
นางไช่ อิง เหวิน
ภาพจาก PHILIPPE LOPEZ / AFP
ไช่ อิง เหวิน สร้างประวัติศาสตร์ ขึ้นเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของไต้หวัน หลังชนะการเลือกตั้งจนสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ พร้อมพาไต้หวันเข้าสู่ยุคใหม่แล้ว
เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2559 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ไช่ อิง เหวิน หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า หรือ DPP ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิบดีของไต้หวัน และเธอยังเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกอีกด้วย
ในสุนทรพจน์ประกาศชัยชนะ ไช่ อิง เหวิน ได้ปฏิญาณที่จะรักษาสถานภาพปัจจุบันกับจีนเอาไว้ พร้อมกับบอกว่า ทางการจีนแผ่นดินใหญ่ต้องให้ความเคารพต่อประชาธิปไตยในไต้หวัน และทั้งสองฝ่ายต้องไม่ยั่วยุซึ่งกันและกัน
นอกจากนี้ เธอยังกล่าวว่า นี่คือยุคใหม่ของไต้หวัน และขอความร่วมมือจากพรรคการเมืองอื่น ๆ ในการช่วยผลักดันเพื่อแก้ปัญหาสำคัญของประเทศ
"ฉันอยากจะย้ำว่า ประเทศทั้งสองประเทศที่อยู่ในคาบสมุทรไต้หวันนั้น มีความรับผิดชอบในการหาเครื่องมือในการทำงานร่วมกัน โดยเครื่องมือนี้ ต้องมีพื้นฐานจากฃศักดิ์ศรีที่เท่าเทียมกัน และการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันอีกทั้งจะต้องเป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย"
"เราจะต้องมั่นใจว่าจะไม่มีการยั่วยุหรือเกิดเหตุการณ์อันไม่คาดคิดเกิดขึ้น การกดดันด้วยวิธีการใด ๆ ก็แล้วแต่ จะส่งผลเสียต่อความมั่นคงในเรื่องความสัมพันธ์ของสองประเทศ"
ด้านจีนนั้น มองว่าไต้หวันเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศ และเมื่อถึงคราวจำเป็น จีนก็สามารถใช้กำลังในการยึดคืนได้
ทั้งนี้ ไช่ อิง เหวิน ได้คะแนนโหวตนำนาย อีริค ชู หัวหน้าพรรคก๊กมินตั๋ง และได้อีริค ชู ก็ได้ออกมาประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ เขาได้แสดงความยินดีต่อ น.ส.ไช่ อิง เหวิน และประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคก๊กมินตั๋ง
พรรคก๊กมินตั๋ง ได้รับการเลือกตั้งมาตลอด 70 ปีที่ผ่านมา และได้พัฒนาความสัมพันธ์กับจีนมากขึ้นเรื่อย ๆ ชัยชนะของนางไช่ อิง เหวิน ถือเป็นการยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้พรรคก๊กมินตั๋งครั้งที่ 2 จากในประวัติศาสตร์ โดยครั้งแรกที่พรรคก๊กมินตั๋งพ่ายแพ่ต่อการเลือกตั้ง คือการพ่ายแพ้ให้แก่นายเฉินสุยเปี่ยน ประธานาธิบดีของไต้หวันนับตั้งแต่ปี 2000-2008 และในช่วงระหว่างนั้น จีนและไต้หวันก็ได้ทวีความรุนแรงในเรื่องความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ
เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2559 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ไช่ อิง เหวิน หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า หรือ DPP ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิบดีของไต้หวัน และเธอยังเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกอีกด้วย
ในสุนทรพจน์ประกาศชัยชนะ ไช่ อิง เหวิน ได้ปฏิญาณที่จะรักษาสถานภาพปัจจุบันกับจีนเอาไว้ พร้อมกับบอกว่า ทางการจีนแผ่นดินใหญ่ต้องให้ความเคารพต่อประชาธิปไตยในไต้หวัน และทั้งสองฝ่ายต้องไม่ยั่วยุซึ่งกันและกัน
นอกจากนี้ เธอยังกล่าวว่า นี่คือยุคใหม่ของไต้หวัน และขอความร่วมมือจากพรรคการเมืองอื่น ๆ ในการช่วยผลักดันเพื่อแก้ปัญหาสำคัญของประเทศ
"ฉันอยากจะย้ำว่า ประเทศทั้งสองประเทศที่อยู่ในคาบสมุทรไต้หวันนั้น มีความรับผิดชอบในการหาเครื่องมือในการทำงานร่วมกัน โดยเครื่องมือนี้ ต้องมีพื้นฐานจากฃศักดิ์ศรีที่เท่าเทียมกัน และการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันอีกทั้งจะต้องเป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย"
"เราจะต้องมั่นใจว่าจะไม่มีการยั่วยุหรือเกิดเหตุการณ์อันไม่คาดคิดเกิดขึ้น การกดดันด้วยวิธีการใด ๆ ก็แล้วแต่ จะส่งผลเสียต่อความมั่นคงในเรื่องความสัมพันธ์ของสองประเทศ"
ด้านจีนนั้น มองว่าไต้หวันเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศ และเมื่อถึงคราวจำเป็น จีนก็สามารถใช้กำลังในการยึดคืนได้
ทั้งนี้ ไช่ อิง เหวิน ได้คะแนนโหวตนำนาย อีริค ชู หัวหน้าพรรคก๊กมินตั๋ง และได้อีริค ชู ก็ได้ออกมาประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ เขาได้แสดงความยินดีต่อ น.ส.ไช่ อิง เหวิน และประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคก๊กมินตั๋ง
พรรคก๊กมินตั๋ง ได้รับการเลือกตั้งมาตลอด 70 ปีที่ผ่านมา และได้พัฒนาความสัมพันธ์กับจีนมากขึ้นเรื่อย ๆ ชัยชนะของนางไช่ อิง เหวิน ถือเป็นการยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้พรรคก๊กมินตั๋งครั้งที่ 2 จากในประวัติศาสตร์ โดยครั้งแรกที่พรรคก๊กมินตั๋งพ่ายแพ่ต่อการเลือกตั้ง คือการพ่ายแพ้ให้แก่นายเฉินสุยเปี่ยน ประธานาธิบดีของไต้หวันนับตั้งแต่ปี 2000-2008 และในช่วงระหว่างนั้น จีนและไต้หวันก็ได้ทวีความรุนแรงในเรื่องความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ

