ประกาศใช้มาตรา 44 คุมเด็กแว้น หากทำผิดซ้ำ-ผู้ปกครองโดนคุก !


ประกาศใช้มาตรา 44 คุมเด็กแว้น

ประกาศใช้มาตรา 44 คุมเด็กแว้น
 
           เปิดบัญญัติ 10 ข้อ หลังประกาศใช้ มาตรา 44 ปราบเด็กแว้น แค่รวมตัวเจ้าหน้าที่ยึดรถไว้ก่อนได้ทันที และหากเด็กผิดซ้ำ ผู้ปกครองต้องรับโทษด้วย จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท 
 
          วันที่ 24 กรกฎาคม 2558 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 22/2558 เรื่องมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทาง และการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ

ประกาศใช้มาตรา 44 คุมเด็กแว้น หากทำผิดซ้ำ-ผู้ปกครองโดนคุก !
 
          โดยมีคำสั่งทั้งหมด 10 ข้อ เป็นหลักการโดยทั่วไป หลังจากเกิดปัญหาตั้งแต่การแข่งรถบนถนน จำเป็นต้องกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันภัยสังคมและยับยั้งการรวมกลุ่มหรือมั่วสุมให้เกิดความเสียหายกับผู้อื่น รวมถึงสร้างจิตสำนึกรับผิดชอบแก่เด็กและเยาวชน ผู้ปกครอง ผู้ที่เกี่ยวข้อง และสังคมทุกภาคส่วน ให้ตระหนักถึงความปลอดภัย การคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนรวมถึงยับยั้งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี

สำหรับมาตรการทั้ง 10 ข้อ มีดังนี้

          ข้อ 1. ห้ามรวมกลุ่มหรือมั่วสุมในลักษณะที่น่าจะนำไปสู่การแข่งรถในทางอันเป็นความผิดซึ่งต้องรับโทษตามกฎหมาย หากมีให้เจ้าหน้าที่เข้าระงับยับยั้งตามที่เห็นสมควร เช่น การนำรถที่สงสัยว่าจะใช้แข่งขันมาเก็บรักษาไว้ชั่วคราวจนกว่าพฤติกรรมดังกล่าวจะสิ้นสุดลง
 
          ข้อ 2. พ่อแม่ผู้ปกครองต้องยับยั้ง พฤติกรรมที่ไม่ดี ไม่สนับสนุนหรือปล่อยปละละเลยให้เยาวชนรวมกลุ่มหรือมั่วสุมเพื่อการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ หากมีการกระทำผิดให้ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของพ่อแม่ผู้ปกครองด้วย นอกจากนี้ยังให้แจ้งการกระทำของเด็กในปกครองให้ผู้ปกครองทราบ เพื่อป้องกันตักเตือน หรืออาจให้วางประกันตามสมควรแต่ไม่เกิน 2 ปี และหากมีการกระทำผิดซ้ำอีก ให้ผู้ปกครองต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับและให้ริบเงินประกันเป็นของกองทุนคุ้มครองเด็ก
 

         ข้อ 3. ผู้ใดผลิตครอบครอง จำหน่าย ประกอบ ดัดแปลง หรือเปลี่ยนแปลงสภาพรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ หากการกระทำเชื่อได้ว่าเป็นการยุยง ส่งเสริมให้กระทำผิดตามคำสั่งนี้ ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำในลักษณะเป็นการส่งเสริมหรือสนับสนุน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากเป็นผู้ประกอบการที่เข้าข่ายกรณีดังกล่าวให้สั่งผิดหรือเพิกถอนใบอนุญาตทันที
 
          ข้อ 4. ห้ามมิให้ผู้ประกอบกิจการสถานบริการหรือสถานประกอบการใดที่เปิดให้บริการ ในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ กระทําการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้

          1. ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์เข้าไปใช้บริการ
          2. ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
          3. เปิดทำการเกินกว่าเวลาตามที่มีกฎหมายบัญญัติ
          4. ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาที่กำหนดตามที่กฎหมายบัญญัติ
          5. ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการพกพาอาวุธ วัตถุระเบิด หรือยาเสพติดเข้าไป
ในสถานที่ของตน

 
           ข้อ 5. ในกรณีที่สถานบริการหรือสถานประกอบการใดที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญทางเสียงแก่ผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง ให้เจ้าพนักงานสาธารณสุขสามารถสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองสถานที่ดังกล่าว ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเหตุเดือดร้อนรำคาญทางเสียงให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และในระหว่างระยะเวลาดังกล่าวให้หยุดการใช้เสียงที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ หากครบกำหนดแล้วเจ้าของหรือผู้ครอบครองสถานที่ดังกล่าว ยังไม่ได้ปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมาย ให้นำความในวรรคสองของข้อ 4 มาใช้บังคับ โดยอนุโลม

           ข้อ 6. ห้ามมิให้มีสถานที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา หรือหอพักในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา หากพบว่ามีผู้ฝ่าฝืน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานของรัฐ ดำเนินตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดและเคร่งครัด รวมทั้งให้มีอำนาจในการสั่งปิดสถานที่ดังกล่าวทันที รวมถึงสถานบริการหรือสถานประกอบการใดที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกันด้วย

           ข้อ 7. ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับ การแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางและการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการ ในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐมีการเพิกเฉยหรือละเลยไม่กระทำการหรือปล่อยปละละเลย ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางแพ่ง ทางอาญา และทางปกครองกับเจ้าหน้าที่ผู้นั้นอย่างเฉียบขาดและรวดเร็ว ส่วนในกรณีที่หัวหน้าส่วนราชการหรือผู้บังคับบัญชาปล่อยปละละเลย ไม่ดําเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้นํามาตรการที่กำหนดไว้ในคำสั่ง คสช. ที่ 69/2557 เรื่อง มาตรการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2557 มาใช้บังคับ

          ข้อ 8. ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการกระทำทางปกครอง หรือกระบวนการยุติธรรม ดำเนินการหรือดำเนินคดีกับความผิดที่เกี่ยวกับการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ในทางและการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ตามที่มีกฎหมายบัญญัติความผิดไว้หรือตามคำสั่งนี้

          ข้อ 9. ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวกับการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ในทางและการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ กวดขันและเร่งรัดจัดทำมาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เป็นรูปธรรม เพื่อเป็นการจัดระเบียบ และลดปัญหาสังคมโดยเร่งด่วน

          ข้อ 10. คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป



ภาพจาก ratchakitcha.soc.go.th ,รายการ เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ประกาศใช้มาตรา 44 คุมเด็กแว้น หากทำผิดซ้ำ-ผู้ปกครองโดนคุก ! อัปเดตล่าสุด 24 กรกฎาคม 2558 เวลา 15:06:25 45,883 อ่าน
TOP
x close