ภาพจาก PORNCHAI KITTIWONGSAKUL / AFP
หน่วยงานความมั่นคงไทย เผยข้อมูลผู้ก่อการร้ายเหตุ ระเบิดราชประสงค์ จำนวน 22 คน ระบุมีผู้สั่งการใหญ่เหนือนายอิซาน 1 คน พร้อมเปิดเส้นทางการก่อเหตุหลังจากเกิดเหตุวินาศกรรมครั้งใหญ่กลางเมืองหลวงของประเทศไทยอย่างเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา รวมทั้งคดีระเบิดที่ท่าเรือสาทรที่มีความเกี่ยวโยงกันนั้น ก็ผ่านมาแล้ว 1 เดือน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เร่งติดตามขยายผลกันอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดวันนี้ (17 กันยายน 2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีใหญ่ทั้ง 2 คดีถือว่ามีความคืบหน้าไปอย่างมาก โดยขณะนี้หน่วยงานความมั่นคงไทยได้เผยข้อมูลผลการสรุปจำนวนผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดทั้ง 2 จุดว่า มีผู้สั่งการใหญ่ที่สุด จำนวน 1 คน และมีบุคคลหลัก ๆ ที่เหลืออีก 21 คน รวมทั้งสิ้น 22 คน สามารถแบ่งเป็นกลุ่ม ดังนี้
นายอิซาน อายุ 27 ปี สัญชาติจีน
กลุ่มที่ 1 ทีมปฏิบัติการ 6 คน ได้แก่1. นายอิซาน อายุ 27 ปี สัญชาติจีน เป็นหัวหน้าทีมปฏิบัติการ
2. ชายเสื้อเหลือง เป็นมือวางระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์
3. ชายเสื้อฟ้า ทราบชื่อคือ นายซูบาร์ อับดุลลาห์ เป็นผู้วางระเบิดที่ท่าเรือสาทร โดยหลังเกิดเหตุได้หนีข้ามไปยังประเทศมาเลเซีย
4. นายไมไรลี ยูซูฟู เป็นผู้จัดหาสารเคมีและประกอบระเบิด ถูกจับเมื่อวันที่ 1 กันยายน ขณะกำลังหนีข้ามแดนไปกัมพูชา
5. นายอาเดม คาราดัก หรือ บิลาเติร์ก มูฮัมหมัด ทำหน้าที่คุ้มกันและจัดหาสารประกอบระเบิด ถูกจับได้ที่พูลอนันต์ อพาร์ทเม้นท์ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม
6. ชายไม่ทราบชื่อ ซึ่งพบหลักฐานเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่ท่าเรือสาทร
กลุ่มที่ 2 กลุ่มสนับสนุน/เปิดห้องพัก มี 3 คน ได้แก่
1. น.ส.วรรณา สวนสัน ชาวพังงา
2. นายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู สามีชาวตุรกีของ น.ส.วรรณา โดยทั้งสองร่วมกันเปิดห้องพักที่ไมมูณา การ์เด้นโฮม ซึ่งเจ้าหน้าที่พบสารตั้งต้นและอุปกรณ์ที่สามารถนำไปประกอบเป็นระเบิดได้
3. นายอาห์เม็ท โบซองแลน เปิดห้องพักที่พูลอนันต์ อพาร์ทเม้นท์ จุดที่จับกุมนายอาเดม คาราดัก และยึดอุปกรณ์ประกอบระเบิดล็อตใหญ่
กลุ่มที่ 3 ผู้สนับสนุนด้านการเงิน มี 3 คน ได้แก่
1. ชายชาวตะวันออกกลาง 1 คน
2. ชายชาวตุรกี 1 คน
3. ขณะที่ นายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู สามีของ น.ส.วรรณา เป็นตัวกลางรับเงินจาก 2 คนแรกส่งให้ทีมปฏิบัติการในประเทศไทย
กลุ่มที่ 4 ผู้สนับสนุนเรื่องวีซ่าและพาสปอร์ต มี 2 คน เป็นชายชาวต่างชาติทั้งคู่ เคลื่อนไหวอยู่นอกประเทศ
กลุ่มที่ 5 ทีมพามือระเบิดหลบหนี มี 7 คน
- ผู้จ้างวานและจ่ายเงิน มี 2 คน เป็นชาวต่างชาติทั้งคู่ หนึ่งในนั้นถือสัญชาติปากีสถาน
- ทีมเคลื่อนย้ายและพามือระเบิดหนี มี 3 คน เป็นคนไทยทั้งหมด คาดว่าถูกจับหมดแล้ว หนึ่งในนั้นคือ นายกามารุเด็ง สาเหาะ ชาวนราธิวาส
- ทีมพาข้ามชายแดนไทย-มาเลเซีย เป็นคนไทย 1 คน ถูกจับกุมแล้ว ทราบชื่อคือ นายเปาะเดะ และชาวมาเลย์อีก 1 คน ทราบชื่อแล้วเช่นกัน
สำหรับเส้นทางการก่อเหตุตั้งแต่เริ่มเข้าประเทศไทยและหลังเกิดระเบิดของทีมปฏิบัติการ มีดังนี้
1. เริ่มจากนายอิซาน ยังไม่ชัดว่าเดินทางมาจากที่ไหนก่อนเข้าไทย แต่ได้เดินทางออกจากไทยทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก่อนเกิดระเบิดเพียง 1 วัน คือ วันที่ 16 สิงหาคม 2558 มุ่งหน้าไปยังกรุงธากา ประเทศบังกลาเทศ และพักอยู่ที่นั่นราวครึ่งเดือนก่อนเดินทางออกจากบังกลาเทศไปเปลี่ยนเครื่องที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ซึ่งล่าสุดทางการบังกลาเทศยืนยันมาที่ไทยแล้วว่า นายอิซานบินต่อไปที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และตุรกี โดยมีการซื้อตั๋วเครื่องบินอำพรางว่าจะกลับจีน
2. ชายเสื้อฟ้า มือระเบิดที่ท่าเรือสาทร เดินทางจากประเทศลาวเข้ามายังประเทศไทย จากนั้นได้นำระเบิดไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ท่าเรือสาทร คาดว่าเป็นระเบิดลูกที่ 2 ที่ทำสำรองไว้หากลูกแรกพลาด แต่เมื่อลูกแรกที่สี่แยกราชประสงค์ประสบผลรุนแรงเกินคาด จึงนำระเบิดลูกที่ 2 ไปทิ้ง ก่อนจะเดินทางออกจากประเทศไทยทาง จ.นราธิวาส เข้าไปยังมาเลเซีย ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านบูกิต บินตัง อันเป็นย่านที่ผู้คนพลุกพล่านในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ก่อนหลบหนีต่อ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าขณะนี้ออกจากมาเลเซียไปแล้วหรือไม่
3. นายไมไรลี ยูซูฟู กับ นายอาเดม คาราดัก ได้เดินทางมาจากประเทศลาว ก่อนเข้าไทย โดยหลังเกิดระเบิดนายยูซูฟู พยายามหลบหนีข้ามฝั่งไปกัมพูชาด้าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แต่ถูกทหารกองกำลังบูรพาจับกุมได้เสียก่อน ขณะที่นายอาเดมยังคงซ่อนตัวอยู่ในที่พัก
4. ชายเสื้อเหลือง มือระเบิดราชประสงค์ มีรายงานว่าหนีข้ามไปมาเลเซียเช่นกัน
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @TNAMCOT, เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
