
จากกรณีที่ นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแถลงข่าวเตรียมยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้ตรวจสอบ กทม. จำนวน 3 โครงการ เนื่องจากส่อว่ามีการทุจริต คือ การจัดซื้อกล้องวงจรปิด หรือซีซีทีวี, โครงการไฟประดับลานคนเมือง และการต่อสัญญารถไฟฟ้าบีทีเอส ตามที่ได้มีรายงานไปแล้วนั้น [อ่านข่าว : วิลาศ เตรียมยื่น ป.ป.ช.- สตง. สอบทุจริต กทม. 3 โครงการรวด]

นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าฯ กทม.
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2559 เวลา 14.45 น. นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าฯ กทม. ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวโต้ตอบกรณีที่นายวิลาศ ระบุว่า กทม. มีการติดตั้งกล้องซีซีทีวีไปแล้ว 47,000 ตัว แต่ตรวจสอบพบเพียง 11,000 ตัว ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด เนื่องจากนายวิลาศได้ทำหนังสือขอรายละเอียดการจัดซื้อจัดจ้างกล้องซีซีทีวี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2556-2558 ซึ่งในปีงบประมาณดังกล่าว กทม. ได้มีการติดตั้งกล้องซีซีทีวีไปจำนวน 11,000 ตัว แต่ทั้งนี้ทาง กทม. ได้มีการดำเนินติดตั้งกล้องซีซีทีวีมาตั้งแต่ปี 2550 ทำให้ปัจจุบันมีกล้องซีซีทีวีที่ใช้งานได้จริงรวม 47,719 ตัว และคาดว่าปี 2559 จะมีกล้องซีซีทีวีเพิ่มอีก 6 หมื่นตัวตามนโยบายของผู้ว่าฯ กทม. และตนขอยืนยันว่า กทม. ได้ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบสำนักงบประมาณและข้อบังคับของสำนักนายกรัฐมนตรี และไม่มีการทุจริตคอรัปชันใด ๆ

นายอมร กล่าวต่อว่า เรื่องงบประมาณการจัดงานไฟประดับลานคนเมือง ที่มีงบประมาณจำนวน 39 ล้านบาท เป็นการใช้งบประมาณจากงบกลางปี 2559 หรืองบการเงินสำรองจ่ายทั่วไป ที่มีจำนวน 300 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณนี้อยู่ภายใต้การตัดสินใจของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ที่สามารถเบิกมาใช้ตามหลัก 4 ข้อ ดังนี้
1. รายจ่ายที่มีความเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
2. รายจ่ายตามคำพิพากษาทางกฎหมาย
3. รายจ่ายเร่งด่วนตามนโยบายของรัฐบาล
4. รายจ่ายตามนโยบายของผู้ว่าฯ กทม.
ซึ่งการใช้เงิน 39 ล้านเพื่อจัดโครงการไฟประดับลานคนเมืองตรงกับข้อที่ 4 เพื่อใช้จ่ายเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชนและเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับกรุงเทพฯ เป็นเมืองท่องเที่ยวอีกครั้งหลังเกิดเหตุระเบิดราชประสงค์ และถือเป็นค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่าเนื่องจากคาดว่าจะมีประชาชนมาเที่ยวงานจำนวน 4 แสนคน เฉลี่ยตกคนละ 100 บาท ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบพื้นที่การจัดงาน และถือเป็นการโปรโมทการท่องเที่ยวไปในตัวเพราะเมื่อมีคนมาร่วมงาน ซึ่งขณะนี้มีประชาชนมาร่วมงานแล้วกว่า 1 ล้านคน และถ่ายภาพลงโซเชียลจะทำให้มีภาพ 1 ล้านภาพกระจายในโลกโซเชียลซึ่งทั่วโลกจะได้เห็นความสวยงาม
ส่วนเรื่องขั้นตอนการเปิดประมูลการจัดงานที่มีบริษัทมาขอรายละเอียดโครงการจำนวน 9 บริษัท แต่วันที่เปิดประมูลเหลือเพียง 2 บริษัท เกิดจากข้อกำหนดเรื่องระยะเวลาที่ผู้ชนะการประมูลต้องเข้ามาดูสถานที่จัดงานวันที่ 15 ธันวาคม 2558 และต้องทำให้เสร็จภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2558 ทำให้บริษัทต้องเข้ามาติดตั้งไฟก่อนวันลงนามสัญญาจ้าง และการที่บริษัทที่ชนะการประมูลตั้งงบน้อยกว่าราคากลางขอยืนยันว่าไม่มีการฮั้วประมูลแน่นอน เพราะหากบริษัทที่ชนะการประมูลทำไม่ทันเวลาก็ต้องชดใช้ค่าเสียหายและ กทม. ก็ไม่มีสิทธิ์ไปกีดกันบริษัทไหน

นายอมร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการต่อสัญญารถไฟฟ้าบีทีเอส จากเดิมที่จะหมดสัญญาในปี 2572 แต่มีการต่อสัญญาไปอีก 30 ปีนั้น ขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช. และตอนนี้ทาง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้สั่งให้ทีมงานศึกษากฎหมาย ซึ่งหากหลังจากนี้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีกอาจจะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ที่ทำให้ กทม. เสียหาย
เกาะติด ข่าว ไฟประดับลานคนเมืองกรุงเทพ ทั้งหมดคลิกเลย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

