
เผยเรื่องราวชีวิต หมอขวัญ สัตวแพทย์หญิงใจแกร่ง รับหน้าที่ดูแลรักษาช้างกว่า 900 เชือกในจังหวัดภาคใต้เพียงคนเดียว กับภารกิจเดินทางตรวจสุขภาพช้าง ที่มีเพียงอุดมการณ์และความรักช้างเป็นหลักในการทำงาน

หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้นิยมใช้ช้างในอุตสาหกรรมการลากไม้และธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก บางครั้งส่งผลให้ช้างต้องประสบปัญหาเรื่องสุขภาพ แต่ขณะเดียวกันกลับมีทีมสัตวแพทย์ที่คอยดูแลช้างไม่เพียงพอ ทำให้ หมอขวัญ หรือ สพ.ญ.ณัฏฐา มณีวรรณ วัย 30 ปี สัตวแพทย์หญิงจากโรงพยาบาลช้าง สาขาภาคใต้ จ.กระบี่ สถาบันคชชาติในพระอุปถัมภ์ โครงการอุตสาหกรรมป่าไม้ ต้องรับหน้าที่คอยตระเวนดูช้างหลายร้อยเชือก ครอบคลุมทั้ง 14 จังหวัดในภาคใต้เพียงคนเดียว ซึ่งเป็นงานหนักสำหรับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง
ทางรายการชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ตอน ขวัญใจช้าง เทปออกอากาศวันที่ 25 สิงหาคม 2558 ทางช่องไทยพีบีเอส จะพาทุกคนไปตามติดชีวิตของ หมอขวัญ สัตวแพทย์หญิงที่จะอุทิศชีวิตเพื่อช้าง ไปพร้อม ๆ กัน

หมอขวัญ เป็น 1 ใน 2 ผู้บุกเบิกการทำงานของโรงพยาบาลช้างสาขาภาคใต้ ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2553 บนพื้นที่อนุรักษ์ของสวนป่าคลองท่อม อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เพื่อรองรับบริการการดูแลสุขภาพช้างเลี้ยงในภาคใต้ โดยพยาบาลช้างป่วยโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยโรงพยาบาลแห่งนี้มีผู้ดูแลเพียงคนเดียวคือ หมอขวัญ
ช่วงแรกในปี 2553 ก็มีสัตวแพทย์มาช่วยที่โรงพยาบาล 2 ท่าน คือตนเองและนายแพทย์อีกท่านหนึ่ง แต่เมื่อเปิดโรงพยาบาลได้ 2 ปี นายแพทย์อีกท่านก็ย้ายไปที่ลำปาง โดยนอกจากการดูแลรักษาช้างแล้ว หน้าที่นอกเหนือจากนั้นก็คือการดูแลฐานข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับช้าง ไม่ว่าจะเป็นการลงข้อมูลดิบและข้อมูลในระบบออนไลน์เพื่อทำประวัติสุขภาพช้างที่เคยรักษารวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องยาและเวชภัณฑ์ โดยงานทุกอย่างก็ต้องทำเองเตรียมเองเพราะเราเป็นคนรักษา ก็จะรู้ว่าอะไรที่จำเป็นหรือไม่จำเป็น มีความเหมาะสมในการรักษามากน้อยแค่ไหนค่ะ หมอขวัญกล่าว

สำหรับความรู้ความสามารถตลอดการทำงานกว่า 5 ปีของหมอขวัญทำให้หมอขวัญทำงานได้อย่างคล่องแคล่ว และเพศก็ไม่ใช่ปัญหาในการทำงานเพราะเมื่อมีการแจ้งว่ามีช้างป่วย หมอขวัญจะเป็นหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เร็วในการเดินทางไปรักษาในพื้นที่แม้จะต้องเจอกับอุปสรรคที่ถูกสร้างขึ้นโดยธรรมชาติ
หากบางครั้งที่เราไม่สามารถเข้าไปรักษาได้จริง ๆ ก็ต้องประสานกับปศุสัตว์ในพื้นที่ให้ไปช่วยดูแลรักษาพยาบาลเบื้องต้นก่อนและตนเองจะตามไปทีหลัง หรือบางกรณีอาจจะต้องพาไปรักษาที่โรงพยาบาลก็ต้องมีการแจ้งไปที่เจ้าของ หรือสอบถามอาการของช้างว่ามีอาการหนักมากน้อยแค่ไหน
นายสมพร ประเสริฐ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.กระเบียด อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตอนแรกรู้ว่าหมอเป็นผู้หญิงก็คิดว่าจะไหวไหม แต่พอเห็นหมอขวัญทำงานก็รู้ว่าเก่ง ถึงไหนถึงกัน หมอไม่เคยท้อ ทำงานได้เหมือนหมอผู้ชายเลย

