
แชร์กันอีกรอบ คำสารภาพจากหนุ่มคนนี้ คลิปที่อยากให้ทุกคนได้ดู ความรักของแม่ช่างยิ่งใหญ่ สุดซาบซึ้งจนต้องปาดน้ำตา
พระคุณแม่นั้นยิ่งใหญ่เหลือคณา แม้ลูกจะหลงเดินทางผิดแต่ผู้เป็นบุพการีนั้นพร้อมจะให้อภัยได้เสมอ ดังเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิป "คำสารภาพ ชัยเวศ เสถียรโชติ" คำสารภาพจากชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเคยหลงผิดจนชีวิตต้องแปรผัน จากผู้ที่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนด้วยความฝันอันยิ่งใหญ่ กลับต้องเข้าสู่ช่วงชีวิตที่มืดดำเพราะยาเสพติด แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม "แม่" ...คือผู้ที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างและดูแลเขาเสมอ แม้ในวันที่เขาไม่เหลือใคร
แม้ว่าคลิปดังกล่าวจะได้รับการเผยแพร่สู่โลกออนไลน์มาเนิ่นนานแล้ว แต่ด้วยข้อคิดดี ๆ ที่เราได้รับจากคำสารภาพของหนุ่มรายนี้ ทั้งการสะท้อนให้เห็นโทษของยาเสพติด และความกตัญญูของหนุ่มที่กลับตัวได้รายนี้ ก็ทำให้คลิปดังกล่าวยังคงถูกนำมาแชร์ต่อกันอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน ในวันนี้ (2 กรกฎาคม 2558) เราจึงขอนำเรื่องราวดังกล่าว กลับมาให้ชาวเน็ตได้ร่วมสัมผัสกับความซาบซึ้งกันอีกครั้ง
โดยจากคลิป นายชัยเวศ เสถียรโชติ ตัวแทนคณะนักร้องประสานเสียง ได้ขึ้นมากล่าวบนเวที เปิดเผยประสบการณ์ในอดีตของเขา โดยระบุว่า ชีวิตในวัยเด็กของเขานั้นมีความสุขมาก วัน ๆ ไม่ต้องคิดอะไรนอกจากว่า วันนี้แม่จะทำอะไรให้กิน หรือจะให้เงินไปโรงเรียนเท่าไร สมัยเด็กแม่เคยถามเขาว่า "โตขึ้นลูกของแม่อยากเป็นอะไร" เขาจึงตอบกลับไปว่า "ผมอยากจะเป็นตำรวจ อยากช่วยเหลือสังคม" ซึ่งแม่ก็รับปากว่าจะส่งให้เขาได้เรียนหนังสือสูง ๆ
กระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงปี 2538 นายชัยเวศได้เล่าเรียนมาถึงระดับอนุปริญญา ในตอนนั้นเขามีเพื่อนเยอะมาก แต่ก็ไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าเพื่อนคนไหนบ้างที่จริงใจกับเขา เขารู้เพียงอย่างเดียวว่านั่นเป็นปีสุดท้าย เขาจะต้องเรียนให้จบ ได้เกรดเฉลี่ยสูง ๆ เพื่อทำให้แม่ภูมิใจ
อย่างไรก็ตามในปีเดียวกันนั้นเอง แม่ของเขาได้เกิดล้มป่วย เมื่อเขาพาแม่ไปหาหมอก็ได้ทราบว่าแม่เป็นโรคหัวใจ แม่ไม่สามารถทำงานได้อีก แม้แต่จะเดินขึ้นสะพานลอยก็ยังรู้สึกเหนื่อย ในตอนนั้นเขาสับสนมากเพราะทั้งอยากเรียนให้จบ และทั้งสงสารแม่ จนในที่สุดเพื่อนที่เคยคบหาและเรียนมาด้วยกันก็แนะนำว่า ตัวเองมียาอยู่ชนิดหนึ่ง หากได้ลองใช้แล้วจะทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้น เรียนเก่งขึ้น มีร่างกายที่แข็งแรง ทำให้เขาหลงเชื่อและลองใช้ยาชนิดนั้นดู
"แรก ๆ ก็ใช้น้อย แต่ความต้องการยามีมากขึ้น งานการที่เคยช่วยแม่ ปล่อย ไม่สนใจ กลับถึงบ้านก็หมกตัวอยู่แต่ในห้อง คิดอยู่แต่ว่าจะหาเงินจากที่ไหนไปซื้อยามาเสพ ในที่สุด แม่ก็จับได้ว่าผมติดยาเสพติด" นายชัยเวศ กล่าว
ตอนนั้นเขายอมรับว่ารู้สึกกลัวมาก ทั้งกลัวว่าแม่จะไล่ออกจากบ้าน หรือจะไม่ให้เรียนต่อแล้ว แต่แม่ไม่เคยพูดคำเหล่านั้นเลย "แม่นั่งร้องไห้ เรียกผมเข้าไปหา ถามผมว่า ลูกติดมานานแล้วหรือยัง เลิกได้ไหม ไหนลูกเคยสัญญากับแม่ว่าลูกอยากเป็นตำรวจ ผมรับปากแม่ว่าผมจะเลิก แต่คำพูดของผม ผมไม่เคยได้ปฏิบัติตาม" กลับกันเขาเสพยาหนักขึ้นกว่าเก่า หากวันใดแม่ไม่อยู่เขาก็จะกลับเข้าบ้านไปขโมยเครื่องใช้ไฟฟ้าที่บ้านมาขาย แล้วบอกว่าพี่เอาไป ทำให้ในบ้านมีแต่เรื่อง
แต่ในที่สุด วันที่ 19 มิถุนายน 2538 ก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่เขาไม่เคยลืมเลือน และจะไม่ขอลืม วันนั้นเป็นวันเสาร์ เขาขอเงินแม่เป็นจำนวน 200 บาทโดยอ้างว่าจะนำไปซื้ออุปกรณ์จัดการเรียนเพิ่ม แม่บอกว่าพรุ่งนี้ได้ไหมลูก พรุ่งนี้วันอาทิตย์ ลูกไม่ได้ไปโรงเรียนไม่ใช่หรือ เดี๋ยวแม่จะหาให้ นี่แม่เหลือแค่ 300 และต้องไปหาหมอ
"ผมไม่ฟังคำพูดของแม่ เข้าไปแย่งเงินจากแม่ ผลักแม่ผมล้มลงเข้าไปแย่งเงิน เอาเงิน 200 บาทไปซื้อยามาเสพกับเพื่อนอย่างมีความสุข แต่เวรกรรมมีจริง วันนั้นตอนเย็นผมกลับถึงบ้าน มีผู้ชาย 2 คน เดินเข้ามาหาผม เขาจับผมเอาหน้าคว่ำกับพื้น เอาเท้าเหยียบที่หลังผม ใส่กุญแจมือ พาผมไปที่โรงพัก ตั้งข้อหาผมว่ามียาเสพติดไว้ในครอบครอง ระหว่างที่อยู่ที่โรงพัก ผมคิดเสมอว่าเดี๋ยวเพื่อนต้องมาเยี่ยมผม เพื่อนต้องไม่ทิ้ง แต่ความคิดของผมผิด"
คนที่โผล่มาเยี่ยมเขาในตอนนั้นก็คือน้อง น้องบอกกับเขาว่าแม่คงไม่มาเยี่ยมแล้ว เพราะเขาทำแม่แขนหัก เขายอมรับว่าตอนนั้นเขารู้สึกอยากตาย แต่แล้วในวันเดียวกันนั้น เวลา 22.00 น. แม่ก็เดินเข้ามาหาเขา ในสภาพแขนข้างหนึ่งเข้าเฝือก และอีกข้างหนึ่งหิ้วข้าวมันไก่กับน้ำอัดลม

