ศาลพิพากษาคดี หมอการเวก หลอกเหยื่อเปิดสำนักทำเสน่ห์ สั่งจำคุก 22 ปี 8 เดือน ฐานฉ้อโกง กระทำชำเราเหยื่อ พกปืนโดยไม่มีใบอนุญาต พร้อมให้ชดใช้เงินคืนอื้อ ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งโดนด้วย
วันนี้ (13 ตุลาคม 2558) ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาคดี ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง
1. นายธนวรรษ อัศวพลสุวรรณ หรืออาจารย์การเวก เทพหน้าทอง มอญแปลงรูป จำเลยที่ 1
2. นางจุฑาทิพย์ อัศวพลสุวรรณ จำเลยที่ 2
3. น.ส.สุมิตรา นฤบดินทร์ จำเลยที่ 3
4. น.ส.ศติยาพร เชื้ออาษา จำเลยที่ 4
5. น.ส.ตรีสุคนธุ์ สวัสดิ์โสม จำเลยที่ 5
ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้จำเลยทั้ง 5 ได้ร่วมกันกระทำความผิด ระหว่างเดือน มิถุนายน 2553 ถึง 14 มีนาคม 2557 ด้วยการเปิดโฆษณาทางเว็บไซต์ ชื่อ akaravak ชักชวนให้คนมาทำคุณไสย ที่ สำนักทำการอยู่หมู่บ้าน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี โดยฉ้อโกงผู้เสียหายและหลอกให้ผู้เสียหายมีเพศสัมพันธ์กับจำเลยที่ 1 ก่อนทำพิธีกรรม โดยอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมรวมทั้งมีการถ่ายภาพและอัดคลิปไว้ด้วยและพบอาวุธปืนที่ไม่มีใบอนุญาต ซึ่งพบว่ามีผู้เสียหาย 7 รายมาเบิกความสอดคล้องกัน จึงขอให้พิพากษาจำเลยทั้ง 5 ตามความผิด และให้จำเลยร่วมกันคืนเงินแก่ผู้เสียหายด้วยแต่จำเลยทั้ง 5 ราย ให้การปฏิเสธ
ศาลจึงพิพากษาคดี ดังนี้
- จำเลยที่ 1 ให้จำคุกฐานฉ้อโกงประชาชน 7 กระทง โดยกระทงละ 3 ปี รวม 21 ปี ส่วนข้อหามีอาวุธปืนที่ไม่มีทะเบียน และมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้จำคุก 1 ปี, ข้อหามีอาวุธปืน จำคุก 8 เดือน และข้อหามีเครื่องกระสุนปืน ให้ปรับ 1,000 บาท รวมโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ทั้งสิ้น 22 ปี 8 เดือน แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดแล้วให้จำคุกสูงสุด ตามกฎหมายเป็นเวลา 20 ปี หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับ ก็ให้กักขังตามประมวลอาญา มาตรา 29 และ 30
- จำเลยที่ 2 ให้จำคุก 4 กระทง โดยกระทงละ 1 ปี รวม 4 ปี และขอหามีอาวุธปืน ให้จำคุก 8 เดือน รวมจำคุกทั้งสิ้น 4 ปี 8 เดือน
- จำเลยที่ 3 มีความผิด มาตรา 341 และ 343 ให้จำคุก 7 กระทง โดยกระทงละ 3 ปี รวม 21 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดแล้ว ให้จำคุกสูงสุดตามกฎหมายเป็นเวลา 20 ปี
- จำเลยที่ 4-5 ให้จำคุกคนละ 1 ปี และให้ริบอาวุธปืนของกลาง
นอกจากนี้ ศาลยังสั่งให้จำเลยที่ 1 และ จำเลยที่ 3 ร่วมกันชดใช้เงินคืนให้ผู้เสียหายทั้ง 7 รายด้วย เป็นเงิน 1,882,070 บาท และให้จำเลยที่ 2 ชดใช้เงินคืนให้ผู้เสียหายรวม 4 ราย เป็นเงิน 1,507,000 บาท
ภาพจาก สำนักข่าว INN
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก