สตง. เตรียมสอบกรุงเทพมหานคร เหตุใช้งบกว่า 40 ล้านบาท ไปกับการจัดไฟประดับลานคนเมือง พบพิรุธหลายอย่าง ค่าประกอบแผงไฟอย่างเดียว 20 ล้านบาท และผู้รับเหมาทำงานก่อนที่จะเซ็นสัญญาจ้างงาน
หลังจากที่กรุงเทพมหานคร ได้จัดกิจกรรมประดับไฟ LED และหลอดไฟคริสตัลกว่า 5 ล้านดวง บริเวณลานคนเมือง และใช้งบประมาณทั้งสิ้นกว่า 40 ล้านบาท ก็นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย เกี่ยวกับการใช้งบประมาณสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ โดยที่ กทม. ยืนยันว่า ไฟประดับนี้ คือการคืนความสุขให้ชาว กทม. และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกด้วย
ล่าสุด (28 ธันวาคม 2558) สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ได้ขอเอกสารการดำเนินโครงการนี้จากกรุงเทพมหานคร และพบว่างบประมาณที่ดึงมาใช้นั้น เป็นงบประมาณฉุกเฉิน เพื่อดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่ ตามนโยบายมหานครแห่งความสุข โดยมีค่าใช้จ่ายหลัก ๆ คือค่าประกอบแผงไฟกว่า 20 ล้านบาท, ค่าใช้จ่ายในพิธีเปิดงาน 2.5 ล้านบาท, ค่าใช้จ่ายในการทำโครงสร้าง 4 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 40 ล้านบาท โดยผู้ว่าจ้างจะใช้ดำเนินการจัดแสดงไฟ ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2558 - 31 มกราคม 2559 ทั้งที่โครงการเช่นนี้ สามารถใช้งบปกติได้
ด้านนายพิสิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องดูว่า มีความเหมาะสมที่จะใช้เงินฉุกเฉินหรือไม่ และเหมาะสมกับการท่องเที่ยวหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีการโปรโมทล่วงหน้า การเปิดไฟเดือนหนึ่งแล้วหมดงบประมาณไป 30 กว่าล้านบาท ก็ต้องถามว่า มันก่อให้เกิดความยั่งยืนในเรื่องการท่องเที่ยวหรือไม่
นอกจากนี้ ทางผู้รับเหมา ยังมีการดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ ก่อนที่ กทม. จะประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูล โดยที่ผู้รับเหมาสามารถเตรียมงานได้ก่อนที่จะมีการเซ็นลงนามในสัญญาด้วย ชี้ให้เห็นว่า ผู้รับเหมาต้องมั่นใจมาก ๆ ว่าจะชนะการประมูล
ด้านคุณเบญทราย กีย์ปัจจ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ไฟที่เห็นนั้นจะแตกต่างจากไฟทุกที่ในประเทศไทย โดยไม่เคยมีการจัดไฟประดับที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อน แผงไฟนั้นทำด้วยมือ ลวดลายของไฟมีความหมายหมดเลย
อย่างไรก็ตาม ทาง กทม. กลับไม่ให้คำตอบเกี่ยวกับบริษัทที่รับงาน โดยงบประมาณทั้งหมดนั้น เป็นเพียงแค่ค่าประดับไฟ ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทว่า กทม. เอง เตรียมเปิดเผยค่าใช้จ่ายในสำหรับการจัดไฟครั้งนี้ต่อสื่อมวลชน เร็ว ๆ นี้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร, ไทยพีบีเอส
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ไทยพีบีเอส, pptvthailand.com
หลังจากที่กรุงเทพมหานคร ได้จัดกิจกรรมประดับไฟ LED และหลอดไฟคริสตัลกว่า 5 ล้านดวง บริเวณลานคนเมือง และใช้งบประมาณทั้งสิ้นกว่า 40 ล้านบาท ก็นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย เกี่ยวกับการใช้งบประมาณสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ โดยที่ กทม. ยืนยันว่า ไฟประดับนี้ คือการคืนความสุขให้ชาว กทม. และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกด้วย
ล่าสุด (28 ธันวาคม 2558) สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ได้ขอเอกสารการดำเนินโครงการนี้จากกรุงเทพมหานคร และพบว่างบประมาณที่ดึงมาใช้นั้น เป็นงบประมาณฉุกเฉิน เพื่อดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่ ตามนโยบายมหานครแห่งความสุข โดยมีค่าใช้จ่ายหลัก ๆ คือค่าประกอบแผงไฟกว่า 20 ล้านบาท, ค่าใช้จ่ายในพิธีเปิดงาน 2.5 ล้านบาท, ค่าใช้จ่ายในการทำโครงสร้าง 4 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 40 ล้านบาท โดยผู้ว่าจ้างจะใช้ดำเนินการจัดแสดงไฟ ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2558 - 31 มกราคม 2559 ทั้งที่โครงการเช่นนี้ สามารถใช้งบปกติได้
ด้านนายพิสิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องดูว่า มีความเหมาะสมที่จะใช้เงินฉุกเฉินหรือไม่ และเหมาะสมกับการท่องเที่ยวหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีการโปรโมทล่วงหน้า การเปิดไฟเดือนหนึ่งแล้วหมดงบประมาณไป 30 กว่าล้านบาท ก็ต้องถามว่า มันก่อให้เกิดความยั่งยืนในเรื่องการท่องเที่ยวหรือไม่
นอกจากนี้ ทางผู้รับเหมา ยังมีการดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ ก่อนที่ กทม. จะประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูล โดยที่ผู้รับเหมาสามารถเตรียมงานได้ก่อนที่จะมีการเซ็นลงนามในสัญญาด้วย ชี้ให้เห็นว่า ผู้รับเหมาต้องมั่นใจมาก ๆ ว่าจะชนะการประมูล
ด้านคุณเบญทราย กีย์ปัจจ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ไฟที่เห็นนั้นจะแตกต่างจากไฟทุกที่ในประเทศไทย โดยไม่เคยมีการจัดไฟประดับที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อน แผงไฟนั้นทำด้วยมือ ลวดลายของไฟมีความหมายหมดเลย
อย่างไรก็ตาม ทาง กทม. กลับไม่ให้คำตอบเกี่ยวกับบริษัทที่รับงาน โดยงบประมาณทั้งหมดนั้น เป็นเพียงแค่ค่าประดับไฟ ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทว่า กทม. เอง เตรียมเปิดเผยค่าใช้จ่ายในสำหรับการจัดไฟครั้งนี้ต่อสื่อมวลชน เร็ว ๆ นี้
เกาะติดข่าว สุขุมพันธุ์ บริพัตร ทั้งหมด
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ไทยพีบีเอส, pptvthailand.com
