กระทรวงวัฒนธรรม ยก เปี๊ยก โปสเตอร์ ธีรภาพ โลหิตกุล และเรือตรี สันติ ลุนเผ่ เป็นศิลปินแห่งชาติ 2558 เตรียมเข้ารับพระราชทานโล่และเข็มเชิดชูเกียรติจากสมเด็จพระเทพฯ ในวันศิลปินแห่งชาติ (24 กุมภาพันธ์ 2559)
วันที่ 23 ธันวาคม 2558 พล.อ. ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวแถลงผลการประชุมคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณารายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2558 โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลให้เป็นศิลปินแห่งชาติ ใน 3 สาขา จำนวน 8 คน และจะเข้ารับพระราชทานโล่และเข็มเชิดชูเกียรติจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ในวันศิลปินแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559
สำหรับรายชื่อศิลปินแห่งชาติทั้ง 8 ท่าน มีดังนี้
สาขาทัศนศิลป์ 3 ท่าน ได้แก่
- นายกฤษฎา โรจนกร สาขาสถาปัตยกรรม
- ศ.วิชัย สิทธิรัตน์ สาขาประติมากรรม
สาขาวรรณศิลป์ 2 ท่าน ได้แก่
- นายธีรภาพ โลหิตกุล สาขาสารคดี
- นายไพวรินทร์ ขาวงาม สาขากวีนิพนธ์
สาขาศิลปะการแสดง 3 ท่าน ได้แก่
- น.ส.เวณิกา บุนนาค สาขานาฏศิลป์ไทย
- เรือตรี สันติ ลุนเผ่ สาขาดนตรีสากล
- นายสมบูรณ์สุข นิยมศิริ หรือ เปี๊ยก โปสเตอร์ สาขาภาพยนตร์และละครโทรทัศน์
ด้านนายสมบูรณ์สุข นิยมศิริ หรือ เปี๊ยก โปสเตอร์ วัย 83 ปี ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์) กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจที่ได้รับการยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ และยินดีที่จะเผยแพร่แนวคิดในการทำงาน ตลอดจนตำราภาพยนตร์ทั้งหมดที่ตนได้แปลเพื่อเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลัง นอกจากนี้ ตนได้เตรียมวาดภาพพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นภาพขนาดใหญ่เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อในหลวง ตลอดชีวิตการทำงานเดินตามรอยพระองค์ ทำประโยชน์เพื่อสังคมและยึดปรัชญาพอเพียง
ขณะที่นายธีรภาพ โลหิตกุล ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (สาขาสารคดี) กล่าวว่า ตนอยากฝากถึงการใช้ภาษาไทยในยุคโซเชียลมีเดียที่มีการติดต่อสื่อสารกันอย่างรวดเร็วว่า อย่าให้ความรวดเร็วมาทำลายความงามของภาษา ด้วยการใช้ภาษาอย่างถูกต้องเหมาะสม อย่างไรก็ดี ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาตนมีปัญหาสุขภาพป่วยด้วยโรคพาร์กินสันทำให้ต้องงดบรรยายงานถ่ายทอดงานเขียน จึงรู้สึกหนักใจเมื่อได้เป็นศิลปินแห่งชาติ ซึ่งเกรงว่าอาจจะอุทิศตนทำงานเพื่อสังคมได้ไม่เต็มที่มากนัก แต่ยินดีถ่ายทอดความรู้ของตนเองผ่านงานเขียนให้มากที่สุด
ส่วนเรือตรี สันติ ลุนเผ่ สาขาดนตรีสากล ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล ) เปิดเผยว่า ตลอดชีวิตของการเป็นนักร้อง ตนตั้งใจร้องเพลงอย่างดีที่สุด และไม่คาดคิดว่าจะได้รับรางวัลอันทรงคุณค่านี้ ซึ่งในงานขับร้องนั้น จะต้องฝึกฝนตนเองอยู่ตลอดเวลา ทบทวนเพลงเก่าเพื่อเป็นการฝึกสมอง รวมทั้งจะศึกษาบทเพลงใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการพัฒนาตนเอง
นอกจากนี้ ตนยังรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ขับร้องบทเพลงความฝันอันสูงสุด และได้ถวายงานขับร้องเพลงอยู่เสมอ ซึ่งทุกเพลงพระราชนิพนธ์นั้นมีความหมาย ส่วนเพลงรักชาติมีทุกยุคทุกสมัยตนจึงตั้งใจขับร้องเพราะเป็นเพลงที่สำคัญทำให้คนรักกันและมีพลังต่อสู้ชีวิต อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้คนไทยช่วยกันรักษาเพลงรักชาตินี้ไว้ให้ดี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก NineEntertain, กรมส่งเสริมวัฒนธรรม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
