ข่าวหญิงเจ้าของเบนซ์วิวาทกับหญิงตั้งครรภ์ ปมเด็กเปิดประตูกระแทกรถ ล่าสุด เมียนายพลเจ้าของรถเบนซ์ สำนึกผิด นำดอกไม้ขอโทษถีบสาวท้องบาดเจ็บ แจงอารมณ์ชั่ววูบขณะโต้เถียง ด้านสาวตั้งครรภ์ไม่ติดใจเอาความ
จากกรณีในโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพและข้อความกรณี หญิงเจ้าของรถเบนซ์วิวาทกับหญิงตั้งครรภ์ อันมีต้นเหตุมาจากลูกชายวัย 2 ขวบของฝ่ายหญิงตั้งครรภ์เปิดประตูรถมากระแทกรถเบนซ์ป้ายแดง ซึ่งต่อมาทางตำรวจได้ออกมาชี้แจงว่า หญิงตั้งครรภ์ไม่ได้บาดเจ็บจากการถูกถีบท้อง และเรื่องไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่ถูกแชร์ออกมา อีกทั้งฝ่ายสามีของเจ้าของรถเบนซ์ก็ไม่ได้เข้ามาใช้อำนาจบาตรใหญ่ข่มขู่คู่กรณี เพียงแต่มาช่วยไกล่เกลี่ย ซึ่งขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถตกลงกันได้แล้วนั้น [อ่านข่าว เจ้าของเบนซ์ ยัน ไม่ได้ถีบหญิงท้อง ปมวิวาทเปิดประตูโดนรถ แค่ป้องกันตัว]
ล่าสุด (16 ตุลาคม 2558) บรรดาสื่อมวลชนจากหลายสำนักได้เดินทางมายัง สน.ทองหล่อ หลังได้ทราบว่าคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายจะมาเจอกัน โดย พ.ต.อ. ขจรพงศ์ จิตต์ภาคภูมิ ผกก.สน.ทองหล่อ ให้ข้อมูลว่า ฝ่ายหญิงกลางคนและสามีนายทหาร จะเข้ามาพบตำรวจในเวลา 13.00 น. เนื่องจากทั้งคู่ต้องการนำช่อดอกไม้มาขอโทษขอโพยในสิ่งที่ทำลงไปกับทางคู่กรณีที่เป็นหญิงตั้งครรภ์ และในส่วนของคดีความนั้นตนใด้ให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเรื่องราวทั้งหมด ทั้งจากกล้องวงจรปิดและ รปภ. ที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งหากผิดจริงก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย
ด้านสามีของสาวตั้งครรภ์รายดังกล่าว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เบื้องต้นได้ทราบแล้วว่าคู่กรณีจะเข้ามาแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งหากยอมรับผิดและขอโทษจากใจจริง ก็พร้อมจะรับคำขอโทษและไม่ติดใจเอาความใด ๆ แต่ต้องขึ้นอยู่กับอาการของภรรยาด้วย เนื่องจากกลัวว่าเด็กในท้องจะได้รับอันตราย เบื้องต้นคุณหมอแจ้งว่า เด็กปลอดภัยแต่ยังต้องรอดูอาการต่ออีกสักพัก ไม่ได้อยากเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ เพียงแต่อยากให้เข้าใจว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่ถูก เป็นผู้หญิงเหมือนกันน่าจะมีความยับยั้งชั่งใจบ้าง ไม่ใช่มาทำร้ายกันเช่นนี้
ส่วนที่คู่กรณีอ้างว่าตนจงใจขับรถชนขณะเลี้ยวรถเข้า สน.ทองหล่อ นั้น ขอยืนยันว่าไม่ทราบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของคู่กรณี อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากความรีบร้อนเพราะเป็นห่วงภรรยากับลูก ซึ่งตนก็ขอยอมรับผิด และได้เรียกประกันมาชดเชยค่าเสียหายส่วนนี้ พร้อมกล่าวคำขอโทษตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว
คืบหน้าในเวลา 13.00 น. นายจีระชัย และ น.ส.มาลิณี วรรักษ์ธนานันท์ ภรรยาที่ตั้งครรภ์ พร้อมด้วย นางอริษา ปัญญากิตติวัฒน์ คู่กรณี ก็ได้เดินทางมาชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมี พล.ร.ต. สมชาย ณ บางช้าง เลขานุการกองทัพเรือ พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.ทองหล่อ และ น.ส.ปนัดดา วงษ์ผู้ดี ประธานองค์กรทำดี ร่วมเป็นผู้ไกล่เกลี่ย
พล.ร.ต. สมชาย เผยว่า ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาเนื่องจากห่วงใยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะมีเจ้าหน้าที่ทหารเรือเข้าไปเกี่ยวข้องและต้องการให้ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกัน ซึ่งหน่วยงานให้ตนเองมาดำเนินการให้เสร็จสิ้นเรียบร้อย
