ลัทธิบูชาขี้หมา เปิดบ้านพิสูจน์มีศพในบ้านจริงหรือไม่ ยันแขวนถุงปุ๋ยเพราะกันเพื่อนบ้านกลั่นแกล้ง ด้านผู้นำชุมชนถาม หากถูกแกล้งจริงทำไมจึงไม่แจ้งความ
นับเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจอย่างมากในขณะนี้ สำหรับ ลัทธิบูชาขี้หมา หลังจากที่มีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปรายหนึ่งได้โพสต์เหน็บบ้านหลังหนึ่งที่มีการแขวนถุงขี้หมาไว้หน้าบ้าน ส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวลไปทั่วทั้งชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เจ้าของบ้านนำน้ำมารดถุงเหล่านี้ ซึ่งทางเจ้าของบ้านก็ยังไม่ยอมนำถุงขี้หมาไปกำจัดแม้มีชาวบ้านร้องเรียนจนมีคำสั่งจากทางการมา พร้อมโต้แย้งว่าสิ่งที่อยู่ในถุงดังกล่าวไม่ใช่ขี้หมา หากแต่เป็น "เศษพืชผักหมักชีวภาพ" โดยอ้างว่าแขวนไว้เพื่อดับกลิ่นสารเคมีที่มีคนมากลั่นแกล้ง และยังช่วยกันขโมยได้ด้วย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น [อ่านข่าว : เจ้าของบ้านย้ำชัดไม่ใช่ขี้หมา แต่เป็นปุ๋ย เอามาห้อยเพราะถูกแกล้ง-กันขโมย คลิก]
ล่าสุดวานนี้ (5 มิถุนายน 2558) รายการยกทัพข่าวเช้า ทางช่อง PPTV HD36 ก็ได้มีรายงานจากการส่งผู้สื่อข่าวลงภาคสนามไปพูดคุยกับ ป้าดา นางณัฐดาร์ แก้วสากล เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว หลังมีคนบางกลุ่มได้ตั้งข้อสงสัยว่า สาเหตุที่นางณัฐดาร์นำถุงปุ๋ยมาแขวนไว้หน้าบ้านและไม่ยอมกำจัดทิ้ง อาจเป็นเพราะต้องการใช้กลิ่นเหม็นเหล่านี้กลบกลิ่นอะไรที่เหม็นยิ่งกว่าในบ้านอย่างซากศพหรือไม่
โดยนางณัฐดาร์ เปิดเผยว่า หากจะมีซากก็คงจะเป็นซากหนูตายเพราะมาแย่งอาหารสุนัขที่เลี้ยงไว้ ซึ่งนางณัฐดาร์ก็ได้กำจัดซากดังกล่าวไปแล้ว นอกจากนี้นางณัฐดาร์ยังได้เปิดบ้านให้นักข่าวเข้าไปดูถังน้ำหมักจุลินทรีย์ โดยทั้งตอนเข้าและออกจากบ้าน นางณัฐดาร์ก็ต้องมีการคล้องปิดประตูด้วยท่าทีระแวดระวัง อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้พิสูจน์แล้วว่าภายในบ้านนั้นไม่มีกลิ่นซากศพดังที่หลายคนตั้งข้อสงสัยแต่อย่างไร มีเพียงซากรถขึ้นสนิมและขยะที่ทับถมกองใหญ่เท่านั้น
พร้อมกันนี้ นางณัฐดาร์ยังได้อ้างว่า ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นเริ่มมาตั้งแต่ในปี 2537 ที่ข้างบ้านเริ่มย้ายเข้ามาอยู่และติดต่อขอซื้อบ้านของเธอ แต่นางณัฐดาร์ไม่ยอมขายให้ หลังจากนั้นมาจึงถูกกลั่นแกล้ง โดยสาดน้ำกรดและปล่อยสารเคมีใส่จนสุนัขในบ้านตาย จึงต้องนำน้ำมาฉีดใส่ถุงปุ๋ยดังกล่าว
ขณะที่เพื่อนบ้านผู้ถูกพาดพิงกลับให้ข้อมูลว่า เมื่อราว 20 ปีก่อนนั้น คู่สามีภรรยาเจ้าของบ้าน ลัทธิบูชาขี้หมา ชอบมากดกริ่งที่บ้านในเวลา 21.00 น. ทุกวัน และชวนคุยจนถึงดึก จากนั้นพวกเขาเมื่อทนไม่ไหวจึงต่อเติมบ้านปิดทางส่วนที่ติดกับบ้านหลังดังกล่าว นับตั้งแต่นั้นสุนัขในบ้านหลังนั้นก็เพิ่มขึ้น และเริ่มมีการสร้างปัญหามาเรื่อย ๆ โดยที่พวกตนยังถูกขู่ด้วยว่า หากเป็นมิตรด้วยเมื่อไรแล้วจึงจะยอมนำถุงเหล่านั้นออกไป
ทั้งนี้ผู้นำชุมชนมองว่า สำหรับเรื่องที่นางณัฐดาร์อ้างว่าถูกเพื่อนบ้านกลั่นแกล้งนั้น คงจะต้องฟังความจากหลายด้านแล้วดูด้วยว่า เหตุใดจึงถูกกลั่นแกล้งอยู่บ้านเดียว ซึ่งนับเป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่มีใครตอบได้ อย่างไรก็ตามหากถูกกลั่นแกล้งจริง ๆ เชื่อว่าครอบครัวของนางณัฐดาร์เป็นผู้ที่รู้กฎหมายดีอยู่แล้ว ถ้าถูกกลั่นแกล้งจริงเหตุใดจึงไม่นำเรื่องไปแจ้งความ ควรจะรวบรวมหลักฐานแจ้งความไปเลย
world_id:5572a30d4d265aba164a9acc
ภาพจาก คุณ สมาชิกหมายเลข 2388962 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม , รายการยกทัพข่าวเช้า PPTV
