กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2559 ให้ประชาชนเตรียมรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในช่วงวันที่ 25-27 มกราคม ส่งผลมาจากความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนที่จะแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยตอนบนอาจมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และทำให้อากาศเย็นลงถึงหนาว และอุณหภูมิอาจจะลดลงถึง 1-3 องศาเซลเซียส ก่อนจะกลับไปอุ่นขึ้นในช่วงวันที่ 28-31 มกราคม 2559 รวมถึงมีหมอกลงหนาแน่น
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 25-27 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 20-25 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 2-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 28-31 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-5 องศา กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-30 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอย อากาศหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 25-27 ม.ค. อากาศหนาวกับมีลมแรง กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 17-22 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 28-31 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-6 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 23-30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 25-27 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 22-27 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 28-31 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-7 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาหนาในบางพื้นที่ โดยฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 17-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 25-27 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 25-27 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 17-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
กรุงเทพฯ และปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 25-27 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม. /ชม.
ขอบคุณข้อมูลจาก
- กรมอุตุนิยมวิทยา
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 25-27 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 22-27 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 28-31 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-7 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาหนาในบางพื้นที่ โดยฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 17-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 25-27 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 28-30 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-7 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 25-27 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 17-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 28-31 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 25-27 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ในช่วงวันที่ 25-27 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 28-31 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม. /ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพฯ และปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 25-27 ม.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม. /ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 28-30 ม.ค. อุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-7 องศา กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ขอบคุณข้อมูลจาก
- กรมอุตุนิยมวิทยา