
ต้อม โอรส โพสต์เฟซบุ๊กยัน ไม่เคยหนีไปกบดานที่ไหน ใครอยากแจ้งความก็เชิญ ถ้าไม่มีหลักฐานก็จับตนไม่ได้ ยันทำอาชีพสุจริต พร้อมเจอตำรวจถ้าถูกเรียกตัว ขณะที่เหยื่ออีกรายโผล่แจ้งความแล้ว
กำลังเป็นบุคคลที่ตำรวจกำลังต้องการตัวในขณะนี้ สำหรับ นายรัชชานนท์ หรือ ต้อม โอรส หลังพ่อของน้องนะโม เด็กพิการโรคงวงช้างเข้าแจ้งความเอาผิดจากกรณีที่ ต้อม โอรส นำภาพของลูกชายไปแอบอ้างระดมเงินบริจาค รวมทั้งยังปรากฎว่า ต้อม โอรส มีพฤติกรรมแอบอ้างเบื้องสูงในการหลอกลวงขอรับบริจาคเงิน ซึ่งทาง นายไพรัตน์ เพชรยวน นายอำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ได้รวบรวมหลักฐานเพื่อเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วนั้น
ล่าสุดในวันนี้ (10 ตุลาคม 2558) เพจ Red Skull V.6 Plus ได้มีการเปิดเผยภาพข้อความจากเฟซบุ๊กของ ต้อม โอรส ที่ออกมาระบุว่า ผิดก็ว่าไปตามผิด อยากแจ้งความก็แจ้งเข้ามา จะเอาหลักฐานที่ไหนมาก็ได้เพราะยังไงตนก็ดูเป็นคนผิดอยู่แล้ว แต่หากแจ้งความไปโดยไม่มีหลักฐานก็จับตนไม่ได้อยู่ดี หากความจริงประจักษ์แก่สายตาประชาชนเมื่อไรก็จะเข้าใจตนเอง ยืนยันว่าตนเองยังไม่ได้หนี ยังใช้ชีวิตปกติ ทำอาชีพสุจริตเหมือนคนธรรมดา ไม่ได้กบดานที่ไหนแบบที่สื่ออ้าง พร้อมยืนยันว่าหากจะเรียกให้ตนไปพบหรือให้ไปที่โรงพักไหน ก็ติดต่อมาทางเฟซบุ๊ก ไลน์ หรือจะโทรศัพท์มาก็ได้
พร้อมกันนี้ยังมีรายงานด้วยว่า ต้อม โอรส ได้เข้าไปลบข้อความระดมเงินบริจาคในอดีตไปจนหมดแล้ว
ขณะที่ช่วงบ่ายวานนี้ (9 ตุลาคม) น.ส.ลิขิตตรา ยุทธชมพู อายุ 26 ปี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีกับ ต้อม โอรส ในข้อหาหลอกลวงประชาชน หลังจากที่ตนถูก ต้อม โอรส เข้ามาขอเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กแล้วส่วนข้อความอินบ็อกซ์เข้ามาขอรับเงินบริจาคช่วยเหลือ น้องใบเตย ที่มีอาการป่วยพิการ แขนขาอ่อนแรง มีฐานะยากจน ทำให้เธอตัดสินใจโอนเงินช่วยเหลือไป 500 บาท เมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา แต่กลับทราบภายหลังจากเพื่อน ๆ ว่าหมายเลขบัญชีดังกล่าวเป็นของภรรยา ต้อม โอรส รวมทั้งยังมีผู้ที่หลงเชื่อโอนเงินไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อมีคนสอบถามไปยังมารดาของ น้องใบเตย ก็ทราบว่าที่ผ่านมา ต้อม โอรส เคยนำเงินช่วยเหลือมามอบให้เพียงครั้งเดียวเมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมาเท่านั้น
ทั้งนี้ทราบว่าผู้ที่ถูก ต้อม โอรส หลอกลวงนอกจาก น.ส.ลิขิตตรา แล้วก็ยังมีแม่ค้าในตลาดฉัตรชัย ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งโอนเงินช่วยเหลือกว่า 20,000 บาท นอกจากนี้ยังมีเงินบริจาคของกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังรายหนึ่ง ซึ่งได้เรี่ยไรและลงขันกันนำไปมอบให้ ต้อม โอรส เพื่อช่วยเหลือน้องใบเตย และคาดว่ายังมีผู้ที่หลงเชื่อถูกหลอกลวงอีกจำนวนมาก จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีทางกฏหมาย
ขณะที่เบื้องต้น ทางตำรวจได้เชิญตัวมารดาของน้องใบเตยมาสอบปากคำแล้ว โดยจากนี้ต้องประสานไปยังธนาคารที่ภรรยาของ ต้อม โอรส เปิดบัญชีไว้ เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชีว่ามีการโอนเข้าจำนวนเท่าไร เพื่อดำเนินคดีทางกฏหมายต่อไป
ภาพจาก เพจ Red Skull V.6 Plus
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







