ชูวิทย์ โพสต์เฟซบุ๊ก บอกไม่แปลกใจทำไมคอร์รัปชั่นไม่หมดจากไทย เปรียบคดีโกงจำนำข้าวสมัยยิ่งลักษณ์ ช่างต่างจากคดีโกงสร้างโรงพักสมัยอภิสิทธิ์ ที่หัวหน้ารัฐบาลกลับไม่ถูกชี้มูล
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เปรียบถึงการทำงานของ ป.ป.ช. ในสองคดีที่ดูแล้วมีความแตกต่างกัน
โดยคดีแรกคือโครงการก่อสร้างโรงพัก 396 แห่ง ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นเจ้าของโปรเจคท์ คดีดังกล่าวตนได้ร้องเรียนไปนานหลายปีแล้ว จนกระทั่งไม่กี่วันก่อน จึงมีการแจ้งข้อกล่าวหานายสุเทพว่าปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ส่วนนายอภิสิทธิ์ไม่มีส่วนต้องรับผิดชอบ รอดจากข้อกล่าวหา เพราะความผิดยังสาวไปไม่ถึง
ขณะที่คดีโครงการรับจำนำข้าวสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีความแตกต่างชัดเจน เพราะแม้ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนในการทุจริต แต่มีพฤติกรรม "ส่อ" ว่าจะมีการทุจริต นางสาวยิ่งลักษณ์ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลก็ต้องร่วมรับผิดชอบแล้ว ตนจึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมประเทศไทยถึงแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นไม่ได้เสียที เพราะบางยุคหัวหน้ารัฐบาลไม่ต้องร่วมรับผิดชอบ
ดังข้อความต่อไปนี้
"หลายปีก่อน ผมเป็นผู้นำเรื่องราวความไม่ชอบมาพากลของ "โครงการโรงพัก 396 แห่ง" มาเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ เพราะความพังพินาศของโครงการ เห็นได้อย่างชัดเจนด้วยตาเปล่า
เริ่มต้นเซ็นสัญญาเดินโครงการในสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ นายกฯ ชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ลุงกำนันคนดีของ กปปส. เป็นเจ้าของโปรเจคท์
โครงการก่อสร้างอาคารแค่สองชั้นธรรมดา ๆ เหมือนโรงพักทั่วไป ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน แต่ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 2 รัฐบาลก็ยังไม่แล้วเสร็จ เหลือเป็นซากร้างจนกระทั่งถึงรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นรัฐบาลที่ 3
ผมได้นำเรื่องไปร้องเรียนที่ ป.ป.ช. การสอบสวนใช้เวลานานหลายปี จนไม่กี่วันก่อน คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. ได้แจ้งข้อกล่าวหานายสุเทพ ว่าปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ส่วนนายอภิสิทธิ์ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลในขณะนั้น ไม่มีส่วนต้องรับผิดชอบ รอดจากข้อกล่าวหาหน้าตาเฉย เพราะ ป.ป.ช. บอกว่าเป็น "ความผิดเฉพาะตัว" ยังไม่มีหลักฐานสาวไปถึง
แตกต่างจากคดีทุจริตจำนำข้าว ที่ ป.ป.ช. บอกว่า แม้ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนในการทุจริต แต่มีพฤติกรรม "ส่อ" ว่าจะมีการทุจริต ดังนั้นยิ่งลักษณ์ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลต้องร่วมรับผิดชอบ
สำหรับประเทศไทยแล้ว "คอร์รัปชั่น" แปลความหมายได้แตกต่างกันในแต่ละยุคแต่ละสมัย ผมไม่สงสัยเลยว่า ทำไมประเทศไทยถึงแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นไม่ได้เสียที
บางยุคนายกฯ ต้องร่วมรับผิดชอบกับรัฐมนตรี แต่บางยุคนายกฯ ก็ไม่ต้องร่วมรับผิดชอบกับรัฐมนตรี แม้จะเห็นว่าเหลือแต่ "ซากความอัปยศ" ตำตา
เป็นยังไงล่ะครับ เราสำลักความเท่าเทียมกันพอหรือยัง?"