น.ส.ปนัดดา กล่าวว่า คู่กรณีทั้งสองฝ่ายเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้เดินทางมาขอโทษกัน รวมทั้งเหตุการณ์ที่ปรากฎออกตามโซเซียลนั้นดูค่อนข้างรุนแรง แต่เมื่อทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันแล้วก็สามารถเข้าใจกันดีไม่มีการฟ้องร้องคดีความเกิดขึ้น นอกจากนี้ น.ส.มาลิณี ยังมีความกังวลหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวจึงอยากให้จบลงด้วยดี
ส่วนที่มีข่าวออกไปในทำนองที่ว่านายทหารเรือแต่งตัวเต็มยศมาข่มขู่นั้นไม่เป็นความจริง เพราะว่าวันนั้นเป็นวันรับตำแหน่งของผู้บังคับบัญชา จึงต้องแต่งตัวเต็มยศเมื่อเสร็จจากงานจึงแวะมาที่ สน.ทองหล่อ ทันที และไม่ได้ข่มขู่ตามที่เป็นข่าว
ด้าน นางอริษา เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียใจ เรื่องดังกล่าวเป็นการทะเลาะวิวาทของคนสองคนด้วยอารมณ์ ซึ่งหากย้อนไปได้คงไม่มีใครอยากให้เกิด รวมถึงเรื่องที่นำเสนอในโซเชียลนั้นอาจไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด จึงอยากให้ไตร่ตรองข้อมูลบ้าง เนื่องจากมีผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้หากลองย้อนกลับไปดูคลิปเหตุการณ์ที่มีผู้ถ่ายเอาไว้ก็จะเห็นชัดเจนว่า ตนเองถูกผลักล้มลง และพยายามคลานถอยหลังหนีด้วยซ้ำ เนื่องจากคู่กรณีมากันสองคน และขอยืนยันว่าตนไม่ได้ตั้งใจถีบคู่กรณีจนได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน สิ่งที่ทำคือแค่ต้องการป้องกันทรัพย์สินของตนเองเท่านั้น ซึ่งขณะนั้นตนเองก็ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินก็ได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง นอกจากนั้นในขณะที่เกิดการทะเลาะวิวาทกันอยู่ตนเองก็ไม่ทราบว่าคู่กรณีกำลังตั้งครรภ์ ซึ่งหลังจากทราบก็รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้หากลองย้อนกลับไปดูคลิปเหตุการณ์ที่มีผู้ถ่ายเอาไว้ก็จะเห็นชัดเจนว่า ตนเองถูกผลักล้มลง และพยายามคลานถอยหลังหนีด้วยซ้ำ เนื่องจากคู่กรณีมากันสองคน และขอยืนยันว่าตนไม่ได้ตั้งใจถีบคู่กรณีจนได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน สิ่งที่ทำคือแค่ต้องการป้องกันทรัพย์สินของตนเองเท่านั้น ซึ่งขณะนั้นตนเองก็ได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินก็ได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง นอกจากนั้นในขณะที่เกิดการทะเลาะวิวาทกันอยู่ตนเองก็ไม่ทราบว่าคู่กรณีกำลังตั้งครรภ์ ซึ่งหลังจากทราบก็รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม จากเรื่องที่เกิดขึ้นตนรู้สึกเสียใจ เพราะหากพูดจากันดี ๆ ตั้งแต่แรกก็คงไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว อีกทั้งจริง ๆ แล้วรถของตนที่ถูกลูกชายของหญิงตั้งครรภ์เปิดประตูมาชนก็ไม่ได้เป็นรอยแต่อย่างใด อาจเป็นการเข้าใจผิดของคู่กรณี ที่คิดว่าตนเองไม่ยอมจบแล้วเดินลงมาดูว่ารถเป็นอะไรหรือไม่ จนทำให้เรื่องบานปลายให้โตจนกลายเป็นการทะเลาะกันในครั้งนี้ และเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายก็คงรู้สึกเสียใจโดยเฉพาะตนเองที่มาทราบทีหลังว่าคู่กรณีกำลังตั้งครรภ์อยู่
ทาง น.ส.มาลิณี หญิงสาวตั้งครรภ์ ที่ได้รับบาดเจ็บกล่าวว่า ตอนนี้รู้สึกร่างกายระบมและเจ็บขาเล็กน้อยแต่เด็กในท้องปลอดภัยแล้ว โดยสัปดาห์หน้าทางแพทย์นัดตรวจร่างกายเพื่อดูอาการอีกครั้ง
ขณะที่ พ.ต.อ. ขจรพงศ์ เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้เชิญตัวทางคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาสอบปากคำและมีการไกล่เกลี่ย ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็เข้าใจกันทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี กระทั่งฝ่ายสามีของสาวตั้งครรภ์นำเนื้อหาไปโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ทำให้เกิดกระแสขึ้นมาอีกครั้ง เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแน่นอน
world_id:5620ad744d265ad0308b456b
***หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 18.15 น. วันที่ 16 ตุลาคม 2558
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก