
อานันท์ ปันยารชุน เตือน นายกฯ ช่วยทำให้ประเทศไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริง ย้ำสังคมเริ่มรู้สึกอึดอัด ประเทศดูสงบแค่ผิวเผิน เพราะคนส่วนใหญ่ถูกปิดปาก หากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงไร้อนาคต
วันที่ 17 มิถุนายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในงานมอบรางวัล SVN AWARD ประจำปี 2557 ตอนหนึ่งว่า คงไม่ต้องอธิบายว่าเหตุใดจึงมีการรัฐประหาร สิ่งเดียวที่ต้องการคือในเมื่อยึดมาแล้วก็ต้องทำให้ได้ ช่วยทำให้ประเทศไทยไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริง จะใช้เวลาเท่าไรอันนี้ไม่รู้ ถ้ามีผลงานแล้วอย่างอื่นเป็นเรื่องเล็ก แต่ก็อย่ายืดเวลาให้มากเกินไป
ทั้งนี้รัฐบาลเองต้องระมัดระวังอีกหลายอย่าง เช่น ปัญหาคอร์รัปชั่น เพราะทุกวันนี้ยังไม่มีการแก้ไขอย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้ความน่าเชื่อถือของรัฐบาลลดลงไป ยังไม่รวมถึงการปฏิรูปที่ยังไปไม่ถึงไหน รัฐบาลต้องใช้โอกาสนี้สร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง อาทิ เรื่องการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำ โดยขอบเขตการเปลี่ยนแปลง 3 ประการ ได้แก่
1. ต้องธำรงไว้ซึ่งความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ
2. ต้องทำให้คนทุกกลุ่มได้รับประโยชน์เท่าเทียมกัน ให้เขามีส่วนร่วมทั้งต้นเหตุและปลายเหตุ แต่ต้องให้มาปรึกษาหารือว่าจะทำอะไร และทำเมื่อไร
3. ต้องทำให้สังคมไทยเป็นสังคมที่ปกครองด้วยหลักนิติธรรมหรือ Rule of law ไม่ใช่ปกครองด้วยกฎหมาย หรือ Rule by law เพราะกฎหมายไทยเป็นกฎหมายที่ล้าหลังที่สุดแล้ว
นายอานันท์ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนตัวไม่ค่อยเป็นห่วงเรื่องโรดแม็ป เพราะสามารถยืดหยุ่นได้ แต่รัฐบาลต้องทำให้ประเทศเกิดประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แหกตาเหมือนที่ผ่านมา การเลือกตั้งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของประชาธิปไตย แต่ไม่ใช่องค์ประกอบเดียว เช่น กรณีประธานฟีฟ่าเป็นมา 3 สมัย หลายประเทศอยากจะล้มแต่ล้มไม่ได้ เพราะใช้เงินในการเอาชนะนั่นเอง
อีกทั้งรัฐบาลชุดนี้มีความตั้งใจและความพยายามที่ดี แต่หลายครั้งที่มีมาตรการออกไปทั้งด้านกฎหมายและการเมือง ทำให้คนจำนวนไม่น้อยพูดไม่ได้ และเริ่มรู้สึกอึดอัดอีกแล้ว ตนไม่ได้พูดถึงเรื่องจะเสียของหรือไม่ หรือทำไมยังไม่เกิดความปรองดอง แต่ตนคิดว่าเรายังไม่พยายามค้นหาสาเหตุของความแตกแยกที่แท้จริงต่างหาก
อย่างไรก็ตาม การที่คนส่วนใหญ่ถูกปิดปาก พูดไม่ได้ ชุมนุมไม่ได้ ถือเป็นสังคมปิด เมื่อเป็นสังคมปิดความโปร่งใสก็ไม่มี ธรรมาภิบาลก็หายไป การแสดงความรับผิดชอบก็ไม่มี และองค์ประกอบของประชาธิปไตยก็ไม่มีอีกด้วย ความอึดอัดจึงบังเกิดขึ้น ขณะที่ความสงบในประเทศยังคงสงบต่อไปแต่เป็นเพียงความผิวเผิน ถ้าสังคมสงบอยู่อย่างนี้ต่อไปก็คงไม่มีอนาคต
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
