บุกตรวจค้นคลินิกศัลยกรรมใบหน้าเสริมความงามเถื่อน ย่านวังทองหลาง หลังถูกชาวบ้านร้องเรียน-มิสทิฟฟานี่จมูกเน่า พบไม่มีใบประกอบวิชาชีพ
วันที่ 6 กรกฎาคม 2558 เวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ. ไพฑูรย์ คุ้มสระพรหม รองผบก.ปคบ. พร้อมด้วย นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รองอธิบดี กรมสนับสนุนบริการสุขภาพและกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 52/115 หมู่บ้านกลางเมือง ซอยประชาอุทิศ แขวงและเขตวังทองหลาง หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีการลักลอบเปิดเป็นสถานเสริมความงามโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ผู้มาใช้บริการหน้าพัง
จากการตรวจสอบพบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น บริเวณชั้นล่างเป็นที่รักษาและตรวจดูอาการผู้ที่มารักษา พบอุปกรณ์การแพทย์ ยาชนิดต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ส่วนชั้น 2 เป็นที่พัก และชั้น 3 เป็นห้องพักฟื้นผู้ที่มารักษาเกี่ยวกับการเสริมความงาม
ทั้งนี้นายสุทัศน์ ปิดตาฝ้าย อายุ 51 ปี เจ้าของสถานเสริมความงามให้การว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพเป็นผู้ช่วยพยาบาลอยู่โรงพยาบาลทหารเรือและไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา 4 ปี ด้านความงาม เพราะชื่นชอบการศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า เมื่อเรียนจบมาก็มาอาศัยบ้านเพื่อนเปิดเป็นคลินิกเสริมความงาม ซึ่งลูกค้าที่มาใช้บริการจะมีทั้งแดนเซอร์, พริตตี้, และพวกที่ใบหน้าเสียโฉมมาให้รักษา โดยราคามีตั้งแต่หลักพัน ถึงหลักหมื่น และยอมรับว่าผิดที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเกี่ยวกับเวชกรรม
ขณะเดียวกัน นายกฤตภัค วณิชาวงศ์ อายุ 28 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี อดีตผู้ประกวดชนะเลิศ รางวัลที่ 3 มิสทิฟฟานี่ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายได้เดินทางมาที่เกิดเหตุและเปิดเผยว่า หลังได้รับตำแหน่งตนได้Gift Voucher จำนวนเงิน 50,000 บาท ซึ่งเป็นรางวัลที่มาทำศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าเสริมความงามที่คลินิกดังกล่าว จึงตั้งใจมาฉีดให้ใบหน้าอิ่มขึ้นแต่หมอบอกให้เหลาจมูกดีกว่า ตนจึงตัดสินใจทำ แต่หลังจากนั้น 4 วันก็มีอาการบวมแดงบริเวณจมูกและมีน้ำหนองไหลออกมาจากแผล จึงเดินทางมาพบหมออีกครั้ง ซึ่งได้นัดเอาซิลิโคนออกวันที่ 25 กรกฎาคม เนื่องจากซิลิโคนของตนไปทำปฏิกิริยากับยาที่ฉีดไป ทำให้เกิดอาการบวม และเป็นหนอง ตนจึงไปร้องเรียนกับทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
ด้าน นพ.ธเรศ เปิดเผยว่า สถานเสริมความงามดังกล่าวเปิดบริการไม่ถูกหลักอนามัย อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้จากการเก็บเครื่องมือการแพทย์ เช่น เข็มฉีดยาที่ใช้แล้วกลับมาใช้อีกครั้ง ส่วนยาชนิดต่าง ๆ ที่ยึดมาได้ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่มาของยาว่ามาจากแหล่งใด
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ยึดยาชนิดต่าง ๆ และอุปกรณ์ในการเสริมความงามไว้แล้ว พร้อมกับแจ้งข้อหาประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต, การเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต และขายยาโดยไม่ได้ขึ้นตำรับทะเบียนยา
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @TNAMCOT
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
