ยอดอัจฉริยะแห่งยุค สตีเฟน ฮอว์คิง เตือน ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ไม่อาจควบคุมได้ อาจเป็นภัยร้ายที่นำมาซึ่งหายนะของมวลมนุษยชาติภายในระยะเวลา 100 ปี
วันที่ 19 มกราคม 2559 เว็บไซต์มิเรอร์ของอังกฤษ เปิดเผยว่า ศาสตราจารย์สตีเฟน ฮอว์คิง ได้กล่าวว่า เผ่าพันธุ์มนุษย์อาจถูกทำลายล้างภายในเวลา 100 ปีข้างหน้า ซึ่งอาจเป็นยุคที่อันตรายที่สุดเท่าที่เคยถูกจารึกในหน้าประวัติศาสตร์ เนื่องมาจากความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ค่อย ๆ สั่งสมหายนะแห่งวันสิ้นโลก โดยเฉพาะอาวุธนิวเคลียร์และเชื้อไวรัสใหม่ ๆ ที่ถูกมนุษย์คิดค้นและสร้างขึ้น
เราไม่อาจหยุดหรือดึงสิ่งเหล่านี้กลับได้ ฉะนั้นเราควรตระหนักถึงอันตราย และเรียนรู้ที่จะควบคุมมัน ศาสตราจารย์ฮอว์กิ้ง กล่าวขณะให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ เรดิโอ ไทม์ส
ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ฮอว์กิ้ง กล่าวว่า ยังคงมีความหวังสำหรับเรื่องนี้อยู่บ้าง ตราบใดที่มนุษย์ยังสามารถเอาตัวรอดให้พ้นจากยุคต่าง ๆ ไปได้
เรื่องการสร้างถิ่นที่อยู่ใหม่นอกโลก อย่างเช่น อาณานิคมอวกาศ ยังเป็นเรื่องไกลตัวมาก มนุษย์ยังไม่มีเทคโนโลยีที่ดีพอจนกว่าจะผ่านไปอีกราว 100 ปีข้างหน้า ฉะนั้น เราในยุคนี้ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ศาสตราจารย์ฮอว์กิ้ง กล่าวเสริม
อย่างไรก็ดี ถึงแม้มนุษย์อาจรอดชีวิตไปจนถึงศตวรรษที่ 22 หรือ 23 ก็ยังคงมีภัยพิบัติที่น่าสะพรึงอีกหลายอย่าง รอเราอยู่ในอีก 10,000 ปีข้างหน้า
โดยศาสตราจารย์ฮอว์กิ้ง ระบุว่า อาจเกิดเหตุการณ์เลวร้าย อย่างเช่น การบุกโลกของมนุษย์ต่างดาวที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย การปลดแอกของปัญญาประดิษฐ์ ที่อาจตั้งตนเป็นศัตรูและทำลายล้างมนุษยชาติ รวมถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยหุ่นยนต์ จากกลุ่มลัทธิแบ่งแยกชาติพันธุ์ต่าง ๆ
ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ฮอว์กิ้ง ยังคงเชื่อมั่นในความคิดของตน แม้จะมีคำครหาจากคนอื่นที่ว่า เขาเป็นคนประเภทที่ทำงานเลี้ยงกร่อย เพราะชอบคาดการณ์เรื่องราวในอนาคตเป็นแง่ร้ายไปทั้งหมด
แค่เพราะผมใช้เวลาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะไปหน่อย ไม่ได้หมายความว่าผมชอบมีปัญหากับชาวบ้านในงานเลี้ยงไปทั่ว ศาสตราจารย์ฮอว์กิ้ง กล่าวติดตลก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Stephen Hawking