บิ๊กตู่ ยันไม่ใช้มาตรา 44 ในคดีจำนำข้าว เผยคำสั่งทางปกครองมีอายุความ 2 ปี หากไม่ทำจะถูกดำเนินการ พร้อมบอกหากไม่พอใจจ่ายก็ไปฟ้องศาลปกครอง ย้ำอีกที ไม่มีการกลั่นแกล้ง
วันที่ 13 ตุลาคม 2558 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการออกคำสั่งทางปกครองเพื่อเรียกค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าวจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า จะผิดหรือถูกก็ต้องพิสูจน์กันต่อไป แต่ที่ไม่สามารถปล่อยไว้ได้ เพราะคำสั่งทางปกครองมีอายุเพียง 2 ปี จึงจำเป็นต้องส่งเรื่องไปตามมาตรการทางปกครองที่ต้องเรียกร้องค่าเสียหาย ซึ่งไม่ใช่กฎหมายใหม่ และจะไม่ใช้มาตรา 44 ในการดำเนินการ เนื่องจากคดีที่เกี่ยวกับนักการเมืองต้องขึ้นศาลปกครองทั้งหมด โดยการเรียกร้องค่าเสียหายต่าง ๆ ใช้เวลา 10 กว่าปี ซึ่งจะไม่ใช้กลไกพิเศษ เพราะจะทำให้ปัญหาทับซ้อนไปเรื่อย ๆ และการเปลี่ยนโครงสร้างอาจจะส่งผลถึงผลผลิตทางการเกษตร
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า หากเรียกค่าเสียหายแล้วไม่จ่ายหรือไม่ยอมรับ ก็สามารถฟ้องศาลปกครองได้ ส่วนการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ส่งจดหมายผ่านทนายความนั้น อาจจะไม่ได้เป็นคนเขียนเอง แต่คงเป็นคำแนะนำของทนาย ต้องฟังฝ่ายกฎหมายที่ตีความเช่นนั้น แต่กฎหมายฉบับเดียวไม่ได้ตีความเหมือนกัน เช่นเดียวกับรัฐธรรมนูญที่ฝ่ายค้าน และรัฐบาล ตีความกันคนละอย่างจนเกิดความขัดแย้ง
ส่วนการที่ทนายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตีความว่าคำสั่งทางปกครองจะต้องใช้กับข้าราชการผู้ใต้บังคับบัญชาเท่านั้น ที่จริงมีการเขียนระบุไว้แล้ว ตนจึงต้องเสนอเรื่องร่วมกับรัฐมนตรี ตามกฎหมาย แต่หากไม่จ่ายค่าเสียหายก็ไม่มีอำนาจบังคับ แต่ให้ไปฟ้องในศาลปกครองสู้กันแทน
พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า กรณีการส่งจดหมายเปิดผนึกนั้น ตนไม่ทราบ ให้คิดกันเอง เพราะไม่ใช่คนเขียนจดหมาย ฝ่ายกฎหมายอาจจะเขียนมาเพื่อให้สื่อมาถามตน ซึ่งทนายต้องรู้ว่ากฎหมายหมายความอย่างไรหรือไม่เคยเสนอให้รัฐบาลที่ผ่านมารับรู้ว่ามีอะไรบ้างที่ต้องระวัง ส่วนตัวเลขความเสียหายโครงการจำนำข้าวยังไม่ได้ข้อยุติ ดังนั้นจึงต้องหามาตรการรัดกุมเพื่อไม่ให้ถูกมองว่ากลั่นแกล้ง ซึ่งตนทำตามหน้าที่เพื่อให้เกิดการละเว้นกฎหมาย และคงต้องสู้กันด้วยหลักฐานและกฎหมายต่อไป
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra
ติดตามข่าว จำนำข้าว แบบอัพเดททั้งหมด คลิกเลยอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
