สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อนุมัติร่างกฎหมายขวางการช่วยเหลือผู้อพยพจากซีเรียเข้ามาพำนักในประเทศ หักหน้าประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่มีแผนจะเปิดโอกาสให้ผู้อพยพชาวซีเรียกว่า 10,000 รายมาพักพิงในอเมริกา
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2558 เว็บไซต์ CBS เปิดเผยว่า สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาได้อนุมัติผ่านร่างกฎหมายเพื่อเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยในการพิจารณารับผู้อพยพที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศ ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 289-137 จากส.ส.ฝ่ายค้าน พรรครีพับลิกัน 242 คะแนน และจากส.ส.ฝ่ายรัฐบาล พรรคเดโมแครต 47 คะแนน
ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ทั้งนี้เพื่อให้มีการรับรองและตรวจสอบความโปร่งใสในประวัติของผู้อพยพชาวอิรักและชาวซีเรีย ว่าพวกเขาไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติแต่อย่างใด
แต่อย่างไรก็ดี ร่างกฎหมายใหม่จะถูกส่งต่อไปยังวุฒิสภาเพื่อให้พิจารณา ก่อนยื่นต่อให้ประธานาธิบดี บารัค โอบามา และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าร่างกฎหมายจะถูกนำไปใช้จริงหรือไม่ ในขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครตซึ่งเป็นเสียงส่วนน้อย ต่างออกมายืนยันว่าจะไม่ยอมให้ร่างกฎหมายใหม่ฉบับนี้มีผลบังคับใช้แน่นอน
ทั้งนี้ ไมเคิล แม็คโคล ประธานคณะกรรมการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และส.ว. รัฐเทกซัส พร้อมด้วย ริชาร์ด ฮัดสัน ส.ว. รัฐนอร์ธแคโรไลนา ต่างให้สัมภาษณ์ว่าเห็นด้วยกับการเสนอร่างกฎหมายห้ามผู้อพยพเข้าประเทศ หลังทราบข่าวว่าผู้ก่อการร้ายที่ป่วนกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น (13 พฤศจิกายน) ได้แฝงตัวมากับกลุ่มผู้อพยพเพื่อเดินทางมาก่อความไม่สงบ
แต่ด้านประธานาธิบดี บารัค โอบามา ก็ดูจะไม่สะทกสะท้านหรือเดือดเนื้อร้อนใจกับคะแนนโหวตอันท่วมท้นแต่อย่างใด เจ้าตัวยังคงยึดมั่นในโครงการรับผู้อพยพชาวอิรักและซีเรียเข้าประเทศจำนวน 10,000 รายในปีหน้านี้ และได้แสดงออกถึงความมั่นใจดังกล่าวด้วยการโพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์ของตนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (18 พฤศจิกายน)
ภาพจาก Twiiter @POTUS, ARIS MESSINIS / AFP