นายอีริค ฉู
ภาพจาก HSIEH CHIA-CHANG / POOL / AFP
นอกจากนี้ สำนักข่าวบีบีซี เผย ภาพบรรยากาการเลืองตั้งประธานาธิบดีของไต้หวัน ซึ่งมีขึ้นในวันนี้ (16 มกราคม 2559) โดยตัวเก็งสำคัญที่ถูกจับตามอง คือ นางไช่ อิง เหวิน หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านประชาธิปไตยก้าวหน้า และนายอีริค ฉู ตัวแทนจากพรรครัฐบาลก๊กมินตั๋ง ซึ่งจากโพลสำรวจคะแนนนิยมที่มีขึ้นก่อนการเลือกตั้ง ปรากฏว่า นางไช่ อิง เหวิน ได้รับคำแนนนิยมนำหน้าตัวแทนพรรครัฐบาล ทำให้เกิดกระแสความคาดหวังว่า ชาวไต้หวันอาจได้เห็นสุภาพสตรีขึ้นนั่งในตำแหน่งผู้นำประเทศเป็นครั้งแรก
การเลือกตั้งครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ นายหม่า อิง จิ่ว ผู้นำพรรคก๊กมินตั้งและประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ได้พบปะหารือกับ นายสีจิ้นผิง ผู้นำของจีน ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเดิอนพฤศจิกายน 2558 นับเป็นการพบกันครั้งแรกของผู้นำทั้งสองประเทศในรอบ 60 ปี และถูกมองว่าการพบปะหารือครั้งนี้เป็นสัญลักษณ์ถึงนัยยะบางอย่าง

ภาพจาก Sandy Cheng / AFP

ภาพจาก SAM YEH / AFP






