เปิดคำบอกเล่าผู้รอดชีวิตก่อการร้ายปารีส มือปืนไร้ปรานี-ยิงดะคนพิการรายคน

          ผู้รอดชีวิตเหตุก่อการร้ายที่โรงละครบาตาคล็อง พากันบอกเล่าถึงเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญ มือปืนกราดยิงทุกคนอย่างไร้ความปรานี บุกยิงดะคนพิการนั่งวีลแชร์รายคน จิตใจอำมหิตเกินมนุษย์

          เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2558 เว็บไซต์มิเรอร์ของอังกฤษ เปิดเผยคำบอกเล่าชวนสลดใจจากผู้รอดชีวิตเหตุก่อการร้ายปารีส ระบุสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นน่าหวาดกลัวยิ่งกว่าฉากสยองขวัญในหนัง ผู้ก่อการร้ายยิงดะไม่เลือกหน้า แม้แต่กลุ่มคนพิการนั่งวีลแชร์ที่ไร้ทางสู้ มือปืนก็ไล่ยิงเป็นรายคน ใครพยายามเคลื่อนวีลแชร์หนีก็จะถูกยิงซ้ำอย่างไร้ความปรานี

          ไบรตัน ฮันน่า คอร์เบตต์ สาววัย 21 ปี หนึ่งในผู้ชมคอนเสิร์ตวงร็อค Eagles of Death Metal อยู่ภายในโรงละครบาตาคล็อง ได้เปิดเผยว่า "ตอนนั้นเป็นช่วงที่การแสดงกำลังจะจบพอดี เราได้ยินเสียงคล้ายกับพลุหรือดอกไม้ไฟ ทุกคนก็เลยคิดว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง กระทั่งเราได้เห็นสีหน้านักร้องนำเริ่มหวาดผวาและวิ่งลงจากเวทีไปอย่างรวดเร็ว ก็รู้ว่าไม่ใช่ส่วนหนึ่งของการแสดงแล้ว พอรู้เราก็เลยลงไปนอนราบกับพื้น พอเพลงจบทุกอย่างก็เข้าสู่ความเงียบ มีเพียงเสียงปืนและฉันก็เห็นเลือดนองบนพื้น ผู้คนพยายามช่วยเหลือกันและกอดกัน มันเป็นอะไรที่บาดหัวใจมาก บางคนก็คลานออกไปจากฮอลล์ แต่ก็มีผู้คนนอนกองกันอยู่ที่ทางหนีไฟ เราไม่รู้ว่าเราคลานข้ามอะไรมา แต่พอออกมาจากตรงนั้นได้ ทุกคนต่างวิ่งหนีเอาชีวิตรอด"

          แจ๊ค หนุ่มวัย 21 ปี ที่ไปชมคอนเสิร์ตกับฮันน่า ได้เล่าเพิ่มเติมว่า "ตอนที่พวกเราหมอบลงบนพื้น ผมมองขึ้นไปแล้วเห็นผู้ชายเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้อง ในมือถือปืน เขาสวมใส่เสื้อผ้าที่ปกติมาก เหมือนกับเป็นเสื้อยืดและกางเกงยีนส์ เราไม่รู้เลยว่าเราจะคลานหรือยืนดี ไม่รู้ว่าอะไรจะทำให้เรากลายเป็นเป้า แต่พอออกมาจากตรงนั้นได้เรารู้สึกโล่งอกมาก"


          เฮเลน วิลสัน ผู้เข้าชมคอนเสิร์ตชาวอเมริกัน เปิดเผยเรื่องราวน่าสลดใจยิ่งกว่านั้น "ตอนที่เกิดเหตุพวกมือปืนได้เข้าไปยังห้องหลังฮอลล์ ซึ่งมีคนพิการนั่งวีลแชร์อยู่ภายในนั้นหลายคน จากนั้นมือปืนก็เริ่มกราดยิงคนพิการทีละคน และทุกครั้งที่มีใครสักคนพยายามจะหนีออกมา พวกเขาก็จะเริ่มกราดยิงอีกครั้ง"

          โทนี่ สก๊อตต์ ชาวอังกฤษที่มาชมคอนเสิร์ต เล่าประสบการณ์สุดระทึกของตัวเองเช่นกันว่า "เรานึกว่าเป็นเสียงพลุในตอนแรก แต่ที่ไหนได้มันคือเสียงปืน มันน่าหวาดกลัวมาก โชคดีที่เราหนีออกมาได้ เราหนีไปทางดาดฟ้า ที่นั่นมีคนประมาณ 30 คนซ่อนตัวอยู่ พวกเราได้ยินเสียงปืนและเสียงระเบิดดังขึ้นต่อเนื่อง มันน่ากลัวสุด ๆ แต่ในที่สุดก็มีตำรวจมาพบเราและช่วยเราออกมาอย่างปลอดภัย"


          มาร์ค คูพริส วัย 57 ปี เผยว่า "มันเหมือนสนามรบเลย มีกองเลือดอยู่ทุกที่ มีศพอยู่ทุกมุม ผมเห็นมือปืนอย่างน้อย 2 คนได้"  ทั้งนี้ รายงานจากทางการระบุว่ามีมือปืนจิฮัดที่ก่อเหตุในโรงละครบาตาคล็องแห่งนี้ 4 คน

          นอกจากนี้ ยังมีอิโซเบล โบว์เดอรี่ หนึ่งในผู้อยู่ในเหตุการณ์ วัย 22 ปี ซึ่งตัดสินใจแกล้งตายเพื่อเอาชีวิตรอด ได้เล่าถึงช่วงเวลาเกิดเหตุว่า "มันเป็นคืนวันศุกร์ที่คนสนุกสุขสันต์กันมาก แต่แล้วก็มีชายกลุ่มหนึ่งตรงเข้ามาที่ทางเข้าแล้วเริ่มกราดยิง ทีแรกเราคิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงแต่ที่ไหนได้มันคือการสังหารหมู่ ผู้คนหลายสิบถูกยิงต่อหน้าต่อตาผม พื้นเต็มไปด้วยกองเลือด ผู้ชายหลายคนกอดศพของแฟนสาวร้องไห้ ส่วนผมแกล้งตาย พยายามกลั้นหายใจ ไม่เคลื่อนไหว ไม่ร้องไห้ พวกเขากราดยิงผู้คนโดยไม่สนเลยว่านั่นคือชีวิต"


          อนึ่ง รายงานระบุว่ามีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต ณ โรงละครบาตาคล็องแห่งนี้ไม่ต่ำกว่า 82 คน