกฎหมายออกมาบังคับรื้อถอน
วันนี้ (8 พฤษภาคม 2558) นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และนายวินัย วิทยานุกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำทีมทหาร-ตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกว่า 1,000 คน เข้าดำเนินการแก้ไขปัญหาบุกรุกที่ราชพัสดุ ณ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย อำเภอปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่มีเหล่าพ่อค้า-แม่ค้า เข้ามาตั้งร้านประกอบกิจการร้านอาหารบริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง โดยตอนนี้มีผู้ประกอบการที่ยินยอมให้รื้อถอนแล้วจำนวน 16 ราย และผู้ไม่ยินยอมให้รื้อถอนจำนวน 29 ราย
สำหรับการรื้อถอนครั้งนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอปากช่องได้ทำการตัดกระแสวงจรไฟฟ้า เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการร้านค้าเข้าใช้ได้ ทางด้านกองกำลังฝ่ายทหาร-ตำรวจ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่อีโอดี ได้เข้าเคลียร์พื้นที่และเข้าประจำจุดรื้อถอนไว้ก่อนแล้ว ในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา


ขณะที่ นายธงชัย กล่าวว่า การนำเจ้าหน้าที่กองกำลังเข้ารื้อถอนร้านอาหารริมอ่างเก็บน้ำลำตะคองในวันนี้นั้น ขั้นตอนทางกฎหมายได้จบไปแล้ว ผู้ประกอบการทุกร้าน ไม่มีสิทธิ์ที่จะดำเนินกิจการต่อไป เพราะเข้ามาบุกรุกพื้นที่ของทางราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต หากมีผู้ไม่ยอมให้รื้อถอนคงต้องอาศัยอำนาจ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ปี 2552 บังคับใช้ในการรื้อถอน โดยจะรื้อถอนให้เสร็จภายในวันเดียว ทั้งนี้ได้มีการขอกำลังจากกองทัพภาคที่ 2 จำนวน 100 นาย ชุดปราบจลาจลตำรวจภูธรภาค 3 อีก 100 นาย กองร้อยอาสาจำนวน 100 นาย เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น จากผู้ประกอบการที่มีความไม่พอใจ
ด้านนายวินัย กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าอธิบายสาเหตุในการรื้อถอนต่อเหล่าผู้ประกอบการแล้ว ยังคงมีผู้ประกอบการส่วนหนึ่งที่ยังไม่ยินยอมและยังคงเปิดร้านอาหารตามปกติ พร้อมทั้งยังถ่ายคลิปวีดีโอกลุ่มเจ้าหน้าที่เอาไว้ตลอดเวลา ซึ่่งในส่วนนี้ทางราชการจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้กฎหมาย โดยอาศัยอำนาจ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ปี2552 ในการเข้าดำเนินการรื้อถอน สำหรับส่วนร้านค้าที่ยินยอมให้ทำการรื้อถอนนั้นได้ย้ายไปอยู่ที่ริมถนนบายพาส เยื้องสำนักงานขนส่ง อำเภอปากช่อง ซึ่งเป็นพื้นที่ของกรมการสัตว์ทหารบก


โดยหลังจากดำเนินการรื้อถอนเสร็จสิ้น จะนำวัสดุทั้งหมดไปเก็บไว้ที่สถาบันวิจัยวิทยา ศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย เพื่อรอเหล่าผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของมาติดต่อรับกลับไป โดนมีเงื่อนไขว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนให้กับทางราชการด้วย ตามกฎหมายหากไม่มีผู้มาติดต่อรับกลับภายใน 30 วัน ทาง อบต.หนองสาหร่าย ก็จะนำไปขายทอดตลาดและนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน
ทั้งนี้การรื้อถอนดังกล่าว ทำเพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ราชพัสดุบริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคองที่มีมานานไม่จบไม่สิ้น เนื่องจากเมื่อก่อนเหล่าผู้ประกอบการทั้งหลายไม่ยินยอมย้ายออก อีกทั้งยังได้ขยายพื้นที่ปลูกสร้างอาคารไปอย่าต่อเนื่อง จนต้องใช้กฎหมายในการดำเนินการรื้อถอน โดยจากนี้ทางจังหวัดต้องการปรับภูมิทัศน์รอบอ่างลำตะคองให้เป็นสถานที่ ท่องเที่ยว ชมวิว และสร้างสวนหย่อมที่สะอาดสวยงามไว้รับรองผู้ที่มาพักผ่อน
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @Chu_SpringNews , สปริงนิวส์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