หมอขวัญเล่าว่า ช้างที่ทำงานในภาคใต้มีอยู่ 2 ประเภทคือ ช้างทำงานลากไม้และช้างที่ทำงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยว โดยจำนวนช้างเลี้ยงทั่วประเทศมีประมาณ 4 พันเชือก และช้างเลี้ยงที่อยู่ในภาคใต้มีประมาณ 900 เชือก แต่ปริมาณสัตวแพทย์ที่ดูแลช้างทั่วประเทศมีประมาณ 10 คน ทำให้สัดส่วนการดูแลช้างไม่ทั่วถึง และเคยมีรุ่นพี่ของตนเองพูดว่า ไม่รู้ว่าช้างหรือหมอที่ดูแลช้างจะสูญพันธุ์ก่อนกัน เพราะมีข้อจำกัดหลาย ๆ ด้านที่จะหาบุคลากรมาทำงานในด้านนี้ด้วย เพราะเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนและความเสียสละค่อนข้างเยอะ
ทั้งนี้เนื่องจากทีมสัตวแพทย์ในพื้นที่ยังขาดแคลน ทำให้หมอขวัญแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการชักชวนหลาย ๆ ฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม โดยเฉพาะแนวคิดการดูแลช้างร่วมกับเจ้าของช้าง และเครือข่ายคนเลี้ยงช้างในพื้นที่ ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน ดำเนินการโดยการเชิญควาญช้างทั่วจังหวัดในภาคใต้มาเรียนรู้วิธีการเลี้ยงช้างที่ถูกต้อง เหมาะสม รวมถึงการปฐมพยาบาลช้างเบื้องต้น ในกรณีที่ดูแลช้างก่อนหมอเข้ารักษาช้างหรือกรณีที่ช้างเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ หมอขวัญกล่าว

หลายปีที่ผ่านมาหมอขวัญต้องเดินทางแทบไม่ได้หยุดพักในโครงการตรวจสุขภาพช้างประจำปี เพื่อดูแลสุขภาพช้างรวมถึงการทำประวัติช้างและการเคลื่อนย้ายช้าง โดยเริ่มจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง จ.สงขลา แล้วย้อนกลับขึ้นมาที่ จ.สตูล จ.ตรัง จ.กระบี่ จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต โดยในแต่ละจังหวัดจะมีสถานที่ที่ใช้นัดหมายเพื่อให้เจ้าของช้างนำช้างมาตรวจสุขภาพ โดยจะทำการเก็บข้อมูล เก็บเลือดช้างเพื่อตรวจดีเอ็นเอเพื่อเก็บประวัติช้างที่ยังไม่มีข้อมูล รวมทั้งฝังไมโครชิพเพื่อยืนยันการมีตัวตนของช้างและตรวจรักษาอาการช้างที่มีปัญหาสุขภาพตามอาการ ซึ่งไม่ใช่งานที่ง่ายเลย
ในแต่ละวันหมอขวัญต้องวางแผนการทำงานอย่างรัดกุมที่สุด เพราะต้องเดินทางเข้าออกในหลายพื้นที่ ซึ่งแต่ละพื้นที่มีปัญหาที่พบแตกต่างกัน เช่น ปัญหาในการเก็บตัวอย่างเลือดของช้าง คือเจอช้างที่ไม่ยอมให้เก็บเลือดเพราะกลัวคน และไม่สามารถบังคับช้างได้เนื่องจากช้างตัวใหญ่อาจเป็นอันตรายได้ โดยหลังจากทำภารกิจเสร็จจะมีชาวบ้านนำอาหารมาเลี้ยงเพื่อตอบแทนน้ำใจ

ขณะที่ปัจจุบันมีการซื้อขายช้างอย่างแพร่หลายและช้างแต่ละเชือกมีมูลค่ามาก ทำให้ช้างทุกเชือกต้องจดทะเบียนตาม พ.ร.บ. สัตว์พาหนะ 2482 โดยการออกตั๋วรูปพรรณช้างเพื่อป้องกันการกระทำทุจริต เมื่อก่อนจะมีตั๋วแบบเก่าที่ข้อมูลเลือนรางแล้ว บ้างก็มีการเก็บรักษาไม่ดีฉีกขาดไปบ้าง ทำให้เกิดความลำบากในการนำช้างไปทำธุรกรรม จึงมีการพัฒนาให้มีตั๋วแบบใหม่ที่สามารถเก็บข้อมูลได้เป็นระเบียบมากขึ้น และเมื่อช้างมีราคาแพงผู้คนก็จะเอาช้างป่ามาสวมรอยเป็นช้างเลี้ยง เพื่อเอามาซื้อขาย ซึ่งหากเป็นตั๋วแบบเก่าจะสวมรอยได้ง่ายมาก แต่เมื่อเป็นตั๋วแบบใหม่ข้อมูลก็จะมากขึ้น ส่งผลให้ทำปลอมขึ้นมายากขึ้นไปด้วย หมอขวัญกล่าว
หลังจากเก็บตัวอย่างเลือดของช้างแล้ว หมอขวัญจะนำตัวอย่างเลือดมาส่งให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช ที่มีความพร้อมมากกว่าในการวินิจฉัยโรค เพื่อนำผลที่ได้ไปประเมินสุขภาพของช้างรวมทั้งในกรณีที่ต้องการตรวจหาปรสิตในเลือดของช้าง

นอกจากนี้ หมอขวัญ เผยว่า นอกเหนือจากการทำงานที่ต้องไปตามพื้นที่ต่าง ๆ แล้ว หลังเสร็จสิ้นภารกิจแต่ละวัน ตนเองก็ใช้ชีวิตเปิดโลกให้ตัวเองในการดูสิ่งต่าง ๆ เพื่อเติมเต็มชีวิตอีกด้าน โดยภูมิลำเนาเดิมของหมอขวัญอยู่ในกรุงเทพฯ แต่หลังจากเรียนจบคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หมอขวัญก็ต้องออกมาใช้ชีวิตเพียงลำพังพร้อมกับอุดมการณ์ที่แน่วแน่เป็นหลักในการทำงาน รวมทั้งมีแรงสนับสนุนจากทางบ้านเป็นกำลังใจอย่างดี ที่บอกเสมอว่าแม้เงินเดือนที่ได้รับจะน้อยแต่ทุกอย่างก็เป็นประสบการณ์ชีวิต เป็นบทเรียนต่าง ๆ ที่เงินซื้อไม่ได้
ภาพจาก ThaiPBS
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ThaiPBS






