อิรักสั่งระงับเที่ยวบินในภูมิภาคทางตอนเหนือของประเทศ เคลียร์น่านฟ้าเปิดทางให้เรืบรบรัสเซียยิงขีปนาวุธถล่มกลุ่ม IS ในซีเรีย
สำนักข่าวรอยเตอร์ส มีรายงานเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2558 ว่า รัฐบาลอิรักสั่งระงับเที่ยวบินที่จะเดินทางจากกรุงแบกแดดไปยังเมืองเออร์บิลและสุไลมานิเยาะห์ ทางตอนเหนือของประเทศ เป็นเวลา 2 วัน เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ (23 พฤศจิกายน) เพื่อความปลอดภัยของผู้เดินทางและเปิดทางให้ขีปนาวุธที่ยิงจากเรือของกองทัพรัสเซียที่ลอยลำในทะเลแคสเปีย ผ่านน่านฟ้าของประเทศไปถล่มกลุ่ม IS ในซีเรียที่มีพรมแดนเชื่อมต่อกันได้อย่างสะดวก
โดยรัสเซียได้เริ่มปฏิบัติการโจมตีกลุ่มโจมตีปล่อยจรวดร่อน (cruise missile) และขีปนาวุธพิสัยไกลไปยังซีเรีย ตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยวิถีของระเบิดเดินทางไกลกว่า 1,500 กิโลเมตรเพื่อไปโจมตีเป้าหมาย โดยผ่านน่านฟ้าบางส่วนของอิรักและอิหร่าน
ที่ผ่านมารัสเซียยังได้เปิดฉากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรีย โดยเผยว่าเป็นการทำตามการขอความช่วยเหลือจากประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด โดยมีเป้าหมายทำลายล้างกลุ่ม IS ซึ่งกำลังยึดครองหลายพื้นที่ในอิรักและซีเรีย แต่สหรัฐอเมริกาออกมากล่าวหาว่า รัสเซียโจมตีเป้าหมายอื่นด้วยนอกเหนือจากกลุ่มรัฐอิสลาม อันรวมกองกำลังกบฏที่ชาติตะวันตกกำลังให้การสนับสนุนอยู่ นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังอ้างว่าขีปนาวุธ 4 ลูกที่ถูกยิงจากเรือรบของรัสเซียในทะเลแคสเปียน ไปตกในประเทศอิหร่าน แม้ทางด้านรัสเซียยืนยันว่า ขีปนาวุธเหล่านั้นเดินทางถึงเป้าหมายโจมตีในซีเรีย
ทั้งนี้ ขีปนาวุธ Kalibr ที่รัสเซียใช้ ซึ่งทางนาโต้เรียกว่า Sizzler เป็นขีปนาวุธแบบ cruise missile ร่อนจากพื้นสู่พื้นที่ระดับความสูง 50 เมตร และมีประสิทธิภาพโจมตีเป้าหมายได้แม่นยำในรัศมี 3 เมตร ตามคำกล่าวอ้างจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Ministry of Defence of the Russian Federation