"คำพูดแรกที่แกพูดกับผม แกถามว่า ลูก หิวข้าวไหม ไม่ต้องกลัว แม่ซื้อข้าวมันไก่กับน้ำเป๊ปซี่ที่ลูกชอบมาฝาก แม่จะหาทางช่วยลูก แม่ไม่ทิ้งลูก คืนนั้นแม่ทำทุกอย่างที่จะช่วยผม แม้กระทั่งก้มกราบตำรวจแม่ก็ทำ แต่ในที่สุด..."

ชายหนุ่มคนดังกล่าวยังไม่ทันพูดจบความ แม่ของเขาก็เดินเข้ามากอดทั้งน้ำตา บอกลูกว่าไม่ต้องพูดอีกแล้ว และในขณะที่ผู้ชมต่างปรบมือด้วยความซาบซึ้งและให้กำลังใจชายหนุ่มนั้นเอง นายชัยเวศก็ทรุดตัวลง ก้มกราบแทบเท้าบุพการีทั้งน้ำตา จนเกิดเป็นภาพที่ชวนซาบซึ้งและประทับใจที่ติดตราตรึงใจผู้ที่ได้ชมภาพเหตุการณ์ดังกล่าวไปอีกแสนนาน


world_id:5594e0264d265a004b8b4572
ภาพจาก เฟซบุ๊ก You Like - คลิปเด็ด