เจ้าหน้าที่เร่งคลี่ปมตำรวจเมืองน่าน ยิงตัวเอง-ลูกแฝด-เมีย ดับยกครัว เตรียมเรียกญาติสอบปากคำเพิ่ม ด้านเพื่อนตำรวจ พยาบาล แห่ไว้อาลัย
จากกรณี จ.ส.ต. สิทธิศักดิ์ วังสาร อายุ 40 ปี เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 สังกัดตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ลงมือฆ่าภรรยาคือ นางกาญจนา วังสาร อายุ 37 ปี พยาบาลตึกพิทักษ์ไทยล่าง โรงพยาบาลน่าน และลูกชายฝาแฝดวัย 7 ขวบ ก่อนยิงตัวตายตามยกครัวรวม 4 ศพ ภายในบ้านพัก เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2558 ตามที่มีการเสนอข่าวไปนั้น [อ่านข่าว : สลด ! ตำรวจเมืองน่าน ยิงตัวเอง-ลูก-เมีย ดับยกครัว ไม่ทราบสาเหตุ]
ล่าสุด วันที่ 24 สิงหาคม 2558 ร.ต.ท. อนุพันธ์ สอนศิริ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้ง 4 ตัว บริเวณรอบบ้านของผู้ตาย ตามวันเวลาที่เกิดเหตุไม่พบว่ามีคนร้าย หรือบุคคลใดเข้ามาที่บ้านแต่อย่างใด ประกอบกับที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการต่อสู้ จึงสันนิษฐานว่าร่องรอยทิศทางกระสุนปืนออกมาจากทาง จ.ส.ต. สิทธิศักดิ์ เป็นผู้ยิง ส่วนสาเหตุที่ทำให้ จ.ส.ต. สิทธิศักดิ์ ลั่นไกครั้งนี้ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามาจากความกดดันเรื่องใด แต่ได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า อาจมาจากความเครียด ทั้งจากเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัว เนื่องจากเพื่อนตำรวจที่สนิทกับ จ.ส.ต. สิทธิศักดิ์ ให้การว่า จ.ส.ต. สิทธิศักดิ์ มักมีปากเสียงกับภรรยาอยู่บ่อยครั้ง เรื่องที่ภรรยาไม่มีเวลาให้ครอบครัว เพราะภรรยาของ จ.ส.ต. สิทธิศักดิ์ มักต้องเข้าเวรกลางคืนที่โรงพยาบาล ซึ่งเรื่องนี้ อาจทำให้ จ.ส.ต. สิทธิศักดิ์ เกิดอาการระแวงและหึงหวงได้
อย่างไรก็ดี หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกตัวญาติ เพื่อนบ้านใกล้เคียง และผู้ใกล้ชิดของผู้เสียชีวิตเข้ามาให้ปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาข้อสรุปในคดี รวมทั้งจะเร่งตรวจสอบปัญหาภาระหนี้สินว่า ผู้เสียชีวิตมีภาระหนี้สินหรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีแหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า จ.ส.ต. สิทธิศักดิ์ อาจเกิดความเครียด เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีคณะจากสำนักงานตรวจสอบภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เข้าตรวจสอบโครงการและการเงินของตำรวจภูธรจังหวัดน่าน โดยหนึ่งในโครงการที่ตรวจสอบละเอียดมีโครงการที่ จ.ส.ต. สิทธิศักดิ์ รับผิดชอบด้วย ซึ่งโครงการดังกล่าวใช้งบประมาณถึง 13 ล้านบาท
ด้านนายส่งและนางพัชรี บิดาและมารดาของ จ.ส.ต. สิทธิศักดิ์ กล่าวว่า ลูกชายเป็นคนอารมณ์ดีและรักครอบครัวมาก ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเล่าเรื่องปัญหาทุกข์ใจอะไรให้ฟัง โดยเฉพาะเรื่องหนี้สินไม่มีแน่นอน ยังคงส่งเงินให้พ่อแม่ใช้เป็นประจำ จึงทำให้ยังสงสัยว่าเหตุใดลูกชายตัดสินใจฆ่าลูกเมีย
ขณะที่ พ.ต.อ. ธรรมศักดิ์ ปิ่นทอง รอง ผบก.ภ.จว.น่าน เปิดเผยผลชันสูตรศพทั้ง 4 คน ว่า เบื้องต้นไม่พบสารพิษในร่างกายจึงทำให้สรุปได้ว่า ไม่มีการวางยาพิษก่อนลงมือยิงตามที่ตั้งข้อสงสัยจากสภาพศพ ส่วนสาเหตุในการลงมือครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ เกิดความเครียดจากเรื่องงาน และปัญหาส่วนตัว ซึ่งหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งรวบรวมหลักฐานทั้งในที่เกิดเหตุและพยานแวดล้อม เพื่อให้ได้ข้อสรุปของคดีโดยเร็วที่สุด
สำหรับบรรยากาศพิธีบำเพ็ญกุศล ซึ่งถูกจัดขึ้นที่วัดท่าล้อนั้น พบว่ามีเพื่อนตำรวจ และพยาบาลของผู้เสียชีวิต เดินทางมาร่วมไว้อาลัยกันแน่นวัด อย่างไรก็ดี ทางญาติจะตั้งบำเพ็ญกุศลไปจนถึงวันที่ 26 สิงหาคมนี้ ก่อนนำไปฌาปนกิจที่ลอมเชียงของ ต.ผาสิงห์ อ.เมือง จ.น่าน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก RKU News
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
